svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เปิดผังผู้เกี่ยวข้องคดีบุกค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" หลังทนายขู่ฟ้องชุดปฏิบัติการ

เปิดผังผู้เกี่ยวข้องคดีบุกค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" หลังทนายอนันต์ชัย เตรียมลุยฟ้องกราวรูดชุดตรวจค้นบ้าน ด้าน บิ๊กโจ๊ก ลั่นแรง! รู้ว่าใครสั่ง ถ้าเปิดข้อมูลคงตายทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

"ผมรู้ว่าใครเป็นคนดำเนินการกับเรื่องราวทั้งหมด รู้ว่าใครเป็นคนสั่ง แต่ผมไม่อยากทุบหม้อข้าวตัวเอง ไม่อยากให้ลูกน้องที่ไม่เกี่ยวข้อง ให้เขาได้มีทางเดิน ถ้าทุบหม้อข้าวตัวเอง คงตายทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมถึงไม่เปิดรายละเอียดทั้งหมด"

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์หลังมอบหมายให้ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ยื่นคำร้องขอศาล ไต่สวนการละเมิดอำนาจของศาล ในการขอออกหมายจับ และการขอออกหมายค้นบ้านพัก เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา

เปิดผังผู้เกี่ยวข้องคดีบุกค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" หลังทนายขู่ฟ้องชุดปฏิบัติการ

เนชั่นออนไลน์
พาไปย้อนเหตุการณ์ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโน โลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร. (Police Cyber Taskforce : PCT) ชุด 4 นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. ในฐานะหัวหน้าด้านปฏิบัติการ ศปอส.ตร. สนธิกำลังตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ และ ชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด เปิดปฏิบัติการ "บิ๊กคลีนนิ่งเดย์ กวาดบ้านตำรวจ"

ตรวจค้นกว่า 30 จุดใน 6 จังหวัดทั่วประเทศ ทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ของนายพงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ หรือ "บอสตาล" และ น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี หรือ "มินนี่" ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ หลังออกหมายจับผู้ต้องหาเป็นพลเรือน 15 คน และตำรวจ 8 นาย ซึ่งเป็นลูกน้องของ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.

ในปฏิบัติการครั้งนี้ ชุด PCT 4 เข้าตรวจค้นบ้านพักของบิ๊กโจ๊ก ภายในซอยวิภาวดี 60 ทำให้บิ๊กโจ๊กออกมาตอบโต้ว่า มันมีความผิดปกติ เพราะมีการไปหลอกศาล ทำให้ศาลไม่รู้ว่าเป็นบ้านของตน นี่เป็นการเตรียมการมาแล้ว เชื่อว่าไม่มีอำนาจอื่นเข้ามาแทรกแซง แต่เป็นการเมืองภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

เปิดผังผู้เกี่ยวข้องคดีบุกค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" หลังทนายขู่ฟ้องชุดปฏิบัติการ

รายชื่อ 8 ตำรวจ ลูกน้องบิ๊กโจ๊ก

  • 1.พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศฝร.บช.น.
  • 2.พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.ตม.จันทบุรี
  • 3.พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รอง ผบก.สส.ภ.4
  • 4.พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ ผกก.ตม. จ.ฉะเชิงเทรา
  • 5.พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รอง ผกก.สส.สภ.สำโรงเหนือ
  • 6.พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร นายตำรวจติดตาม รอง ผบ.ตร.
  • 7.ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร.
  • 8.ส.ต.อ.อภิสิทธิ์ คนยงค์ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.บางปะกง

การออกหมายจับตำรวจ 8 นาย เนื่องจากตรวจพบเส้นทางการเงินเครือข่ายพนันออนไลน์ มีการโอนถ่ายผ่านบัญชีม้า เข้าสู่บัญชีของผู้ต้องหาจำนวนมาก

เริ่มจาก น.ส.ธันยนันท์ หรือมินนี่ สุจริตชินศรี ซึ่งถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 โอนเงินผ่านบัญชีม้านายพุฒิพงษ์ พูนศรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.890/2566 ลงวันที่ 22 กันยายน ให้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย จากนั้นมีการใช้ทั้งบัญชีม้าและบัญชีส่วนตัว โอนไปมาระหว่างตำรวจที่ถูกออกหมายจับ และตำรวจที่ยังไม่ถูกออกหมายจับอีก 4 นาย

บิ๊กโจ๊ก ยันไม่รู้จักมินนี่ เชื่อมีคนปล่อยภาพเพื่อดิสเครดิต

ภายหลังลูกน้องคนสนิทถูกจับกุม โลกโซเชียลมีการแชร์คลิปบิ๊กโจ๊กร้องเพลงเด็กบ้าน ๆ เด็กเลี้ยงวัว คู่กับ "มินนี่" ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินและพนันออนไลน์ โดย บิ๊กโจ๊ก ตอบประเด็นดังกล่าวว่า เป็นงานเลี้ยงที่ตนจัดให้ลูกน้อง เนื่องจากก่อนหน้านี้ลูกน้องไปช่วยเหลือเรื่องงานศพพ่อ ทุกคนเหนื่อยมาก จึงได้จัดงานเลี้ยงให้แล้วคนในงานเลี้ยง ก็มีการเชิญบุคคลภายนอกมา ซึ่งคลิปที่ตนกำลังร้องเพลงอยู่นั้น ไม่ทราบเลยว่าผู้หญิงคนดังกล่าวคือใครและไม่ได้มีการรู้จักกันเป็นการส่วนตัว

