svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตำรวจไทยร่วมหารือ 34 ประเทศ เร่งปราบทุกประเภท "อาชญากรรม"

19 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมการประชุม International Police Summit 2023 แสวงหาความร่วมมือในระดับสากล 34 ประเทศ ที่เกาหลีใต้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภท โดยเน้นแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หลัง 18 เดือนที่ผ่านมา พบเสียหายกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

19 ตุลาคม 2566 ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พร้อมคณะประกอบด้วย พ.ต.อ.พงษ์เดช คำใจสู้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.ศิลา ตันตระกูล ผกก.ฝ่ายความร่วมมือ และกิจการระหว่างประเทศ ตท. ร่วมเดินทางไปประชุม International Police Summit 2023 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 - 20 ตุลาคม ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี โดยมีนาย Shahkar Fasai ที่ปรึกษาพิเศษ ด้านงานตำรวจ องค์การสหประชาชาติ (UNPA) และหัวหน้าองค์กรตำรวจและผู้แทนจาก 34 ประเทศ ตลอดจนผู้แทน UNDPO, UNDP และ Europol  โดยมีนาย Yoon Hee Keun ผบ.ตร.สาธารณรัฐเกาหลี และ นาย Cho Ji Ho รอง ผบ.ตร.สาธารณรัฐเกาหลี ให้การต้อนรับ

ในการนี้ พล.ต.ท.ประจวบ และคณะได้เข้าร่วมงานวันตำรวจแห่งชาติ สาธารณรัฐเกาหลี เป็นการแสดงออกถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างประเทศไทย และสาธารณรัฐเกาหลี ร่วมกับ นาย Bun Kee Moon อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสาธารณรัฐเกาหลี เอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆ และหัวหน้าหน่วยงานตำรวจจาก 34 ประเทศทั่วโลก โดยมี นาย Yoon Suk Yeol ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ให้การต้อนรับ พิธีเป็นไปอย่างอบอุ่นและสมเกียรติ

ตำรวจไทยร่วมหารือ 34 ประเทศ เร่งปราบทุกประเภท \"อาชญากรรม\"

ในที่ประชุม มีการร่วมหารือ ในประเด็นการดำเนินกลยุทธ์เพื่อป้องกันและต่อสู้กับอาชญากรรมทุกประเภทที่มีอยู่ และเกิดขึ้นใหม่ โดยปัจจุบันบริบทการทำงานของตำรวจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากอาชญากรรม และภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของประชาชนที่ซับซ้อนและรุนแรง ภัยพิบัติทางด้านสุขภาพของประชากรโลก และเทคโนโลยีดิจิทัลมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความยากลำบากในการทำงานของตำรวจ 

ดังนั้น การประชุมตำรวจนานาชาติในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีของผู้บริหารหน่วยงานตำรวจจากทั่วโลก ที่จะร่วมกันบอกเล่าประสบการณ์การทำงาน ระดมแนวคิดสำหรับการดำเนินการเชิงรุกในการรับมือกับภัยคุกคามในอนาคต และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระยะยาว 

ตำรวจไทยร่วมหารือ 34 ประเทศ เร่งปราบทุกประเภท \"อาชญากรรม\"

สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญอย่างมากต่อการแสวงหาความร่วมมือกับหน่วยงานตำรวจของประเทศอื่นๆ มีการปฏิบัติที่สำคัญในความร่วมมือ เช่น แผนปฏิบัติการว่าด้วยความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง (2023-2027) (LM-LECC) อันเป็นความร่วมมือของกันระหว่าง 6 ประเทศได้แก่ ราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในภูมิภาค เน้นความสำคัญในอาชญากรรมข้ามชาติอันร้ายแรง และในช่วง 3 เดือนแรก สามารถช่วยเหลือบุคคลที่ถูกหลอกลวงมาทำงาน และจับกุมผู้ต้องหากลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 39 คน 

รวมถึงการปรับแก้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนความร่วมมือระดับภูมิภาค ได้เพิ่มความพยายามในการป้องกันการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลข้ามชาติ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ ร่วมมือกับภาคเอกชนพัฒนาระบบสื่อสาร และฝึกอบรมบุคลากรที่เชี่ยวชาญ

