"บิ๊กเต่า" เตรียมประชุมใหญ่คดีเรียกรับเงินอธิบดีกรมการข้าว 7 ก.พ. นี้
รอง ผบช.ก. เตรียมประชุมใหญ่คดีเรียกรับผลประโยชน์อธิบดีกรมการข้าว 7 ก.พ. นี้ ก่อนมีความชัดเจน ขอหมายเพิ่ม 2 ราย พบเป็นบุคคลใกล้ชิดผู้ต้องหาล็อตแรก 1 คน บัญชีม้า 1 คน ขณะที่ 2 พยานในกระทรวงเกษตรฯ ต้องเรียกมาคุยส่วนตัว ก่อนพิจารณาหลักฐานเกี่ยวข้องหรือไม่
6 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าคดีเรียกรับผลประโยชน์อธิบดีกรมการข้าว หลังจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 4 ราย ผ่านทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ยังมีความจำเป็นที่จะต้องเรียกพยานทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นข้าราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยพบว่ามีความสนิทสนม คอยให้ข้อมูลกับ "เอก ปากน้ำ" เข้ามาสอบปากคำ แต่ยอมรับว่า อาจจะเป็นการเรียกคุยแบบส่วนตัวว่า เจ้าตัวเขาให้ความร่วมมือแค่ไหน ทิศทางเป็นอย่างไร ก่อนจะมีการประเมินกันอีกครั้ง
โดยจากแนวทางการสืบสวนรายชื่อพยานทั้ง 2 คน ที่มีบุคคลมายื่นหลักฐานให้เมื่อวานนี้นั้น พยานทั้งสองเป็นบุคคลที่อยู่ในข้อมูลของทางตำรวจอยู่แล้ว แต่ก็ต้องสอบถามทั้งสองคนและสืบสวนจากพยานหลักฐานว่า จะมีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการตบทรัพย์หรือไม่อย่างไร
ขณะที่ผู้เสียหายวงอื่นๆ อยู่ระหว่างขยายผล โดยนอกจากจะมี ปปป. แล้ว ล่าสุดยังมีชุดทำงานของกองปราบ และ ปอท. เข้ามาร่วมด้วย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ย้ำทิ้งท้ายว่า ช่วงบ่ายวันนี้ อาจจะมีความคืบหน้าบางอย่าง ส่วนจะออกหมายจับใครเพิ่มหรือไม่ รอง ผบช.ก. ตอบสั้นๆ ว่า "มี 2 คน เป็นบุคคลใกล้ชิดของผู้ต้องหาล็อตแรก 1 คน และเป็นบัญชีม้า 1 คน"
ส่วนผู้ต้องหาล็อตแรกที่จับไปก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ยังสามารถติดต่อได้เหมือนเดิม แต่ตามสิทธิเขามีทนาย จึงยังไม่มีความจำเป็นต้องติดต่อไปหา
สำหรับในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ. 2567) เวลา 13.00 น. จะมีการประชุมคณะทำงานชุดใหญ่ ประกอบด้วย ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวน ปปป. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม รวมถึง พนักงานสอบสวน ปอท. เพื่อวางแผนตั้งรับการทำงานและเตรียมขยายผลวงความเสียหายคดีตบทรัพย์เพิ่มเติม หลังกระทรวงยุติธรรมเตรียมให้ข้อมูลเรื่องการตบทรัพย์ของกลุ่มผู้ต้องหา ขณะที่วงความเสียหายอื่นๆ พบว่ามีอีก 1-2 วง ที่ยืนยันว่าจะนำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีในเร็วๆนี้