svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

วางแผน 9 เดือน ลวงเหยื่อสังหารโหด ขโมยรถ จี้ชิงทอง

คุมตัวมือชิงทองสารภาพ วางแผนมาหลายเดือน เรียกรถผ่านแอพฯ มายิงทิ้ง ขโมยรถไปชิงทอง ก่อเหตุคนเดียว เนื่องจากครอบครัวมีปัญหาด้านการเงิน ยึดทองคืนมาได้ 70 บาท

9 กรกฏาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และ สืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ คุมตัว "นายนิพิฐพนธ์" (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุชิงทองในห้างดังไปสอบสวนที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ซึ่งถูกตั้งให้เป็นศูนย์ปฎิบัติการคลี่คลายในคดีนี้ 

หลังจาก นายนิพิฐพนธ์ ถูกจับกุมได้ที่บ้านพักใน ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พร้อมของกลางทองรูปพรรณจำนวนหนึ่ง 

โดย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้ทำการผู้ก่อเหตุด้วยตัวเอง สอบสวน 

ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจอีกส่วนหนึ่ง อยู่ระหว่างวางแผนกู้ศพชายที่ถูกระบุว่าเป็นเจ้าของรถที่ใช้ในการก่อเหตุที่ถูกฆ่าและนำไปโยนทิ้งลงไปในหน้าผา ลึกประมาณ 50 เมตร ด้านหลังศาลาริมทางก่อนถึงน้ำตกวังบัวบาน ทางขึ้นดอยสุเทพ โดยนำศพชายเจ้าของรถขึ้นมาได้ในเวลา 22.00 น.

พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า หลังจากผู้ต้องหาก่อเหตุแล้วทางตำรวจจึงได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ครั้งแรกมีผู้ต้องสัยว่าที่ร้อยโท สุเทพ บ้านอยู่แม่แตง ตำรวจก็ได้ตาม กระทั่งเราทราบตัวผู้ต้องหาแล้วคือนาย นิพิฐพนธ์ บ้านอยู่ที่ดอยสะเก็ด พร้อมทองที่ไปชิงทรัพย์ ได้คืนมา 70 บาท พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอกรวมทั้งชุดที่ใช้ก่อเหตุ 

จากข้อสังเกตเมื่อกลางวันที่เจอเลือดในรถก็ได้มีการซักถามกระทั่งผู้ต้องหาก็รับสารภาพว่า มีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่บ้านมีการวางแผนที่จะหาเงินมาแล้วตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 โดยได้วางแผนตั้งแต่ตี 4 ได้นำรถของตัวเองมาจอดไว้ที่ ย่านร้านอาหารกาแล ตรงผาลาด ทางขึ้นดอยสุเทพ จากนั้นก็เดินทางเส้นทางธรรมชาติประมาณ 2 กิโลเมตร มายังจุดที่เจอรถคันที่ใช้ชิงทองจอดอยู่ที่มีคราบเลือด หลังจากนั้นได้โทรศัพท์เรียกแกร๊ปแมกซิม ซึ่งว่าที่ร้อยโทสุเทพ ชัยนันตา อายุ 48 ปี ที่มีอาชีพเป็นเทรนเนอร์ ออกกำลังกายและมีอาชีพเสริมขับแกร๊ปด้วย 

ผู้ต้องหาก็โทรเรียกมารับพอจอดปุ๊บผู้ต้องหาขึ้นหลังรถก็ใช้อาวุธปืนก๊อก 19 ยิงที่ท้ายทอย หลังจากยิงเสร็จ ก็ได้มีการย้ายศพนายสุเทพจากฝั่งคนขับมานั่งฝั่งผู้โดยสารแทน ซึ่งได้เตรียมการได้นำศพมาจอด ก่อนลากศพทิ้งป่าข้างทางเพื่ออำพราง ซึ่งจุดประสงค์ชิงทรัพย์ฆ่าว่าที่ร้อยโท สุเทพ ผู้ตายนั้นก็เพื่อที่จะนำรถของผู้ตายไปก่อเหตุ กระทั่งห้างเปิด 10.00- 11.00 น. จึงเข้าไปชิงทรัพย์เสร็จก็ได้นำรถกลับมาไว้ที่เดิม
 

ก่อนเดินไปตามเส้นทางธรรมชาติ เพื่อกลับไปเอารถของตัวเองคือยาริสสีขาวที่จอดตรงกาแล ก่อนนำทองไปประเวนขายในเมืองเชียงใหม่ 5 ร้าน สามร้านในเมืองไม่มีใครรับซื้อเพราะเจ้าของร้านทองเห็นข่าวและมีตราทองออโรร่าอยู่จึงไม่รับซื้อ แต่มีสองร้านที่ อำเภอดอยสะเก็ด และสันกำแพงรับซื้อไปทั้งหมด 10 บาท เหลือทอง 70 บาท กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำคนเดียวโดยที่ก่อเหตุเพราะว่ามีปัญหาเศรษฐกิจทางด้านครอบครัว 

"สำหรับผู้ต้องหารายนี้เรียนมหาวิทยาลัยมาสองปีคณะวิทยศาสร์แต่เรียนไม่จบ โดยลักษณะนิสัยชอบเล่นเกมส์เป็นประมาณเด็กเนิร์ด แผนประทุษกรรมส่วนหนึ่งนั้นมาจากการเล่นเกมส์ มีการวางแผนมีการสำรวจเส้นทางที่จอดรถจุดเรียกแกร๊ปและจุดทิ้งศพ ลงรายละเอียดเป็นเมตรๆ ใช้เวลาเดินกี่นาที ใช้เวลาวางแผนตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2566 ซึ่งจากจุดทิ้งศพนั้นจะเป็นหน้าผาลึกประมาณ 30-50 เมตร "

โดยเบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และวิ่งราวทรัพย์หรือชิงทรัพย์ เพราะตอนไปชิงทองนั้นพกปืนไปโดยและ พ.ร.บ. อาวุธปืน

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงศพของว่าที่ร้อยโทสุเทพ ชัยนันตา ขึ้นมาจากหน้าผาแล้วจะส่งศพไปชันสูตรที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหานครเชียงใหม่ต่อไป