ตั้งค่าหัวล่า บุคคลอันตราย “พี-เป็ด” คู่หู สังหารต่อเนื่องดับ 2 ราย

จากกรณีนายธนาธร ทิพย์ประเทือง หรือ “พี ดาวดึงส์” วัย 31 ปี (มือยิง) และนายนพดล อินศิริ หรือ “เป็ด” อายุ 33 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.กระหน่ำยิง นายเดชา ยาข้าวเบา อายุ 70 ปี อดีตทหารผ่านศึกที่ขาพิการข้างหนึ่ง ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกัน พื้นที่หมู่ที่ 3 ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.อ่างทอง จนเสียชีวิตภายในห้องนั่งเล่นชั้นล่างของบ้าน

ก่อนที่นายพี จะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์นายเป็ด ขับขี่ข้ามตำบลระยะทางกว่า 10 กม.ไปก่อเหตุกระหน่ำยิงนายพิชากร บุญช่วย หรือ “เต้า” อายุ 30 ปี อดีตแฟนน้องสาว ขณะนั่งให้น้ำไก่ชนอยู่ภายในบ้าน พื้นที่หมู่ที่ 7 ต.บ้านอิฐ อ.เมือง จ.อ่างทอง กระสุนเข้าตามร่างกายถึง 8 แห่ง จนเสียชีวิตเป็นรายที่ 2 และหลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา

เบื้องต้น ญาติของผู้ก่อเหตุให้การว่า นายพี มีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งติดตามตัว เพราะเกรงว่าจะไปก่อเหตุซ้ำอีก เนื่องจากเหตุการณ์ที่ผ่านมานายพี ได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายเดชา เพื่อนบ้านนับสิบนัดอย่างเลือดเย็นก่อนที่จะเดินออกมาจากบ้านแบบไม่สะทกสะท้าน และไปก่อเหตุแบบเดียวกันอีก จึงเป็นบุคคลอันตรายที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน

เปิดพิกัดสุดท้ายหลังกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม อยู่ที่รอยต่อ จ.สิงห์บุรี 

พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้นำกล่องกระสุนปืนที่ยึดจากบ้านของพ่อนายพีมาตรวจสอบ เบื้องต้นปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืนที่พบในที่เกิดเหตุมียี่ห้อและเลขล๊อตผลิตเดียวกัน ตำรวจคาดว่านายพี น่าจะมีกระสุนติดตัวอยู่อีกกว่า 30 นัด ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังในการติดตามตัว

และจากข้อมูลล่าสุด พบว่าหลังก่อเหตุทั้งคู่ได้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่ง บริเวณริมถนนโพธิ์พระยา-ท่าเรือ ใกล้สี่แยกป่างิ้ว ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง และพบจุดสุดท้ายอยู่ที่รอยต่อ จ.สิงห์บุรี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดอ่างทอง และชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้แบ่งชุดไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุอย่างกระชั้นชิด พร้อมตั้งรางวัลนำจับผู้แจ้งเบาะแสหนึ่งหมื่นบาท เพื่อที่จะนำตัวมาดำเนินคดี

เบื้องต้น ศาลจังหวัดอ่างทองได้อนุมัติหมายจับทั้งคู่ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้อนุญาต , พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับในอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว

พีชอบเล่นปืน อารมณ์ร้อน

นางสาวอารยา แสงประการ อายุ 29 ปี  เพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า นายพีกับเพื่อนบ้านผู้เสียชีวิตมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง โดยผู้เสียชีวิตอยู่กับลูกชาย 2 คน ก่อนเกิดเหตุลูกชายเห็นพ่อไม่ไปรับที่โรงเรียนเลยโทรหา แต่ไม่มีคนรับสายหลายครั้ง จึงจ้างรถจักรยานยนต์กลับเข้ามาที่บ้านและพบว่าพ่อถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัสและชีวิตในเวลาต่อมา

นางสาวก้อย อายุ 26 ปี เล่าให้ฟังว่า นายพีชอบยิงปืนเล่นเป็นประจำ เป็นคนอารมณ์ร้อนเคยมีครอบครัวแต่แยกกันอยู่กับพ่อแค่สองคน โดยนายพีชอบตีไก่และชอบเล่นปืนเป็นประจำ

ด้านนายยนต์ อายุ 56 ปี พ่อของนายพี ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ช่วงบ่ายได้ยืนเสียงปืนดัง 3 นัดตนเองนอนอยู่ในบ้าน ด้วยความกลัว เพราะนายพีมีอาการคลุ้มคลั่งบ่อยครั้ง จึงหลบออกมาไปบ้านเพื่อน หลังจากนั้นไม่นานน้องสาวก็โทรมาบอกว่านายพีก่อเหตุยิงคนตายจึงรีบโทรตามภรรยาและกลับมาที่บ้านก็ไม่พบนายพีแล้ว

ลูกป่วยจิต ไม่ได้เสพยา แม่วอนมอบตัวกับตำรวจ 

ด้านนางเล็ก แม่ของนายพี เล่าว่า ปกติตนเองไม่ได้อยู่ที่นี่ เนื่องจากแยกทางกับพ่อของนายพี โดยนายพีป่วยจิตเวช และกินยาบ้างไม่กินบ้าง แต่ไม่ได้เสพยา ซึ่งนายพีหลังจากออกจากงานก็มีอาการคลุ้มคลั่งบ่อยครั้ง ซึ่งก็พยายามพูดคุยกับลูก แต่ก็ไม่ค่อยสำเร็จ โดยผู้เสียชีวิตก็มีปัญหากันมาตลอดกับนายพี

“วิงวอนผ่านสื่อโดยบอกว่า ขอให้พีมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขออย่าไปทำร้ายใครอีกขอให้เชื่อฟังแม่ พ่อแม่รักพีเสมอ” แม่นายพี กล่าว

เพื่อนเล่านาทีเกิดเหตุ รอดตายหวุดหวิด

นายปอน ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า คนร้ายที่มาก่อเหตุคือนายพี และเป็นบุคคลคลเดียวกับที่ก่อเหตุยิงเพื่อนบ้านจนเสียชีวิต ส่วนสาเหตุคาดว่านายพี โกรธแค้นนายเต้า ที่เพิ่งเลิกกับแฟนสาว ซึ่งเป็นมีศักดิ์เป็นน้องของนายเต้า จนทำให้มาก่อเหตุ ขณะก่อเหตุนายพี ยังหันอาวุธปืนจะยิงใส่ตน แต่ตนวิ่งหนีทัน จึงรอดตายหวุดหวิด