svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ทนายด่าง" ขอ "ทวี" เก็บหลักฐานการรักษา "บุ้ง ทะลุวัง" ให้ดีหวั่นถูกทำลาย

"ทนายด่าง-พี่สาวบุ้ง" ติดตามผลชันสูตรร่าง "บุ้ง ทะลุวัง" หาสาเหตุหัวใจล้มเหลว ด้าน "กฤษฎางค์" ร้อง รมว.ยุติธรรม มีคำสั่งเก็บหลักฐานการรักษา หวั่นถูกทำลาย ชี้มีบทเรียนในประวัติศาสตร์นักโทษการเมืองดับในเรือนจำ ย้ำยังติดใจ 2 ประเด็น ทั้งการรักษา-การช่วยชีวิต

15 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทีมทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นำโดย "นายกฤษฎางค์ นุตจรัส" เดินทางมาถึงที่สำนักงานนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อร่วมเข้าติดตามกระบวนการผ่าชันสูตรร่างของ "น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม" หรือ "บุ้ง ทะลุวัง" เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต โดยมีพี่สาวของบุ้ง ร่วมดูกระบวนการผ่าชันสูตรด้วย เนื่องจากแพทย์อนุญาตให้ญาติเข้าดูได้เพื่อให้เกิดความโปร่งใส

โดย นายกฤษฎางค์ ให้สัมภาษณ์ก่อนจะเข้าดูกระบวนการผ่าชันสูตร ว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา เป็นการชันสูตรเบื้องต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาทั่วไป ว่าผู้เสียชีวิตคือใคร

ส่วนวันนี้ (15พ.ค.) จะเป็นการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต เพราะสาเหตุหัวใจล้มเหลวกว้างไป จึงต้องผ่าชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริง ทั้งด้านกายภาพว่ามีบาดเแผล มีการทำร้ายร่างกายหรือไม่ มีสารก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ หรือมีเหตุอะไรที่ทำให้บุ้งหัวใจล้มเหลวหรือไม่ รวมถึงการรักษาพยาบาลในชั้นต้นว่าได้ดำเนินการได้ถูกวิธีหรือไม่ ตั้งแต่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพราะเมื่อวานนี้ยังไม่ได้ดูภายใน ดูได้เพียงแค่ภายนอกเท่านั้น 
 

"ซึ่งก็ยอมรับว่า ยังไม่แน่ใจว่าทางแพทย์ จะหาสาเหตุได้มากน้อยแค่ไหน ก็คงใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่คาดว่าผลจริงๆ จะออกช่วงเย็นนี้ ถึงจะชัดเจน ส่วนสารคัดหลังหรือเลือด ที่จะส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญ ต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ ถึงจะออกมาเป็นเอกสาร" นายกฤษฎางค์ กล่าว 

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังติดใจอยู่ 2 ข้อ เนื่องจากตั้งแต่ บุ้ง ถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ถอนประกันตั้งแต่เมื่อช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ก็ได้เข้าเรือนจำ พร้อมประกาศอดอาหาร โดยที่ญาติพี่น้องไม่มีใครรู้ แต่ภายหลังพบว่าอาการทรุดหนัก จนกระทั่งได้ส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 4 พ.ค. แต่พออาการดีขึ้น ก็ถูกส่งตัวกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์

"แต่ปัญหาและสิ่งที่ต้องตั้งคำถาม คือ การหมดสติที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวานนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีการดูแลรักษาที่ดีหรือไม่ หรือติดข้อจำกัดของงบงบประมาณ" นายกฤษฎางค์ ระบุ

 

ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าการออกมาแถลงกินข้าว กินน้ำตามปกติ แต่พบเกลือแร่ต่ำเป็นไปได้อย่างไร แบบนี้ต้องอยู่ในสภาพที่ร่างกายไม่สมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งความจริงแล้วการกินข้าวหรือไม่กินข้าว ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นสำคัญ คือ รัฐได้ดูแลคนที่ถูกตัดสินว่าผิดได้อย่างมีคุณภาพหรือไม่ เพราะถ้าวันหนึ่งศาลยกฟ้องขึ้นมาว่าไม่ผิด แต่ปรากฏว่ามีคนเสียชีวิตไปแล้วที่โรงพยาบาล ก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรหรือไม่

