15 พฤศจิกายน 2566 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ นายสถาพร งามเรืองพงศ์ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นนักลงทุนที่รู้จักกันในนาม "เซียนฮง" พร้อมนายสุนิรันด์ แก้วเจริญ ทนายความ เข้าแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ หลังถูกแอบอ้างให้ประชาชนร่วมลงทุนสร้างความเสียหายแก่เหยื่อที่หลงเชื่อสูญเงินไปหลายล้านบาท
นายสถาพร ระบุว่า เริ่มจากเมื่อปีที่แล้ว ตนพบแฟนเพจเฟซบุ๊กทำปลอม โพสต์ชักชวนประชาชนลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท หลังปรึกษาทนายความ จึงเดินทางไปลงบันทึกประจำวัน ไว้ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองภูเก็ต (สภ.เมืองภูเก็ต) ต่อมาอีก 5-6 เดือน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต แจ้งให้ตนเข้าปากคำ หลังมีผู้เสียหายแจ้งว่า มีการนำรูปตนไปใช้ในกลุ่มไลน์ หลอกให้ลงทุนธุรกิจประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า - รถสปอร์ต ซึ่งทราบว่าผู้เสียหายในครั้งนั้นสูญเงินไปแล้ว 18 ล้านบาท
จากนั้นอีกครึ่งปี ศาลภูเก็ต ส่งหมายเรียกมาให้ตนไปสอบปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยาน
นายสถาพร ระบุอีกว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน ทราบว่ามีมิจฉาชีพนำภาพส่วนตัวไปโพสต์ลงในเพจเฟซบุ๊ก และไอจี พร้อมระบุข้อความว่า จะแนะนำหุ้นทุกวันๆ ละ 3 ตัว ซึ่งตามกฎหมายระบุว่า ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตการลงทุน ไม่สามารถสอนได้ ตนและทนายความ จึงเดินทางมาแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่แอบอ้าง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนเมื่อปีก่อน พร้อมตั้งรางวัลนำจับ 150,000 บาท
“ตนไม่อยากให้มีผู้เสียหายต้องหลงเชื่อมิจฉาชีพเหล่านี้อีก หากความเสียหายยังเกิดขึ้นอีก เชื่อว่า ความสูญเสียจะสูงถึง 100 ล้านบาท” เซียนฮง ระบุ
ด้านทนายความ ระบุ ตนได้นำพยาน หลักฐานเป็นข้อความการสนทนาในกลุ่มไลน์ ซึ่งมีการใช้ชื่อ-นามสกุลจริงของลูกความ มีการนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กและมีการชักชวนเหยื่อที่หลงเชื่อเข้าไปในกลุ่มไลน์ปิด ซึ่งจะมีหน้าม้าคอยแชทสนทนาในไลน์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เสียหาย บางครั้งติดต่อกับผู้เสียหายโดยตรง หรือส่งต่อให้กับไลน์ผู้หญิงรายหนึ่ง ซึ่งแอบอ้างเป็นลูกศิษย์ของลูกความ คอยแนะนำการลงทุน พร้อมการันตีได้ผลตอบแทนสูง
"ลูกความของตน ยืนยัน ไม่ได้ใช้รูปภาพโปรไฟล์ไลน์เป็นภาพส่วนตัว หรือภาพครอบครัว รวมถึงไม่เคยชักชวนให้มีการลงทุนแบบนี้" นายสุนิรันด์ ระบุ
เบื้องต้น ตำรวจไซเบอร์ โดยพล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1(ผบก.สอท.1) มอบหมายพนักงานสอบสวน ลงบันทึกปากคำ พร้อมรวบรวมข้อมูล พยาน หลักฐาน เพื่อดำเนินการในส่วนอื่นๆ ต่อไป
อีกทั้งฝากประชาสัมพันธ์ว่า ขณะนี้ สอท. กำลังรณรงค์ให้มีการยืนยันตัวตนเพื่อเป็นการป้องกันถูกนำรูปภาพไปแอบอ้าง หลอกลวงประชาชน จึงฝากเตือนประชาชนว่า แพลตฟอร์มต่างๆ หากเป็นบุคคลสำคัญให้สังเกตว่าจะมีการยืนยันตัวตน เป็นเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า เพื่อเป็นการคัดกรองว่าบุคคลดังกล่าวเป็นตัวจริง