28 พฤศจิกายน 2566 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงษ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ
บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา นำโดย พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา พ.ต.ท.อานนท์ ประดิษฐ์แสง รอง ผกก.สอบสวน หัวหน้า ชปส.ยะลา เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ภาค 1 รวมกว่า 130 นายเปิดปฏิบัติการ "กวาดล้างขบวนการค้ายานรกแจ๊คสามหมอ" กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 7 จุด แบ่งเป็น จ.ปทุมธานี 6 จุด และ จ.ยะลา 1 จุด เพื่อตามจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวจำนวน 9 เป้าหมาย
โดยเป้าหมายสำคัญจุดแรกเป็นอู่แต่งรถซิ่ง โชคเจริญทรัพย์สิน ตั้งอยู่ ถนนลำลูกกา-วังน้อย ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถของ นายเจริญ (สงวนนามสกุล) หรือ แจ๊ค สามหมอ อายุ 32 ปี หัวหน้าแก๊ง รวมถึงเป็นแหล่งกบดานซ่อนตัวของบรรดาลูกสมุน ที่แฝงตัวเป็นช่างซ่อมรถ
เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังปิดล้อมทางเข้าออกทุกช่องทางป้องกันการหลบหนี ก่อนตัดสินใจนำกำลังพร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือบุกจู่โจมเข้าจับกุมขณะที่กลุ่มผู้ต้องหากำลังนอนหลับพักผ่อน หลังจากตั้งวงดื่มฉลองวันลอยกระทงเมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะเจ้าหน้าที่เข้าจู่โจมปรากฎว่าสุนัขที่ นายเจริญ เลี้ยงไว้หน้าอู่เกิดเห่าส่งเสียงดังทำให้นายเจริญ รู้ตัวพยายามวิ่งหลบหนีเข้าป่าหญ้าด้านหลัง แต่ก็ไม่เป็นผลถูกเจ้าหน้าที่ไล่ตามตะครุบตัวได้ห่างจากอู่รถไม่ไกล เนื่องจากมีการวางกำลังตามจุดต่างๆ ไว้อย่างแน่นหนาทุกช่องทาง
จากการเข้าตรวจค้นเป้าหมายจุดนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายเจริญ พร้อมพวกรวม 4 ราย
สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้าตำรวจกองปราบฯ ได้จับกุมผู้ต้องหารายหนึ่งในข้อหา ครอบครองอาวุธปืนสงคราม พื้นที่ จ.ยะลา ก่อนพบว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาเสพติด จึงประสานข้อมูลร่วมกับทางตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ขยายผลวางแผนล่อซื้อจับกุมผู้ต้องหากลุ่มแรกพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 2 แสนเม็ด ในพื้นที่ จ.ยะลา
จากนั้นจึงขยายผลต่อเนื่องจนทราบว่า ยาล็อตดังกล่าวถูกสั่งซื้อต่อมาจากกลุ่มของ นายเจริญ หรือ แจ๊คสามหมอ หัวหน้าเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง ที่มักลักลอบลำเลียงยาส่งลงไปให้กับกลุ่มเครือข่ายนำไปกระจายขายต่อในพื้นที่ภาคใต้บ่อยครั้ง โดยผ่านการขนส่งพัสดุเอกชน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ
แนวทางสืบสวนยังทราบว่า นายเจริญ และพวก ปัจจุบันได้ย้ายมาตั้งรกรากอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ทำธุรกิจอะพาร์ตเมนต์, อู่แต่งรถซิ่ง และ คาเฟ่กัญชา บังหน้า เพื่อใช้เป็นสถานที่พักแรมของกลุ่มเครือข่าย และ ไว้ใช้เป็นสถานที่นัดเจรจาซื้อขายยาที่มักทำทีแฝงตัวมาในคราบของลูกค้าติดต่อเช่าห้องพัก หรือ นำรถมาแต่งซิ่ง
รวมถึงยังพบว่ามีการเช่าห้องพักคอนโดแห่งหนึ่งบริเวณใกล้เคียงไว้ใข้เป็นสถานที่ซ่อนหรือที่เก็บสต๊อกยารอจำหน่าย หรือส่งต่อให้ลูกค้า โดยทำเช่นนี้มานานหลายปีจนมีทรัพย์สินที่ได้มาจากเงินยาเสพติดจำนวนมาก ส่วนใหญ่อยู่ในการครอบครองของบุคคลใกล้ชิด ทางเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับและหมายค้น จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการครั้งนี้เพื่อกวาดล้างจับกุมเครือข่ายดังกล่าวให้สิ้นซาก
จากปฏิบัติการครั้งนี้เบื้องต้นสามารถจับกุมตัวนายเจริญ พร้อมกับพวก ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดยะลา ข้อหาจำหน่ายยาเสพติดประเภท 1 ได้จำนวน 9 คน จาก 9 เป้าหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตามเข้าตรวจยึดทรัพย์สิน ที่ต้องสงสัยว่าได้มาจากเงินยาเสพติด อาทิ อะพาร์ตเมนต์ บ้านพัก อู่แต่งรถ รถยนต์ รวมถึงเงินในสมุดบัญชี รวมมูลค่าเกือบร้อยล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดถึงที่ไปที่มาของทรัพย์สินเหล่านี้ ซึ่งจะมีการสรุปรายละเอียดปฏิบัติการครั้งนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นภารกิจเข้าตรวจค้นครบทุกจุด