svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

แน่จริงจับให้ได้!! เปิดปัจจัย เหตุใด"เสี่ยแป้ง"หนีง่ายดาย ทำไมยังลอยนวล?

14 พฤศจิกายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดปัจจัย "เสี่ยแป้ง นาโหนด" แหกคุกหนีลอยนวลอย่างง่ายดาย รวมถึงหลบการไล่ล่าแทบไร้ร่องรอย กระทั่งวันนี้นับเป็นเวลา 24 วันแล้ว

14 พฤศจิกายน 2566 การแหกคุก “เสี่ยแป้ง นาโหนด” หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี เป็นข่าวครึกโครมที่เกิดคำถามในสังคมว่า “ทำไมการหลบหนีจึงง่ายอย่างกับในหนัง” รวมทั้งการวิพากษ์วิจารณ์ถึง “ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่รัฐ” ดังกระหึ่ม!!

“เสื่ยแป้ง” นักการเมืองท้องถิ่นผู้กว้างขวาง
เสี่ยแป้ง เป็นชาว ต.ท่าแค อ.เมือง จ.พัทลุง ประกอบอาชีพเปิดอู่ซ่อมรถอยู่ในพื้นที่ เป็นอู่ชื่อดังที่คนพัทลุงรู้จักเป็นอย่างดี

เส้นทางการเมืองท้องถิ่นของ เสี่ยแป้ง มีประวัติลงเล่นการเมืองท้องถิ่น โดยเขาเคยลงสมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง (ส.อบจ.) เมื่อปี พ.ศ.2562 แต่ไม่ได้รับเลือก ด้วยความที่เป็นคนพูดเพราะ ไม่ก้าวร้าว แม้แต่กับลูกน้อง ก็พูดจาดีด้วยเสมอ ทำให้เป็นที่รักใครของคนทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ลูกน้องของเสี่ยแป้ง ส่วนใหญ่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและอาวุธปืน ขณะที่ “เสี่ยแป้ง” เกี่ยวข้องกันการก่อคดีหลายคดี ตั้งแต่ปี 2552-2562 ส่วนใหญ่เกิดในท้องที่ จ.พัทลุง เช่น คดีบุกรุกในยามวิกาล, พ.ร.บ.ราชทัณฑ์, คดีฆ่าผู้อื่น, คดีพยายามฆ่าผู้อื่น, คดีพยายามฆ่าตำรวจ และตำรวจทางหลวง

ในที่สุด ศาลจังหวัดพัทลุง ตัดสินจำคุก เสี่ยแป้ง 20 ปี 6 เดือน จากการร่วมกับพวกเข้าปล้นผู้ต้องหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ขณะจับกุมคดียาเสพติด 

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ ปปง. ได้อายัดทรัพย์สินของนายเชาวลิต ที่ จ.สงขลา ที่นำเอาไปฝากไว้กับพี่สาว เพื่อเป็นทุนในการลงเล่นการเมืองถึง 150  ล้านบาทด้วย

ข้อมูลพฤติกรรม “เสี่ยแป้ง” จากตำรวจมักจะทวงเงินจากธุรกิจผิดกฎหมาย อุ้มนักค้ายาเสพติดเรียกค่าไถ่ โดยเป็นที่รู้กันว่า ทีมงานในการลงมือนั้น มักจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า เสี่ยแป้ง มีเส้นสายและใล้ชิดกับนักการเมืองท้องถิ่น ผู้มีอิทธิพล ข้าราชการนอกแถว และเครือข่ายยาเสพติด
เสี่ยแป้ง นาโหนด หรือ นายเชาวลิต ทองด้วง

  “เสี่ยแป้ง” สร้างอิทธิพลในเรือนจำพัทลุง  
พฤติกรรมของ “เสี่ยแป้ง” หลังถูกคุมขังที่เรือนจำจังหวัดพัทลุงนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ให้ข้อมูลว่า เคยมีพฤติกรรมเสแสร้ง แกล้งทำป่วยบ่อยครั้ง โดยเคยแสร้งป่วยในศาลมา จนถูกส่งเข้ารักษาตัวใน รพ.พัทลุง มาแล้ว 2 ครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ประมาท ส่งทีมเฝ้า 24 ชั่วโมง ทำให้ไม่สามารถหลบหนีได้

ในช่วงเวลาดังกล่าว  พล.ต.ต.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง เน้นย้ำและประสานงาน ผู้บัญชาการเรือนจำกลางพัทลุง ห้ามประมาท ให้เข้มงวดการป้องกันการหลบหนี โดยเฉพาะในช่วงการนำตัวออกนอกเรือนจำ จะมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ วางมาตรการการป้องกันการหลบหนี การชิงตัวนักโทษมาอย่างต่อเนื่อง 

