svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบแล้ว โจ๋วัย 17 ปี ก่อเหตุชิงทอง 5 บาท ในห้างดัง ย่านรัชดา

รวบทันควัน โจ๋วัย 17 ปี บุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทอง ในห้างดังย่านรัชดา ฉกทองหนัก 5 บาท ก่อนทำแม็กกาซีน-ไฟแช็กตก ขี่ จยย. หลบหนี แต่ไม่รอด

18 สิงหาคม 2567 เวลา 12.45 น. พ.ต.ท.นคร ตั้งรวมทรัพย์ สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุ คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ร้านทอง ภายในห้างทอง สาขาในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาภิเษก แขวงและเขตดินแดง กทม.

 

รวบแล้ว โจ๋วัย 17 ปี ก่อเหตุชิงทอง 5 บาท ในห้างดัง ย่านรัชดา

 

 

จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวนและฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 

 

 

ที่เกิดเหตุตั้งอยู่บนห้างฯ ชั้น 2 เป็นร้าน จำหน่ายทองคำรูปพรรณและทองคำแท่ง ติดกับเชิงบันไดเลื่อน พบพนักงานอยู่ในร้านมีอาการตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

 

 

โดยพบว่ามีคนร้ายเป็นชาย 1 คนสวมหมวกแก๊ปสีขาวใส่แมสปิดบังใบหน้า สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงสีดำ มีกระเป๋าสะพายข้าง ทำทีเข้ามาขอดูทองก่อนจะชิงทรัพย์ทองคำหนัก 5 บาท

 

 

จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีผ่านทางบันไดเลื่อนลงไปด้านล่าง ระหว่างวิ่งหลบหนีคนร้ายได้ทำไฟแช็ค และแม็กกาซีนปืนหล่นไว้บริเวณทางขึ้น-ลง บันได้เลื่อน ชั้น 1 ก่อน ที่คนร้ายได้วิ่งหลบหนีไปขึ้นรถ รถจยย.ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเทาดำ ทะเบียน 6119 ที่จอดอยู่บริเวณร้าน โฮมโปร ด้านข้างห้างดังกล่าว แล้วขี่หลบหนีไป

พนักงานร้าน ให้ข้อมูลว่า รอบแรก ทางผู้ก่อเหตุใส่หมวกและแมส ปิดบังใบหน้า ทำทีเดินเข้ามาจากนั้นดูสร้อยข้อมือทองคำ โดยชี้ไปที่ทองแล้วถามว่าเส้นนี้หนักเท่าไร่ พนักงานจึงตอบไปว่า หนัก 2 บาท แต่พนักงานไม่ได้หยิบให้ และบอกให้ผู้ก่อเหตุ "รอสักครู่น่ะค่ะ 

 

 

เพราะมีลูกค้าอีกคนอยู่ในร้าน จากนั้นคนร้ายได้เดินออกจากร้านไป ผ่านไปราว 5-10 นาที คนร้ายได้กลับมารอบที่ 2 และขอดูสร้อยทองเส้นใหญ่ จะซื้อให้แฟน จากนั้นคนร้ายเดินไปที่ด้านหน้าตู้แล้วบอกพนักงานว่า จะเอาเส้นนี้ ก่อนฉวยโอกาสวิ่งหลบหนีไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บรอยนิ้วมือแฝงที่บริเวณจุดเกิดเหตุ บันทึกภาพ แม็กกาซีนปืนและไฟแช็คที่คนร้ายทำตกไว้ พร้อมขอภาพจากกล้องวงจรปิดจากทางห้างฯ เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป

 

 

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า คนร้ายสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นและสวมหมวกแก๊ป พร้อมกับสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ก่อนเกิดเหตุ คนร้ายได้ทำทีมาเดินดูลาดเลาบริเวณหน้าร้านแล้วเดินกลับออกไป ลักษณะเหมือนว่าชั่งใจที่จะก่อเหตุหรือไม่  หลังจากนั้นเวลาผ่านไปประมาณ 5 น. คนร้ายได้กลับมาที่ร้านอีกครั้ง โดยได้ขอพนักงานร้านว่าดูสร้อยคอทองคำ ซึ่งคนร้ายได้ยืนบริเวณด้านข้างของร้าน ทางพนักงานร้านทองเห็นว่าผิดสังเกตและเกรงว่าหากได้สร้อยคอทองคำคนร้ายจะวิ่งหลบหนี จึงได้เรียกให้คนร้ายเข้ามาดูภายในร้าน 

 

 

