รอง ผบ.ตร. เผย เร่งพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เหยื่อโรงงานพลุระเบิดที่สุพรรณฯ

18 มกราคม 2567 จากกรณีเหตุโรงานพลุระเบิด เมื่อวานนี้ (17 ม.ค.) ที่หมู่ 3 ต.ศาลาขาว อ.เมืองสุพรรณบุรี สร้างความเสียเป็นวงกว้าง พบผู้เสียชีวิต 23 ราย โดยโรงงานแห่งนี้มีคนงาน ประมาณ 30 คน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
 

ต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. เดินทางมาติดตามความคืบหน้ากรณีเหตุดังกล่าว ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัดสุพรรณบุรี ภายในวัดโรงช้าง โดยเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานยังคงอยู่ในระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ขณะนี้ได้ให้น้ำหนักไปที่การเร่งพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิต ซึ่งในจำนวน 23 ศพ ตอนนี้พิสูจน์ไปเสร็จแล้ว 10 ศพ ญาติยืนยันรับศพแล้ว 5 ศพ 

โดยเบื้องต้นได้เก็บดีเอ็นเอของญาติ ทั้ง 23 ศพ เพื่อนำมาเทียบเคียงว่าเป็นญาติของใคร และยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตเพียง 23 ศพ และไม่มีผู้บาดเจ็บ ทั้งนี้ผู้ที่เสียชีวิตทั้งหมดเป็นคนที่อยู่ในโรงงานทั้งสิ้น และได้เร่งรัดให้นิติเวชพิสูจน์เอกลักษณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้ โดยการส่งมอบศพให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีฌาปนกิจ จะต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อน โดยสามารถพิสูจน์จากเอกลักษณ์บุคคล เช่น รอยสัก เสื้อผ้าที่สวมใส่ เครื่องประดับ ลายนิ้วมือ ฟัน และผลเปรียบเทียบดีเอ็นเอของญาติด้วย เพื่อความถูกต้อง เนื่องจากบางศพมีลักษณะเป็นชิ้นส่วนที่หลุดออกจากร่างกาย 

ส่วนสาเหตุ ได้มีการเรียกพยานแวดล้อมมาสอบปากคำ แต่เนื่องจากว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์เสียชีวิตทั้งหมด จึงมีการเรียกคนที่เคยทำงานที่โรงงานแห่งนั้น รวมถึง คนที่หยุดงานในวันที่เกิดเหตุมาให้ปากคำ โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิต มีขั้นตอนไหนที่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการระเบิดได้ เบื้องต้นสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องเกือบหมดแล้ว ทั้งญาติและพยานแวดล้อม โดยผลการสอบปากคำก็จะนำไปประกอบผลพิสูจน์หลักฐาน และผลนิติเวช เพื่อหาสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้

โฆษกกลาโหม ยัน โรงงานพลุระเบิด ที่สุพรรณฯ ได้ใบอนุญาตให้มี "โพแทสเซียมคลอเรต"

 
ด้าน พล.ร.ต.ธนิตพงศ์ สิริเศวตศักดิ์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุโรงงานผลิตพลุระเบิดในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ว่า ในส่วนของกระทรวงกลาโหม โดยกองควบคุมโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร หรือ อท.ศอพท.ได้ตรวจสอบ และข้อมูลอ้างอิงว่า การทำหรือค้าซึ่งดอกไม้เพลิง อยู่ภายใต้ พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ซึ่งอยู่ในอำนาจของนายทะเบียนท้องที่ตามพ.ร.บ.อาวุธปืน 

ซึ่งโรงงานที่เกิดเหตุ มีบุคคลขอใบอนุญาตในการทำ หรือ ค้าซึ่งดอกไม้เพลิง ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จากกรมการปกครองอย่างถูกต้อง 

ทั้งนี้ ยังเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีซึ่งยุทธภัณฑ์ โพแทสเซียมคลอเรต (potassium chlorate) จากกระทรวงกลาโหม ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ. 2530 จำนวน 3,000 กิโลกรัม รายละเอียดตามใบอนุญาต ลงวันที่ 24 ก.ค. 2566 หมดอายุ 23 ก.ค. 2567 เพื่อใช้ในการทำดอกไม้เพลิง และมีสถานที่เก็บ ณ คลังเก็บ หมู่ที่ 3 ต.ศาลาขาว

โดยที่เกิดดังกล่าวเคยเกิดเหตุระเบิด มาแล้ว  1 ครั้ง เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565