จากกรณี นช.วสันต์ อบนวล อายุ 32 ปี ผู้ต้องขังคดีวิ่งราวทรัพย์ ต้องโทษจำคุก 1 ปี 12 เดือน รับโทษมาแล้ว 9 เดือน เหลือ 1 ปี 3 เดือนจะพ้นโทษ ได้หลบหนีไปจากบริเวณงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์กรมราชทัณฑ์ หลังจากได้เบิกตัวจากเรือนจำจังหวัดนนทบุรี เพื่อมาช่วยทำงานตั้งแต่ 08.00 น. จนกระทั่งเวลาพักเที่ยง ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำทราบว่า นช.วสันต์ ได้หลบหนีไป จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ขอกำลังลงพื้นที่เร่งติดตามตัวนักโทษชายที่หลบหนีรายนี้ เหตุเกิดเมื่อวานนี้ ( 3 ก.พ.2568)
ต่อมา เมื่อเวลา 17.30 น. เมื่อวานนี้ ( 3 ก.พ.2568) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านย่าน ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวบาส (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นภรรยาเก่าของ นช.วสันต์ ที่หลบหนี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามเบาะแสของ นช.วสันต์ เช่นเดียวกัน
จากการสอบถาม น.ส.บาส อดีตภรรยา เปิดเผยว่า ตนกับ นช.วสันต์ เคยเป็นแฟนอยู่กินด้วยกันมา 11 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ผู้หญิง อายุ 8 ปี ผู้ชาย อายุ 12 ปี แต่ได้เลิกรากันไปเมื่อ 3 ปีก่อน โดยครั้งสุดท้ายที่ตนเจอกับนายวสันต์ ก็คือตอนที่เขาถูกจับดำเนินคดีที่ สภ.บางศรีเมือง วันนี้ตนเพิ่งมาทราบข่าวว่า เขาหลบหนีระหว่างออกมาทำงานข้างนอก
ซึ่งหลังจากเขาหลบหนีแล้วก็ไม่ได้เดินทางมาหาตนที่บ้านแต่อย่างใด ตนยอมรับว่า ตนและนายวสันต์ เคยพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วยกันมาก่อน ตอนนี้ตนก็อยากให้นายวสันต์ (อดีตสามี) เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ภายหลัง นช.วสันต์ หลบหนีไป ได้เดินทางกลับไปเอารถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นc classic สีเขียว ทะเบียน กรุงเทพ และโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง ที่บ้านของพ่อแม่ ภายในซอยศรีพรสวรรค์ อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อนจะขับรถ จยย.หลบหนีไป
ต่อมาเวลา 21.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง นำอุปกรณ์ส่องแสงสว่าง ไปตรวจสอบบริเวณป่ากระถิ่น ภายในซอยนนทบุรี 48 แยก 2 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าเรือนจำนนทบุรีว่า พบชายต้องสงสัยว่าเป็น นช.วสันต์ วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ากระถิ่น ซึ่งจุดดังกล่าวอยู่กลางซอย ลักษณะเป็นป่าดงกระถิน เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ด้านในมีบ่อน้ำ ต้นกก และเศษขยะเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ด้านหน้ามีสแลนด์สีดำ และเขียวปิดกั้นบริเวณป่าไว้ นอกจากนี้ยังมีที่รกร้างซึ่งมีกำแพงปูนสูง 2 เมตรปิดกั้นอยู่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้งจำนวน 20 คน พร้อมอุปกรณ์ส่องแสงสว่างขนาดใหญ่จำนวน 3 เครื่อง โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี สืบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ เจ้าหน้าที่เรือนจำนนทบุรี รวมประมาณ 30 นาย ลงพื้นที่เข้าปูพรมค้นหา แต่ไม่พบตัว นช.คนดังกล่าวแต่อย่างใด
จากนั้นเวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบชายต้องสงสัยสวมเสื้อดำ กางเกงยืนส์สีดำ หมวกกันน็อกสีดำ แมสดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์สีเขียว ภายในซอยเรวดี ใกล้วัดบางแพรกเหนือ ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี ซึ่งสามารถทะลุไปยังซอยศรีพรสวรรค์ บ้านพ่อแม่ของ นช.วสันต์ได้ โดยชาวบ้านแจ้งว่า ชายต้องสงสัยดังกล่าวได้ไปขอเงินหญิงสาวคนหนึ่งในซอยเรวดีก่อนขับรถจักรยานยนต์ออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล้องวงจรปิดบนงามวงศ์วาน เวลา 15.43 น. พบ นช.วสันต์ สวมเสื้อสีส้ม ขับขี่รถ จยย.ข้ามแยกพงษ์เพชร มุ่งหน้าแยกบางเขน กทม. คาดคะเนว่าหาก นช.วสันต์ น่าจะขี่ จยย.หลบหนีออกจากจังหวัดนนทบุรี เพื่อหลบหนีการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์
ความคืบหน้าล่าสุด 4 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ยังบ้านพักพ่อแม่ของ นช.วสันต์ อบนวล อายุ 32 ปี ผู้ต้องขังที่หลบหนีออกจากเรือนจำจังหวัดนนทบุรี โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามวิน จยย.รับจ้าง ภายในซอยวัดบางแพรกเหนือ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้า ตนเห็นเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ เดินทางมารับตัวแม่ของ นช.วสันต์ หรือ (เอก) ขึ้นรถออกไปแต่เช้า แต่ไม่ทราบว่าพาไปไหน โดยมีเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดนนทบุรี มาเฝ้าอยู่บ้านพักด้วย
สอบถามนางพัชรี สิทธิราช อายุ 46 ปี ชาวบ้านในชุมชนกล่าวว่า เมื่อวานนี้ (3 ก.พ.2568) ช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 - บ่าย 3 โมงเย็น ลูกน้องตนเห็นนักโทษคนดังกล่าว นั่งรถแท็กซี่มาลงที่หน้าบ้านเช่าของพ่อแม่เขา แต่ตอนนั้นพ่อเขาออกไปขับรถตุ๊กๆ อยู่ เหลือแต่แม่คนเดียวที่อยู่กับบ้าน เมื่อเขานั่งรถแท็กซี่มาถึงก็ขอเงินจากแม่เขา โดยอ้างว่าจะไปใส่กำไลอีเอ็มที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ทำให้แม่เขาคิดว่าลูกชายกำลังจะได้พักโทษ แม่จึงให้เงินเขาไป 100 บาท เขาก็นำมาจ่ายค่ารถแท็กซี่ไป 50 บาท เหลือติดตัวอยู่ 50 บาท ก่อนที่เขาจะขอยืมรถ จยย.สีเขียวของพ่อเขา พร้อมโทรศัพท์มือถือ โดยบอกกับแม่เขาว่าจะเดินทางไปติดกำไลอีเอ็มที่ศาลจังหวัดนนทบุรี
จากนั้นเขาก็ขับขี่รถ จยย.ของพ่อเขาออกไปเลย โดยตอนที่เขานั่งรถแท็กซี่มานั้น เขาสวมเสื้อคลุมมาด้วย จึงสังเกตุไม่ชัดว่าเขาสวมชุดนักโทษของเรือนจำ