จากนั้นคนร้ายก็ทำทีขอพนักงานร้านดูสร้อยคอทองคำจำนวน 2 เส้น โดยเส้นแรกเมื่อคนร้ายดูแล้วก็คืนกับพนักงาน แต่เส้นที่ 2 ปรากฏว่าในระหว่างที่คนร้ายกำลังดูสร้อยคออยู่นั้น พนักงานร้านเห็นว่า คนร้ายมีลักษณะพิรุธ คือ มือไม้สั่น รวมทั้งขณะนั้น คนร้ายได้สวมหมวกและหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า จึงกำลังจะบอกให้คนร้ายถอดหมวกและเปิดใบหน้า แต่ก็ไม่ทันการ คนร้ายก็คว้าสร้อยข้อมือทองคำ มูลค่า 5 บาท วิ่งออกไปจากร้านทันที โดยคนร้ายได้สะดุดทางต่างระดับจนทิ้งรองเท้าแตะเอาไว้ ก่อนจะวิ่งลงบันไดเลื่อนหนีไป 

 

 

ทันใดนั้น พนักงานร้านทองที่ทำหน้าที่เลี่ยมพระอยู่หน้าร้าน ได้วิ่งตามคนร้ายเพื่อช่วยสกัดจับ แต่พอถึงบันไดเลื่อนชั้น 1 ปรากฏว่าคนร้ายได้คว้าอาวุธปืนหันมายิงพนักงานร้านถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกแรกกระสุนด้านและครั้งที่ 2 กระสุนลั่นลงพื้น ทำให้พนักงานร้านไม่วิ่งต่อเพื่อความปลอดภัย แล้วจากนั้นคนร้ายก็ได้วิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซค์หลบหนีไปทันที 

 

 

หลังเกิดเหตุ ก็ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งพิสูจน์ทราบตัวบุคคล เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นเตรียมตั้งข้อหาเอาผิดคนร้ายจำนวน 4 ข้อหาได้แก่ ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะ ,พยายามฆ่าผู้อื่น ,ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร 

 

 

ขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวนสามารถพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายผู้ต้องสงสัยได้แล้ว เป็นชายอายุช่วงประมาณ 17 - 20 ปี พบมีที่พักอาศัยอยู่ในย่านห้วยขวางไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการสอบปากคำพยานแวดล้อมที่เกิดเหตุและญาติพี่น้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยต่อไป โดยได้เบาะแสว่าหลังก่อเหตุ ผู้ต้องสงสัยได้ขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปทางแยกห้วยขวางตลอดแนวถนนรัชดาภิเษก ออกไปทางถนนวิภาวดีรังสิต จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าไปตามตัวเพื่อนำมาดำเนินคดี คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้ 

 

 

โดยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอฝากเตือนภัยไปยังบรรดาร้านทองว่า หากพบลูกค้าปิดบังอำพรางใบหน้า ไม่ควรที่จะให้ลูกค้ารายดังกล่าวเข้ามาภายในร้าน ควรจะต้องแจ้งให้ลูกค้าถอดหมวกหรือเครื่องปิดบังอำพรางใบหน้าออกทันที เพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นคนร้ายที่แฝงตัวเข้ามาก่อเหตุและเพื่อความปลอดภัย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่ร้านทองถูกชิงทรัพย์ในหลายพื้นที่นั้น ทางตำรวจ สน ห้วยขวาง จะเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยตามร้านทองต่าง ๆ ให้มากขึ้น 

 

 

ต่อมา เมื่อเวลา 16.40 น. ชุดสืบสวน บก.น.1 และ สน.ห้วยขวาง สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ ชายวัยรุ่นอายุ 17 ปี ได้บริเวณแฟลชแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุมากนัก 

 

 

โดยในระหว่างการควบคุมตัวเข้าห้องสืบสวน สน.ห้วยขวาง ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่า ต้องการจะพูดอะไรหรือไม่

 

 

ปรากฏว่าตัวผู้ต้องสงสัยพูดสวนกับผู้สื่อข่าวว่า "จะให้ผมพูดอะไร" ก่อนจะถูกควบคุมตัวเข้าห้องสืบสวนไป 

 

 

 

โดยมีข้อมูลว่า ทางผู้ต้องสงสัยได้ขี่จักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือตลอดแนวถนนวิภาวดีรังสิต จนจะถึง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้แวะทิ้งอาวุธปืนที่คลองรังสิต ก่อนที่จะวกกลับมาพื้นที่ห้วยขวางอีกครั้ง เนื่องจากทางครอบครัวได้โทรไปเกลี้ยกล่อม จนถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ 

 

 

นอกจากนี้ยังตรวจยึดของกลาง คือ สร้อยข้อมือทองคำมูลค่า 5 บาท และรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุได้ ส่วนอาวุธปืนนั้น อยู่ในระหว่างดำเนินการค้นหานำมาเป็นพยานหลักฐานเพิ่มเติม 

 

 

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงกับครอบครัวของผู้ต้องสงสัยวัย 17 ปีรายนี้ แต่ปรากฏว่า บรรดาครอบครัวของผู้ต้องสงสัยปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใด ๆ และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพครอบครัวของผู้ต้องสงสัยด้วย 

 

 

รายงานข่าวแจ้งว่า ในเวลา 19.00 น. วันนี้ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 จะเดินทางมาแถลงผลการจับกุมคดีดังกล่าวที่ สน.ห้วยขวาง