พฤติกรรมในเรือนจำพัทลุง ยังทำตัวเป็นมีอิทธิพล เนื่องจากมีลูกน้องหลายคนอยู่ในเรือนจำ ก่อเหตุยกพวกทำร้ายนักโทษในเรือนจำ รวมทั้งมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้คุมอย่างต่อเนื่อง กระทั่งสุดท้ายมีการย้ายมาฝากขังที่ เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช 

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระดับสูง มองว่า การย้ายเสี่ยแป้ง ไปเรือนจำขนาดใหญ่นอกพื้นที่ อาจจะเป็นแผนการที่เตรียมไว้ตั้งแต่ต้นหรือไม่ เนื่องจากความเข้มงวดของเรือนตำพัทลุง ทำให้ยากต่อการหลบหนี ซึ่งการย้ายไปที่นครศรีธรรมราชไม่ได้ห่างจากพื้นที่อิทธิพลของเสี่ยแป้ง
ภาพวงจรปิดจับภาพ "แป้ง นาโหนด"  ขณะหลบหนีออกจาก โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช

  เตรียมการแหกคุก เรือนจำนครศรีธรรมราช  
“เสี่ยแป้ง” ถูกย้ายจากเรือนจำกลางพัทลุง มายังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566 เนื่องจากพบว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ซึ่งหลังจากนั้นเพียง 2 เดือนเศษ เมื่อกลางดึกวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา เสี่ยแป้งก็หลบหนีลอยนวลได้อย่างง่ายดาย

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดหลังมีคำสั่งแต่งตั้ง นายณรงค์ หนูคง ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้น ทั้งที่มีกรณีแหกคุก ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ว่า ข้าราชการชั้นผู้น้อยตกใจอย่างมาก เนื่องจากไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งๆที่เป็นผู้บริหารสูงสุด ขณะเกิดเหตุมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบการส่งตัวนักโทษออกจากเรือนจำทุกราย 

ทั้งยังถูกตั้งข้อสังเกตถึงการส่งตัว เสี่ยแป้ง ออกไปนอกจากเรือนจำ ทั้งที่แพทย์ได้แจ้งเลื่อนนัด แต่ภายในกรมราชทัณฑ์กลับไม่พูดถึงเรื่องนี้ ยิ่งทำให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยไม่สบายใจอย่างมาก 
เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช
เจ้าหน้าที่คนเดิม ยังให้ข้อมูลสำคัญอีก ว่า เสี่ยแป้ง ย้ายมายังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เป็นที่น่าแปลกใจว่าสามารถประสานงานและได้รับอนุญาตออกไปรักษาตัวได้อย่างง่ายดาย และบ่อยครั้งกว่านักโทษรายอื่น จนกระทั่งมาเกิดเหตุหลบหนีอย่างง่ายดาย

พฤติกรรมการควบคุมตัวอย่างหละหลวมในโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช การเปลี่ยนโซ่ตรวน การนำกุญแจไปให้ไขหลบหนี และการเตรียมเส้นทางการหลบหนีด้วยรถถึง 3 คัน สะท้อนการเตรียมการอย่างดี และยากจะปฏิเสธว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่รู้เห็น หรือ สมรู้ร่วมคิด!!

   ปล่อยข่าวลวง หนีกบดาน "เทือกเขาบรรทัด"  
หลังหลบหนีออกจากโรงพยาบาลของ เสี่ยแป้ง มีการวางแผนหลบหนีและกลบเลื่อนร่องรอยอย่างดี มีการนำรถไปซ่อนตามจุดต่างๆ และกระจายกันหนี รวมทั้งปล่อยข่าวการหนีออกนอกประเทศ หวังลวงการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่ให้ลดลง

แต่การไล่จับลุกสมุนของเสี่ยแป้งจนครบทุกคน ทำให้การแกะรอยและประเมินสถานการณ์ของตำรวจ ตีวงแคบลงเรื่อยๆ ซึ่ฝตำรวจเชื่อว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศ ในที่สุดก็พบว่า เสี่ยแป้ง หนีไปกบดานบนเทือกเขาบรรทัด

กระทั่งวันที่ 8 พ.ย.66 ตำรวจภูธร ภาค 9 เปิดปฏิบัติการปิดล้อม ระดมกำลังไล่ล่า ปิดล้อมทางขึ้นลงเทือกเขาบรรทัด รอยต่อจังหวัดตรัง พัทลุง ตรัง และสตูล หลังสามารถคุมตัวคนนำพาไปส่งเข้าป่าและคนส่งเสบียงได้ ซึ่งจากปากคำของคนส่งเสบียงนั้นยืนยันว่า เสี่ยแป้ง หนีมาในป่าหลังจากแหกคุกเพียง 5 วันเท่านั้น 