ส่วนข้อ 2 คือ การรักษาเมื่อช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ตนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเวลาเด็กหมดสติ หรือหัวใจไม่ทำงานแล้ว โดยศักยภาพของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ต้องใช้เวลาปั๊มหัวใจนานกว่าจะส่งมาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเลยหรือไม่ ทำไมถึงไม่ตัดสินใจส่งก่อน หรือทำไมไม่สามารถรักษาพยาบาลได้

 

"เรื่องนี้คงต้องถามทาง พ.ต.อ.เอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพราะเข้าใจว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ก็ขอเรียกร้องไปตรงนี้เลยว่า ขอให้ รัฐมนตรีช่วยตรวจสอบ และขอให้เก็บหลักฐานที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ให้ดี ผมมองว่า ความตายเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าตายแบบไม่สมควร มันสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานของรัฐอะไรหลายอย่าง ไม่ได้อยากได้รับการดูแลเหมือนอดีตนายกฯ แต่อยากให้คนมันเท่ากัน" นายกฤษฎางค์ กล่าว 

 

เมื่อถามย้ำว่า เหตุผลที่กังวลเรื่องหลักฐานถูกทำลายเพราะอะไร ทนายกฤษฎางค์ ระบุว่า ถ้าดูประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทย ก็มีผู้ต้องขังโลหิตติดเชื้อในเรือนจำหลายคน ทำให้ตนก็กังวลใจว่าเช้าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นกับบุ้ง พยานปากสำคัญก็ คือ "ตะวัน ทานตะวัน ตัวตะลุานนท์" เพราะเตียงใกล้เคียงกัน

ทั้งนี้ บุ้งหมดสติไปกี่โมง มีการรักษาพยาบาลที่ถูกต้องหรือไม่ พวกนี้ต้องมีภาพวงจรปิด และมีรายงานของแพทย์อยู่แล้ว การรักษา อาหารที่กิน ยาที่ให้เป็นยาอะไร ซึ่งพวกนี้เป็นเอกสาร ที่สามารถทำลายได้ จึงอยากให้รัฐมนตรีมีคำสั่งเด็ดขาด เพื่อให้รวบรวบหลักฐานให้คนกลางเข้าไปตรวจสอบ

ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า รมว.ยุติธรรม ได้โทรมาคุยกับตน และยังไม่ได้คุยเรื่องสาเหตุ เพราะต้องรอผลการผ่าชันสูตรก่อน แต่เช้าวันนี้ ท่านจะเข้าไปเยี่ยมตะวัน ไปให้กำลังใจ แต่ไม่รู้จะสายเกินไปหรือไม่ และตนก็อยากจะขอถามไปยังศาลยุติธรรม ว่าจะปรับปรุงการทำงานอะไรหรือไม่

 

"แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่ความผิดของศาล แต่เป็นเรื่องของสิทธิการปล่อยตัวชั่วคราว และมองว่า ฝ่ายการเมืองคงไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว" นายกฤษฎางค์ ระบุ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น ทนายกฤษฎางค์ ได้เข้าไปดูกระบวนการผ่าชันสูตรทันที โดยพ่อกับแม่ของบุ้ง ไม่ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ในวันนี้ เนื่องจากยังทำใจไม่ได้ 

สำหรับกำหนดการหลังการผ่าชันสูตรเสร็จสิ้น จะยังไม่นำร่างออกจากนิติเวชในวันนี้ เพราะทางครอบครัวจะรับร่างของบุ้ง ไปประกอบพิธีทางศาสนาในวันที่ 16 พ.ค. ที่ศาลา 8 วัดสุทธาโภชน์ เขตลาดกระบัง โดยจะมีการสวดพระอภิธรรมระหว่างวันที่ 16-18 พ.ค. ก่อนจะฌาปณกิจ ในวันที่ 19 พ.ค.นี้