15 กุมภาพันธ์ 2568 ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ ฆ่ายกครัว 3 ศพ พ่อแม่ลูกถูกนำร่างหมกในรถกระบะ พื้นที่ จ.กำแพงเพชร ผลการชันสูตรพบว่า ทั้ง 3 คนถูกยิงด้วยอาวุธที่ศีรษะ ประกอบด้วย นายวงศกร (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี, น.ส.นันทกานต์ (สงวนนามสกุล) หรือ แจง อายุ 35 ปี และน้องซันเดย์ อายุ 7 ปี หลังจากหายไปจากบ้านพักตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งตำรวจสามารถจับกุม นายศิวกร หรือ โน๊ต เพื่อนของน้องชายของแจง หนึ่งในผู้เสียชีวิต หลังจากสอบเค้นนาน 6 ชั่วโมง
ต่อมาในวันนี้ ที่ สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษมก์สิริ รองผบช.ภ.6 พล.ต.ต.โอภาส คงเมือง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร พ.ต.อ.รัฐศรัณย์ เกตุสิงห์สร้อย ผกก.สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ร่วมกันแถลงสรุปคดี
หลังการเเถลงเสร็จสิ้น ตำรวจควบคุม ผู้ต้องหาไปชี้จุดทำเเผนประกอบสำนวนการรับสารภาพ ท่ามกลางพ่อเเม่ของฝ่ายหญิงที่มารอดูตัว เมื่อนำตัวนายโน้ตออกมา ต่างด่าทอด้วยความเครียดเเค้น ตำรวจต้องกันพื้นที่เอาไว้ ไม่ให้เข้ามา
ในการทำแผนฯ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ใส่เสื้อเกราะเเละกันน็อก จากนั้นเริ่มการทำเเผนที่จุดที่นำศพพ่อเเม่ลูกมาอำพราง บริเวณบ้านบ้านร้าง พื้นที่ ต.คลองขลุง ห่างจากโรงพักประมาณ 400 เมตร โดยนำรถกระบะมาจำลอง ในการนำศพพ่อเเม่ลูกมาซ่อนเร้นอำพราง ระหว่างทำเเผน นักข่าวพยายามสอบถามเเต่นายโน้ต ไม่ตอบคำถามใดๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่มีการทำเเผน มีพ่อเเม่ผู้ตาย ญาติพี่น้อง ชาวบ้านใกล้เคียง ต่างเดินทางมารอดูการทำเเผนจำนวนมาก ต่างด่าทอ สาปเเช่ง นายโน้ต ทำให้ตำรวจต้องใช้ชุดปฏิบัติการพิเศษ กั้นพื้นที่เอาไว้ ระหว่างนั้น นายสิริชัย หรือ โป๊งเหน่ง น้องชายของภรรยาคนตาย พยายามที่จะเข้าไปประชาฑัณฑ์ เเต่ถูกตำรวจได้กันตัวเอาไว้
เมื่อเข้าไปสอบถาม นายโป๊งเหน่ง ที่นายโน้ตพยายามเบี่ยงประเด็น ว่าเขาเป็นคนฆาตกรรม 3 เเม่ลูก นายโป๊งเหน่ง บอกว่า คับเเค้นใจมาก ที่ทำกับครอบครัว พี่สาว เเละ พี่เขย เเละ ยืนยันว่าไม่เคยเป็นเพื่อนกับนายโน้ต ไม่คิดว่าจะเป็นนายโน้ต เเละ ผิดสังเกตที่นายโน้ตพยายามเข้ามาพูดคุยเเละหาข้อมูล อยากให้นายโน้ตได้รับโทษประหารชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนำตัวขึ้นรถไปจุดที่ 2 เกิดความวุ่นวายขึ้นอีก เมื่อพี่ชาย ของนายใหม่ กลุ่มญาติ พยายามที่จะเข้ามาประชาทัณฑ์ เเต่ถูกเจ้าหน้ากันไว้ ด้วยอารมณ์ความโกรธเเค้น จึงทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ตะโกนว่า "ทำไมต้องปกป้องคนชั่ว" "ตำรวจปกป้องคนชั่ว" ทำให้ตำรวจบอกกับญาติว่า "ถ้าปกป้องคนชั่วจะจำเข้าเข้าคุกทำไม?"