ในช่วงบ่ายวันดังกล่าวมีข่าว “วิสามัญเสี่ยแป้ง” สะพัด แต่สุดท้ายมันแค่ข่าวลวง การปะทะไม่สามารถจับกุมเสี่ยแป้งได้ เนื่องจาก หมาเห่า ทำให้ไหวตัวหลบหนีไปได้ 
เจ้าหน้าที่ไล่ล่า "เสี่ยแป้ง" เทือกเขาบรรทัด
การเข้าปะทะครั้งนี้ “เสี่ยแป้ง” ชำนาญพื้นที่มาก สามารถหลบหนีไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุสำคัญเนื่องจาก ในอดีตเคยเป็นทหารพรานในพื้นที่เทือกเขาบรรทัด รอยต่อ จ.ตรัง จ.พัทลุง และจ.สตูล ตลอดจนมีเครือข่ายพรรคพวกในพื้นที่หลายวงการ 

เสี่ยแป้ง รู้จักพื้นที่บนเขาบรรทัด บริเวณบ้านตระและทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี เพราะ เสี่ยแป้ง เป็นนักแข่งจักรยานยนต์วิบาก โมโตครอส ดีกรีแชมป์หลายสนามในภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่จ.ตรัง จ.พัทลุง จ.สตูล เคยลงแข่งขันในระดับประเทศมาแล้ว ในสังกัดค่ายพรเจริญคาวาซากิ ที่สำคัญเคยมาแข่งจักรยานยนต์วิบากในสนามแข่งที่จัดขึ้นในพื้นที่ อ.ปะเหลียน มาแล้ว

นอกจากการชำนาญเส้นทางแล้ว เสี่ยแป้ง ยังมีความสัมพันธ์กับชาวบ้านในพื้นที่ในระดับไม่ธรรมดา เห็นได้จากคนส่งเสบียงเป็นคนหาของป่าในพื้นที่ พิกัดกบดานมีเครื่องอำนวยความสะดวกและมีเสบียงพร้อมเพรียง อยู่ได้นานนับเดือน คนในพื้นที่ต่างมีความสนิทสนมกับเสี่ยแป้งทั้งสิ้น
เส้นทางเดียวที่ใช้รถจักรยานยนต์ได้
หลังเหตุปะทะ ตำรวจ ระดมกำลังอย่างน้อย 200 นาย ไล่ล่า “แป้ง นาโหนด” อย่างเต็มที่ แต่อุปสรรคปัญหาใหญ่ คือ สภาพของเทือกเขาบรรทัด ห่างไกล มีอุปสรรคมากมายยากต่อการติดตาม ซ้ำทางอากาศถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม่ใหญ่ 

ส่วนเส้นทางขึ้นไปค้นหาด้วยมีเพียงทางรถจักรยานยนต์ 1 เส้นทาง ส่วนทางเดินเท้ามีไม่น้อยกว่า 5 เส้นทาง ทางเดินเท้าจะมีปลายทางทั้งพัทลุง จ.ตรัง และจ.สตูล 

นอกจากนี้ภายในพื้นที่ป่า ยังมีอุปสรรคอีกมาก การสื่อสารลำบาก ไม่มีสัญญาโทรศัพท์มือถือ เส้นทางลาดชัน ล่าสุดมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทากดูดเลือดชุกชุม รวมถึงเกิดเหตุชุดไล่ล่าถูกต่อต่อยหมดสติ จนต้องส่งเฮลิคอปเตอร์ไปรับตัวกลับมารับการรักษา
สภาพป่าทึบ ทำให้การไล่ล่าทางอากาศเป็นไปได้ยาก
ช่วงวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา กำลังตำรวจ 200 กว่านาย ปิดล้อม 4 ชั้น หวังไม่ให้หนีรอดไปได้ แต่หลังจากแสกนบีบพื้นที่ทำให้ลดเหลือการปิดล้อมเพียง 2 ชั้นเท่านั้น โดย ทีมไล่ล่า พบร่องรอยว่า การหลบหนีจากจุดปะทะ ลงมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งหน้าพื้นราบบ้านป่าพง รอยต่อบ้านท่าช้าง ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง 

“เสี่ยแป้ง” เพียงคนเดียวในผืนป่าใหญ่ “เทือกเขาบรรทัด” ไม่ง่ายนักที่ตำรวจจะไล่ล่า ดังนั้นต้องจับตาว่า ปฏิบัติการจับเสี่ยแป้ง จะจบลงเมื่อใด และบทสรุปของ นักโทษแหกคุก จะลงเอยอย่างไร!!
สภาพพื้นที่ป่า เทือกเขาบรรทัด
แน่จริงจับให้ได้!! เปิดปัจจัย เหตุใด\"เสี่ยแป้ง\"หนีง่ายดาย ทำไมยังลอยนวล? แน่จริงจับให้ได้!! เปิดปัจจัย เหตุใด\"เสี่ยแป้ง\"หนีง่ายดาย ทำไมยังลอยนวล?

logoline