6 ตุลาคม 2566 ความคืบหน้า คดีเหตุเยาวชนอายุ 14 ปี กราดยิงภายในศูนย์การค้าสยามพารากอน จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 5 คน โดยในส่วนของผู้ก่อเหตุ ถูกส่งไปควบคุมตัวที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อประเมินสภาพจิตใจ ก่อนดำเนินการต่อตามขั้นตอนกฎหมาย ขณะเดียวกันตำรวจได้มีการจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายบุคคลที่มีความเชื่อมโยงกับเยาวชนดังกล่าว และเตรียมออกหมายจับเพิ่มเติม
ต่อมา ภายหลังโลกโซเชียลเผยแพร่คลิปเยาวชน 14 ปี ที่ก่อเหตุกราดยิง ในห้างดังกล่าว ได้มีการไปซ้อมยิงปืนอย่างคล่องแคล่ว ทาง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ยืนยันว่า สนามยิงปืนที่เห็นในคลิปนั้นเป็นสนามยิงปืนของ หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน โดยผู้ที่จะเข้าไปใช้บริการได้นั้น จะต้องเป็นสมาชิก หากว่าเป็นผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะต้องมีผู้ปกครองไปด้วย โดยทางส่วนนี้ชุดสอบสวนเป็นผู้ดูแล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามสอบถามเพิ่มเติมว่า ทางด้านตัวของผู้ก่อเหตุนั้นได้มาใช้บริการสนามยิงปืนแห่งนี้บ่อยเเค่ไหนนั้น พล.ต.ต.ธีรเดช ตอบว่า จากคำให้การของผู้ต้องหาเองนั้น ทราบว่า ก่อนวันที่เกิดเหตุ ได้มาทำการซ้อมยิงปืนถึง 20 กว่าครั้งด้วยกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด มีรายงานข่าวเพิ่มเติมถึงการเข้าใช้สนามยิงปืนหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ของเยาวชนวัย 14 ปี ผู้ก่อเหตุ ด้วยว่า การเข้าใช้สนามซ้อมยิงปืนที่ตรวจสอบพบครั้งล่าสุด ก่อนมีการก่อเหตุ พบว่า วันที่ 18 ก.ย.66 เยาวชนวัย 14 ปี เข้าไปใช้สนามยิงปืนเพื่อซ้อมยิงปืน จากนั้น ก็ได้ให้คนที่สนามยิงปืนถ่ายรูปตอนตัวเองซ้อมยิงปืนให้ และเยาวชนผู้ก่อเหตุก็ส่งรูปที่ถ่ายไปยังบุคคลในไลน์คนหนึ่ง
และจากการตรวจสอบโทรศัพท์ยังพบอีกว่า จากนั้น 19 ก.ย.66 เยาวชนผู้ก่อเหตุ ก็ติดต่อซื้อกระสุนปืน ไปยังผู้ใช้ไลน์โดยใช้นามแฝงชื่อ ลีซอล และมีการโต้ตอบกัน และสั่งซื้อกระสุนปืน 9 มม. 1 กล่อง และจ่ายเงินในวันที่ 20 ก.ย. ราคา 1,800 บาท
ทั้งนี้ รายงานข่าวยังพบข้อมูลอีกว่า เยาวชนวัย 14 ปี ผู้ก่อเหตุ ไม่เคยไปใช้สนามยิงปืนกับพ่อ แต่ไปกับบุคคลอื่น ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ทีมข่าวตรวจสอบกับหนึ่งในผู้ดูแลสนามยิงปืนไปก่อนหน้านี้ ที่คาดการณ์ว่าน่าจะมาใช้สนามกับเพื่อน
สำหรับไทม์ไลน์การสั่งซื้อกระสุน-ปืน มีดังนี้
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนเชื่อว่า บุคคลที่ผู้ก่อเหตุ พูดคุยติดต่อสั่งซื้ออาวุธผ่านแชท “ลีซอล” คือ นายปิยะบุตร ส่วน นายสุพรรณหงษ์ น่าจะเป็นผู้ที่นายปิยะบุตร สั่งซื้อปืนต่ออีกทอดหนึ่ง
และจากการตรวจสอบประวัติ นายปิยะบุตร พบว่าเคยมีประวัติคดี ทำอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ สภ.เมืองปทุมธานี เมื่อปี 2554
นอกจากนี้ ชุดสืบสวนยังพบว่า เงินค่าปืน 16,000 บาท ที่ผู้ก่อเหตุโอนเข้าบัญชีนายสุพรรณหงษ์นั้น ถูกถอนจากตู้เอทีเอ็ม ในพื้นที่จังหวัดยะลา โดยนายอัครวิชญ์ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของนายสุพรรณหงษ์ และยังพบความเชื่อมโยงว่า ในช่วงเดือน ก.ย.66 เป็นต้นมา บัญชีของนายปิยะบุตร ได้มีการโอนเงินเข้ามาที่บัญชีของนายสุพรรณหงษ์บ่อยครั้ง