ขณะที่ชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ ต่างก็มีอารมณ์ โกรธเเค้นเคือง ตะโกนด่าทอนายโน้ต ว่า โจรยังมีวิชาชีพ เขาไม่ฆ่าเด็ก เเละคนตายเขาก็เป็นคนดี อยากให้ได้รับโทษหนักเช่นกัน ไม่ควรกระทำเช่นนี้ บางคนตะโกน มันโหดเหี้ยม มันโหดเหี้ยม
จากนั้นตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหาไปจุดที่ นายโน้ตอ้างว่า นำปืนบีบีกันไปทิ้งที่บ่อน้ำ ห่างจากสถานีตำรวจประมาณ 4-5 กิโลเมตร ซึ่งจุดนี้ตำรวจก็ไม่ได้น้ำตัวผู้ต้องหาลงจากรถเช่นกัน เเละอยู่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็ยังคงงมหาปืนของกลางตั้วเเต่ช่วงสาย เเต่ก็ไม่พบปืน
ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหา ยังอยู่ในรถตู้ ไปที่จุดสำคัญ ก่อเหตุลงมือยิง นายวงศกร หรือ ใหม่ บริเวรหมู่ที่ 8 บ้านร้อยไร่ ตำบลคลองคลุง ท่ามกลางชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงที่ออกมาดูการทำเเผน สาปเเช่ง ผู้ก่อเหตุ ว่าไม่สมควรทำกับเด็ก ตำรวจจอดรถรอประเมินสถานการณ์อยู่นาน เเต่สุดท้าย รอง ผบก.ภจว.กำเเพงเพชร ก็ไม่ได้นำตัวนายโน้ต ผู้ต้องหาลงจากรถ เพราะห่วงความปลอดภัย ทำให้พี่ชายของนายใหม่ ตะโกนบอกว่า "ให้เอาลงมาเถอะ"
แต่สุดท้ายเเล้ว ตำรวจพานายโน้ต นายนิรุธ ออกไปจากจุดก่อเหตุสำคัญที่ลงมือยิง จนชาวบ้าน เเละญาติพี่น้อง เดินทางกลับออกจากจุดเกิดเหตุ เเละพานายโน้ต ไปชี้จุดสำคัญในภายหลังโดยไม่มีนักข่าว โดยญาติพี่น้องมาติดตาม ก่อนที่จะนำตัว 2 ผู้ต้องหา นายโน้ต เเละ นายนิรุธ กลับมาที่ สภ.คลองขลุง นำตัวเข้าไปคุมขัง เมื่อเข้าไปในห้องขังนายโน้ตหลั่งน้ำตา ร่ำไห้ นั่งอยู่ในมุมห้องขัง เเละ ยืนเกาะลูกกรงมองดูออกมาภายนอก
พ.ต.อ. เอนก จันทรศร รอง ผบก.ภจว.กำเเพงเพชร เปิดเผยถึงการสอบสวน จุดที่ชี้จุด ว่า หลังก่อเหตุมีการยื้อเเยงปืนกันระหว่างขับรถไป ซึ่งคำให้การของผู้ต้องหาเชื่อว่ามีส่วนจริง เพราะสืบมาตลอด เเละสามารถคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ตั้งเเต่วันที่2 ที่พบศพ พร้อมยืนยันว่า หลักฐานเเน่นมาก
ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็น BB กันดัดเเปลง ซิกซาวเออร์ กระสุน 380 นายโน้ต ซื้อมาจากในเน็ต ราคา 7,000 อ้างว่านำไปจำนำกับนายใหม่คนตาย 7,500 บาท สำหรับทอง เป็นของภรรยา ที่นายโน้ต เอาไป น้ำหนัก 3 บาท นำไปจำนำ มีหลักฐานการโอนเงิน มีภาพวงจรปิดชัดเจน นายโน้ตนำเงินที่ขายทองไปใช้เเล้วจำนวน 5 หมื่นบาท ส่วนอีก 5 หมื่นบาท จะพยายามหาทางนำกลับมาคืนญาติผู้ตาย
นายโน้ต ผู้ต้องหายังมีความร้อนตัวเรื่อง SMS ที่ส่ง หลังจากที่ตำรวจสืบทราบจากซิมมือถือ เเละเบอร์ปริศนา ซึ่งเป็นกุญเเจสำคัญ เป็นของเพื่อนนายโน้ตที่ อำเภอไทรงาม ทำให้ตำรวจทำคดีได้อย่างรวดรวดเร็ว นำตัวผู้ต้องสงสัยมาได้ทันที
พี่ชายนายใหม่ ที่ตามมาดูการทำเเผน เปิดเผยว่า พอทราบผลการชันสูตรว่า อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุบีบีกัน รู้ตัวทันทีว่าเป็นนายโน้ต เเละหลังจากที่พี่ชายหายตัวไปก็พยายามที่จะเข้ามาพูดคุย เพื่อหาข่าวตัวเขา ส่วนตัวเชื่อว่า นายโน้ตวาบเเผนมาชิงทรัพย์ เเละ ไม่คิดว่าจะนำปืนไปทิ้งตรงนั้นตามที่อ้าง
ขณะที่ ชาวบ้าน บอกว่า คืนวันนั้นได้ยินเสียงปืน เเต่ไม่มีใครกล้าออกมาดู จนกระทั่งเช้ามาพบครบเลือกเเละมาเก็บลายนิ้วมือ เเฟนที่เห็นเหตุการณ์คนทะเลาะกัน ก็ไปให้การกับตำรวจ
ผู้สื่อข่าว "เนชั่นทีวี" ได้คุยกับครอบครัวของ น.ส.นันทกานต์ หรือ เเจง ซึ่งเป็นชาวม้ง เดินทางมาจาก อ.พบพระ จ.ตาก บอกว่า หลังรู้ว่าลูกสาวหายตัวไปครอบครัวต่างร้อนใจ หลังจากที่ทราบข่าว ใจสลาย รู้สึกโกรธที่มาทำกับครอบครัวลูกสาว เเละหลานชาย อยากให้ได้ติดคุกตลอดชีวิต
ขณะที่น้องสาว พี่สาว พูดเสริมว่า อยากให้ประหารชีวิตไปเลย ยิ่งเห็นหน้าคนร้ายเเล้วเเค้นมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ตำรวจจะสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 เพิ่มเติม โดยจะรอทนายความ ซึ่งการสอบปากคำทั้งสองจะต้องมีทนายร่วมรับฟังอยู่ด้วย เพราะเป็นคดีที่มีอัตราโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต