17 มกราคม 2568 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำเอกสารหลักฐานที่อ้างว่า ได้จากการจำลองเหตุการณ์การตกเรือ และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา” ดาราสาว เข้าร้องดีเอสไอ ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสำนวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม โดยอ้างว่าการทำสำนวนคดีพบข้อพิรุธ มีลักษณะให้ความช่วยเหลือฝ่ายจำเลย เข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จ โดยเฉพาะเรื่องเส้นผม บนเรือ
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวาน (16 ม.ค.) ได้มีการจำลองเหตุการณ์การตกเรือ มีคำถามมากมายเกิดขึ้น ตนจะนำข้อมูลทั้งหมดมาใช้ในคดีใหม่ จึงจะขอให้ดีเอสไอรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ อ้างอิงจากคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส และคดีของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ที่ดีเอสไอเคยรับไว้เป็นคดีพิเศษก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกัน
ส่วนสาเหตุที่เดินทางมาร้องดีเอสไอ ก่อนแผนการไปร้องที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เนื่องจากไม่เชื่อมั่นการทำงานหน่วยงานดังกล่าว เพราะเป็นองค์กรตำรวจ ส่วนที่ไม่ไปร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพราะมองว่า ต้องการให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน โดยหากไปร้องทั้งที่ยังไม่มีการสอบสวน ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
นายอัจฉริยะ ยังคาดหวังว่า ทางดีเอสไอจะรับเป็นเลขคดีสืบสวน เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ซึ่งหากรับเป็นเลขคดีสืบสวนแล้ว ตนก็จะมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือ บุคคลที่อยู่ในเรือที่เกิดเหตุ ส่วนการพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ก็จะเป็นอีกขั้นตอนต่อไป
ด้าน พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า คดีนี้เป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ ขณะนี้คดีอยู่ในการพิจารณาของศาล ดีเอสไอก้าวล่วงไม่ได้ ส่วนที่ 2 คือ ทางผู้ร้องได้เข้ามาร้องให้สอบสวนเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้เป็นคดีใหม่ ซึ่งส่วนนี้ทางดีเอสไอ ต้องนำข้อมูลทั้งหมดไปพิจารณาว่า สามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง
เนื่องจากคดีนี้เข้าสู่กระบวนการของศาลแล้ว ทำให้ต้องระมัดระวังและตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน รวมถึงดูว่า ดีเอสไอ มีอำนาจหน้าที่อะไรที่จะสามารถ เข้าไปทำอะไรได้บ้าง การเข้ามายื่นเรื่อง ที่เป็นเรื่อง ถือเป็นปรากฎการณ์ที่ดี ที่ประชาชนมีความตื่นตัวในคดีต่างๆ
โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ บอกด้วยว่า สำหรับเรื่องที่นำมาร้อง จะใช้เวลาในการพิจารณาว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ขณะนี้ไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องให้เวลาพนักงานสอบสวน ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานที่ได้มาก่อน