svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ทนายพัช มั่นใจ "แอม" หลุดคดีวางยา "เท้าแชร์ก้อย" ศาลเลื่อนตรวจหลักฐานไป 20 พ.ย. นี้

02 ตุลาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลเลื่อนนัดตรวจหลักฐาน "แอม ไซยาไนด์" วางยา "เท้าแชร์ก้อย" ไป 20 พ.ย. นี้ เหตุทนายขอเลื่อน อนุญาตให้แม่ก้อย เป็นโจทก์ร่วมกับอัยการ ด้านทนายเดชา เตรียมยื่นค่าเสียหาย 31 ล้าน ขณะที่ทนายพัช จำเลยร่วมไม่หวั่น เชื่อพยานหลักฐานไม่พอเอาผิด

2 ตุลาคม 2566 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ "แอม ไซยาไนด์" จำเลยที่ 1 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น และอีกหลายฐานความผิด, พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของแอม จำเลยที่ 2 และ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของนางแอม จำเลยที่ 3 ในความผิดฐานร่วมกันทำลายหลักฐาน เพื่อช่วยเหลือจำเลยที่ 1 กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ เท้าแชร์ก้อย ในพื้นที่ จ.ราชบุรี

โดยในวันนี้ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้เบิกตัว น.ส.สรารัตน์ จากทัณฑสถานหญิงกลาง มาเข้ารับฟังการนัดตรวจพยานหลักฐานตั้งแต่เวลาประมาณ 8.00 น.

ต่อมาเวลา 10.00 น. น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ทนายพัช ให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะขึ้นไปตรวจพยานหลักฐาน ว่า วันนี้ตนมาในฐานะจำเลยร่วม และทนายความ ซึ่งก็มีความมั่นใจในพยานหลักฐานไม่แพ้ฝั่งโจทก์ โดยหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะนำมาต่อสู้คือ ใบบันทึกประจำวัน เรื่องที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สั่งซื้อไซยาไนด์ผ่านช่องทางออนไลน์ ไว้ตามตำแหน่งต่างๆ ก่อนจะมีการเข้าตรวจค้น เพื่อให้มีหลักฐานทางคดี

ทนายพัช มั่นใจ \"แอม\" หลุดคดีวางยา \"เท้าแชร์ก้อย\" ศาลเลื่อนตรวจหลักฐานไป 20 พ.ย. นี้

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าศาลจะต้องยกประโยชน์ให้กับจำเลย เพราะฝั่งโจทก์มีพยานแวดล้อม และประจักษ์พยานมีไม่เพียงพอที่จะเอาผิดได้ นอกจากนี้ตนทราบว่า หนึ่งในผู้เสียหายรายหนึ่งที่อยู่จังหวัดนครปฐมได้มีการถอนฟ้องไปแล้ว ซึ่งตนก็ขอความแสดงยินดีด้วย

ส่วนประเด็นที่ฝั่งโจทก์ มีความมั่นใจในเรื่องของพยานหลักฐานนั้น ตนมองว่าอยากให้แม่ของก้อยเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมให้ได้ก่อน หากเข้ามาไม่ได้ก็จะไม่สามารถทำอะไรตนได้ รวมไปทั้งเรื่องที่จะเรียกค่าเสียหายด้วย

ทนายพัช มั่นใจ \"แอม\" หลุดคดีวางยา \"เท้าแชร์ก้อย\" ศาลเลื่อนตรวจหลักฐานไป 20 พ.ย. นี้

ด้าน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ได้เดินทางมาศาลพร้อมกับแม่ของนางสาวก้อย, นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีแอม ไซยาไนด์ โดยกล่าวว่า วันนี้ไม่มีความกังวลในการนัดตรวจพยานหลักฐาน เพราะได้ศึกษาสำนวนและคำฟ้องของพนักงานอัยการมาโดยละเอียด วันนี้จะยื่นคำร้องขอเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนประมาณ 31,000,000 บาท ให้กับแม่ของนางสาวก้อย เช่น ค่าปลงศพ และจะตั้งทนายเพื่อยื่นคำร้องเรียกค่าไร้อุปการะให้กับลูกวัย 10 ขวบ ของผู้ตายอีกคดีหนึ่งด้วย

สำหรับคดีนี้ นางแอม จำเลยที่ 1 ถูกฟ้องในข้อหาร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ฆ่าชิงทรัพย์โดยการวางยาหรือใช้สารพิษเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งบรรยายฟ้องของพนักงานอัยการได้ระบุพฤติการณ์ความผิดของจำเลยทั้งสามคนไว้ชัดเจน โดยจำเลยที่ 2 คือ พ.ต.ท.วิฑูรย์ เป็นผู้เก็บรักษาทรัพย์สินในคดี ไปขอคำปรึกษาจากจำเลยที่ 3 คือทนายพัช ซึ่งได้พูดยุยงให้มีการทำลายพยานหลักฐาน เพื่อให้น.ส.สรารัตน์ หลุดคดี โดยกล่าวว่า "ถ้าจะสู้ให้สุดก็ต้องไม่ปรากฏของกลาง และมีคดีที่ศาลยกฟ้องเพราะไม่มีของกลาง ส่วนคดีนี้ก็ควรทำให้ไม่มีของกลาง"

