ตำรวจขยายผลกวาดล้างปืนเถื่อนที่ขายแพร่หลายผ่านโลกออนไลน์ ซึ่งพบว่าเป็นแหล่งต้นตอที่เยาวชนวัย 14 ปี ซื้อปืนนำมาก่อเหตุร้าย กลางสยามพารากอน ล่าสุดทางด้าน พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อม พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8, พ.ต.อ.วัชรพล สุวนันทวงศ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง ท้ายซอยประชาอุทิศ 65 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เพื่อสืบหาความเชื่อมโยง หลังพบเป็นสถานที่ผลิตและดัดแปลงอาวุธปืนบีบีกันและแบลงค์กัน พร้อมจับกุมนายวีรยุทธ หรือโอ ชาว จ.ภูเก็ต อายุ 41 ปี พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ สำหรับผลิตอาวุธปืนรวม 48 รายการ ประกอบด้วยกระสุนปืนขนาดต่างๆ หลายสิบนัด แม็กกาซีนกว่า 40 อัน ถังทดสอบอาวุธปืน 1 ถัง ยาไอซ์ 6 กรัม พร้อมอุปกรณ์การเสพ
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า ตำรวจสืบสวนนครบาล 8 ได้ขยายผลการจับกุม ผู้ขายอาวุธปืนผ่านช่องทางออนไลน์มานานกว่า 2 เดือน จนพบว่าสถานที่นี้ เป็นที่ผลิตปืนแบลงค์กัน และลำกล้อง รวมถึงแมกกาซีนบรรจุกระสุน ผลการตรวจค้นพบชุดกันเสียง อุปกรณ์การไลฟ์สด และกล่องทดสอบการยิงปืน ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐาน จะนำไปเปรียบเทียบกับกระสุนปืนที่นำไปใช้ในเหตุกราดยิงที่ห้างพารากอนว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ จากนั้นจึงจะทราบด้วยว่าผู้ก่อเหตุ ขายปืนมานานเพียงใด
“บก.น.8 จะสืบสวนขยายผลต่อว่าผู้ประกอบปืน รับอุปกรณ์ต่างๆ มาจากที่ใดและส่งขายที่ใดบ้าง ส่วนเรื่องคดีผู้ค้าอาวุธปืนให้กับเยาวชนผู้ก่อเหตุ ตำรวจจับกุมได้ 2 ราย จาก จ.ยะลา และล่าสุดจับกุมได้อีกรายที่ย่านดอนเมือง ทั้งหมดกำลังคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.ยานนาวา”
จากการสอบสวนนายวีระยุทธ์ ให้การว่า เรียนจบระดับชั้น ปวส.สาขาช่างยนต์ สถาบันอาชีวะแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต ก่อนทำงานเป็นช่างยนต์ และหันมาเล่นปืนบีบีกัน ทั้งนี้ เนื่องจากมีความรู้เรื่องช่างเป็นทุน บวกกับมีเพื่อนแนะนำให้ลองซ่อมดัดแปลงปืนบีบีกัน ให้สามารถยิงกระสุนปืนจริงได้ จึงลองทำ และทำได้ดี ก่อนหันมารับจ้างทำเป็นอาชีพหลักและเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการกลุ่มลับพร้อมย้ายมาเช่าที่อยู่อาศัยในพื้นที่ทุ่งครุ มีรายได้ต่อเดือน เดือนละ 30,000 บาท เงินที่ได้รับว่านำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่าที่พัก และซื้อยาเสพติดมาเสพ
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า เมื่อปี 2558 เคยต้องคดีเกี่ยวกับการผลิตอาวุธปืนในพื้นที่ สน.บางยี่เรือ ถูกศาลตัดสินจำคุกในเรือนจำบางบอน 3 ปี และปีเดียวกันยังเคยต้องโทษคดีครอบครองแอมเฟตามีน พื้นที่ สน.วังทองหลาง
เบื้องต้นตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง สน.ราษฎร์บูรณะ ดำเนินคดีฐาน “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปีนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต“ ,ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย เสพยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง เมทเเอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย ” ตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามชาวบ้านพบว่า า ผู้เช่ารายนี้เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี มาเช่าอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน และมักไม่สุงสิงกับใครในละแวกนี้ ทั้งยังปิดบ้านตลอด แม้แต่อาหารก็ต้องสั่งเข้ามากิน บุคคลที่แวะเวียนเข้ามาหา ส่วนมากเป็นเจ้าหน้าที่รับ-ส่งพัสดุ แต่งกายสวมหมวกโม่งมิดชิด และมักจะมาเคาะประตูส่งเสียงดัง