ตำรวจไทยร่วมหารือ 34 ประเทศ เร่งปราบทุกประเภท \"อาชญากรรม\"

อีกทั้งยังการมีปฏิบัติการร่วมกับกัมพูชา ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ในเมืองสีหนุวิลล์ และสามารถช่วยเหลือเหยื่อชาวไทยกว่า 800 ราย โดยมีมาตรการต่อไปคือการส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพื้นที่การปฏิบัติที่อยู่ในพื้นที่ความขัดแย้ง เพื่อศึกษาสาเหตุที่แท้จริงและออกมาตรการใหม่ต่อไป

ในส่วนของอาชญากรรมออนไลน์ 18 เดือนที่ผ่านมา เราได้รับรายงานมากกว่า 330,000 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย ประมาณ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้ออกมาตรการ จัดตั้งระบบรายงานเหตุออนไลน์ จัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนและศูนย์แจ้งเตือนอาชญากรรมทางไซเบอร์ รวมทั้งเพิ่มหน่วยงานเฉพาะทาง เช่น ตำรวจไซเบอร์

  ตำรวจไทยร่วมหารือ 34 ประเทศ เร่งปราบทุกประเภท \"อาชญากรรม\"

จากนั้น พล.ต.ท.ประจวบ ได้ร่วมประชุมหารือทวิภาคีกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติสาธารณรัฐเกาหลี ทั้ง 2 ประเทศได้บรรลุความตกลงมาตรการเสริมสร้างความร่วมมือที่ดี(ไทย-เกาหลี) ร่วมกันรักษาความปลอดภัยให้พลเมืองไทย จำนวน 200,00 คนที่เป็นนักท่องเที่ยวและทำงานในประเทศเกาหลี ตลอดจนพลเมืองเกาหลีที่เป็นนักท่องเที่ยว เรียน และทำงานในประเทศไทย อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยในอนาคตกับการผลักดันให้มีผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ เพื่อรองรับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ประจวบ ได้ร่วมประชุมหารือทวิภาคีกับกระทรวงความมั่นคง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทั้ง 2 ประเทศ ได้บรรลุความตกลงมาตรการเสริมสร้างความร่วมมือที่ดี โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประเทศไทย จะเข้าร่วมโครงการ International Initiative of Law Enforcement for Climate (I2LEC) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือของผู้บังคับใช้กฎหมาย ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วมกับ UNODC, Interpol, UNPOL และ 41 ประเทศ ร่วมกันแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน ซึ่งจากผลวิจัยพบว่า Climate Change เป็นผลกระทบโดยตรงจากปัญหาอาชญากรรมขนาดใหญ่ เช่น การฟอกเงิน การค้ามนุษย์ ฯลฯ และตำรวจเป็นองค์กรแรกที่ต้องจัดการกับปัญหาต่างๆ สร้างเครือข่ายระหว่างผู้บังคับใช้กฎหมายในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมกรรมที่เกี่ยวข้องกับหรือเป็นต้นเหตุของ climate change ซึ่งปัจจุบัน รัฐบาลไทยก็ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับเรื่องดังกล่าว

"สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับ Climate Change หรือ Environmental Crime อย่างจริงจังและยั่งยืน"

ตำรวจไทยร่วมหารือ 34 ประเทศ เร่งปราบทุกประเภท \"อาชญากรรม\"

พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวต่อไปว่า การแสวงหาความร่วมมือในทุกมิติผ่านการประชุม International Police Summit 2023 ในครั้งนี้ ส่งผลให้ทุกประเทศที่เข้าร่วมประชุมบรรลุเจตนารมณ์ร่วมกันในการเล็งเห็นความสำคัญ และการตระหนักถึงผลกระทบของอาชญากรรมทุกประเภท 

ปัจจุบัน อาชญากรรมข้ามชาติมีลักษณะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งทวีความรุนแรงเป็นภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน และส่งผลกระทบต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมของทุกประเทศ ซึ่งมีความจำเป็นในการยกระดับการประสานความร่วมมือปราบปรามและแก้ไขปัญหานี้อย่างใกล้ชิดและจริงจังอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในระดับทวิภาคี พหุภาคี และระดับสากล เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชนมีความปลอดภัย เกิดสันติภาพและความมั่นคงอย่างยั่งยืน

logoline