ทนายพัช มั่นใจ \"แอม\" หลุดคดีวางยา \"เท้าแชร์ก้อย\" ศาลเลื่อนตรวจหลักฐานไป 20 พ.ย. นี้

อย่างไรก็ตาม ไม่มีความกังวลในวันนี้เนื่องจากพยานหลักฐานมีความชัดเจนทั้งนิติวิทยาศาสตร์ ผลการชันสูตรพลิกศพ และวัตถุพยาน ถือว่ามีความแน่นหนา แต่เป็นห่วงแทนฝั่งจำเลยมากกว่าที่พยานหลักฐานแน่นหนาขนาดนี้ แต่จะยังคงยืนกรานต่อสู้คดี อย่างไรก็ตามหากการเปิดพยานหลักฐานวันนี้มีชัดเจน จำเลยอาจให้การรับสารภาพได้ และศาลอาจลดโทษจากประหารชีวิตคงเหลือจำคุกตลอดชีวิต แต่หากจำเลยยังไม่ให้การรับสารภาพ และต่อสู้ในชั้นศาลอาจจะใช้เวลาอีกประมาณ 3-4 ปี เนื่องจากมีพยานหลักฐานในคดีจำนวนมาก

นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีแอม ไซยาไนด์ กล่าวว่า ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะผู้เสียหายได้รับความเสียหายมามากแล้ว แต่ฝากไปถึงทนายของคู่กรณีอยากให้ระมัดระวังการใช้ถ้อยคำที่เสียดแทงใจญาติของผู้เสียหายและอยากให้สงบปากสงบคำมากกว่านี้ และคำนึงถึงมารยาทของทนายความด้วย ส่วนผลทางคดีนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาให้ความเป็นธรรมของศาลแต่เบื้องต้นผู้กระทำผิดก็ได้รับผลกรรมแล้ว

ทนายพัช มั่นใจ \"แอม\" หลุดคดีวางยา \"เท้าแชร์ก้อย\" ศาลเลื่อนตรวจหลักฐานไป 20 พ.ย. นี้

ด้าน นางทองพิน อายุ 63 ปี แม่ของนางสาวก้อย เหยื่อในคดีนี้บอกว่า ไม่มีความหนักใจในคดีนี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่อยากให้ทางจำเลยพูดความจริง ทุกอย่างจะได้จบลง แต่ช่วงเช้าวันนี้ก็ได้จุดธูปเชิญนางสาวก้อยขึ้นรถมาด้วย

เมื่อถึงเวลา พนักงานอัยการโจทก์ นางทองพิณ เกียรติชนะสิริ มารดาผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม จำเลยที่ 1-3 พร้อมทนายความมาศาล ซึ่งนางทองพิณ ผู้ร้องได้ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ตามคำร้องตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2566 สอบโจทก์แล้วไม่คัดค้าน ส่วนทนายความจำเลยที่ 2 และ 3 คัดค้านการขอเป็นโจทก์ร่วมของ นางทองพิณ โดยแถลงเพิ่มเติมว่า ผู้ร้องไม่ใช่มารดาของผู้ตายในคดีนี้ พร้อมยื่นเอกสารประกอบ

แต่ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ได้ตรวจพยานหลักฐานที่คู่ความเสนอ โดยเฉพาะทนายความของผู้ร้องแถลงว่า นางทองพิณ มารดาผู้ตายได้เปลี่ยนชื่อ นามสกุล มาหลายครั้ง แต่ยืนยันว่าเป็นมารดาของผู้ตายจริง ทั้งนี้ศาลได้ดูเอกสารที่จำเลยที่ 3 และทนายความจำเลยทที่ 3 อ้างส่งประกอบเอกสารที่ผู้ร้องส่งโดยเฉพาะบัตรประจำตัวประชาชน มีหมายเลขประจำตัวประชาชนถูกต้องตรงกัน น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลเดียวกัน อีกทั้งโจทก์ไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้นางทองพิณ เข้าเป็นโจทก์ร่วมในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 ส่วนความผิดฐานอื่นเป็นความผิดต่อรัฐ ไม่อนุญาต

ทนายพัช มั่นใจ \"แอม\" หลุดคดีวางยา \"เท้าแชร์ก้อย\" ศาลเลื่อนตรวจหลักฐานไป 20 พ.ย. นี้

ทนายความจำเลยทั้ง 3 แถลงว่าเนื่องจากเอกสารที่ต้องตรวจเป็นจำนวนมากและเพิ่งเห็นในวันนี้ จึงขออนุญาตเลื่อนการพิจารณาไปนัดหน้า 
   
ศาลสอบโจทก์และทนายความโจทก์ร่วมแล้วไม่คัดค้าน ส่วนประเด็นที่ นางทองพิณ ทนายความโจทก์ร่วมยื่นคำร้องขอให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/2นั้นให้จำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การในส่วนแพ่งต่อศาลภายใน 15 วัน
   
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม เปิดโอกาสให้คู่ความทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลได้อย่างเต็มที่ อนุญาตให้เลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อประชุมคดี ตรวจพยานหลักฐาน สอบคำให้การจำเลยทั้งสาม กำหนดวันนัดสืบพยานในวันที่ 20 พ.ย.2566 เวลา 09.00 น.

logoline