ส่วนกรณีที่มีลูกน้องคนสนิทถ่ายภาพโอบเอวผู้หญิงคนดังกล่าว ก็ต้องให้ลูกน้องตอบให้ได้ว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ส่วนตัวยืนยันว่าไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อน และงานเลี้ยงนี้ก็จัดขึ้นเมื่อหลายเดือนแล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งคลิปและภาพที่มีการปล่อยออกมา เชื่อว่าเป็นการดิสเครดิตตน เพราะมีความบังเอิญมากเกินไปที่ช่วงเช้าบุกตรวจค้นบ้านของตนทั้งหมด 5 หลัง และช่วงบ่าย อดีตผู้การจังหวัดชลบุรี เอาผิดกับตนที่ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เปิดผังผู้เกี่ยวข้องคดีบุกค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" หลังทนายขู่ฟ้องชุดปฏิบัติการ

บิ๊กโจ๊ก ยื่นคำร้องศาลอาญาไต่สวนเรื่องการละเมิดอำนาจศาล

วันที่ 26 กันยายน 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาไต่สวนเรื่องการละเมิดอำนาจศาล กรณีการออกหมายค้นบ้านตนเมื่อวันที่ 25 กันยายน ซึ่งมองว่าเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาล เพราะเจ้าหน้าที่ทราบดีว่าเป็นบ้านที่ตนอาศัย แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดให้ศาลทราบ

หากศาลทราบว่า เป็นบ้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ศาลคงให้ความเป็นธรรมในเรื่องคดี ตนยังไม่ได้ถูกกล่าวหา แต่ยกกำลังตำรวจมาเป็นโขยง ทำให้ตนเสียชื่อเสียง เป็นการปกปิดข้อเท็จจริงหลอกศาล ทำให้ศาลไม่รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด มาขอความเป็นธรรมเพื่อให้ศาลพิจารณามีคำสั่งไต่สวนเรื่องการละเมิดอำนาจศาล

เปิดผังผู้เกี่ยวข้องคดีบุกค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" หลังทนายขู่ฟ้องชุดปฏิบัติการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า การขอหมายจับที่ผ่านมา ถือเป็นการสอดไส้ เป็นการหลอกศาลอาญากรุงเทพใต้ และยังหลอกศาลอาญารัชดาภิเษกอีกด้วย เพราะหมายค้นที่มีการเข้าค้นบ้านตนนั้น ชุดดำเนินการได้ไปขอหมายค้นจากศาลอาญารัชดา โดยไม่แจ้งศาลว่า เป็นที่พักของรอง ผบ.ตร. แม้ชื่อเจ้าของจะเป็น "เฮียแต๋ม" ก็ตาม

สิ่งที่ตนตั้งข้อสงสัยคือ การออกหมายจับ พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร หรือ สารวัตรนนท์ ตำรวจติดตามของตน ที่ทราบว่า มีการออกหมายจับตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 กันยายน และมีการออกหมายค้น ในวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน ซึ่งช่วงดังกล่าว สารวัตรนนท์ อยู่ที่แฟลตตำรวจพญาไท ทำไมชุดจับกุมไม่เข้าจับกุมสารวัตรนนท์  แต่กลับมาจับที่หน้าบ้านพักของตน ในวันที่ 25 กันยายน แทน จึงมองว่าเป็นลักษณะการแบ่งงานกันทำ มีพฤติการณ์ร่วมกันปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาล จากการขอหมายค้นและหมายจับดังกล่าว

หัวหน้าด้านปฏิบัติการ PCT ยันไม่รู้เป็นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก"

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.กมค. ให้สัมภาษณ์โต้บิ๊กโจ๊กว่า การขอหมายค้น ไม่จำเป็นต้องระบุว่าผู้ใดอาศัยอยู่บ้าง เพียงแค่มีชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ปรากฏเท่านั้น ซึ่งในที่นี้เป็นชื่อบุคคลอื่น เจ้าหน้าที่จึงไม่ทราบว่า พื้นที่เป้าหมายตามหมายค้น เป็นบ้านพักของ "รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" ไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวอ้างว่า การขอหมายไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ยืนยันว่ามีเหตุให้เข้าค้นบ้านพัก เพราะ พ.ต.ต.ชานนท์ อ่วมทร ผู้ต้องหาที่ออกหมายจับ เป็นคนที่เข้าออกภายในบ้านทั้ง 5 หลังนี้ มีชื่อผู้ต้องหาลงทะเบียนรับส่งพัสดุเป็นประจำ และมีการชำระค่าสาธารณูปโภคซึ่งเป็นเงินจากบัญชีม้า โดยไม่ทราบว่า พ.ต.ต.ชานนท์ เป็นนายตำรวจติดตามของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และไม่ทราบมาก่อนว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักที่ตรวจค้น เพราะหมู่บ้านดังกล่าวมีการรักษาความปลอดภัยแบบระบบปิด ตำรวจจึงไม่ทราบว่ามีใครพักอยู่ภายในบ้านพักบ้าง

เปิดผังผู้เกี่ยวข้องคดีบุกค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" หลังทนายขู่ฟ้องชุดปฏิบัติการ

ทั้งนี้ การออกหมายจับมีการระบุตัวตนของบุคคลตามหมายจับ รวมถึงอาชีพที่ไม่ได้มีการปิดบังว่าเป็นตำรวจในการแถลงต่อศาล อีกทั้งกฎหมายก็ไม่ได้กำหนดไว้ว่า จะต้องระบุยศ สามารถใช้คำนำหน้านายได้ และมีหลายครั้งที่การออกหมายจับตำรวจบางคดี ต้องให้เกียรติกัน จึงไม่ระบุยศทางราชการ

ส่วนกรณีที่ ศปอส.ตร. ได้สืบสวนและออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 23 คน ตรวจค้น 30 จุดนั้น มีกำลังไม่เพียงพอจึงต้องขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจที่ทำงานและพร้อมส่งต่อข้อมูลกันได้ โดยเฉพาะกองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท., และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่มีตำรวจ ปปป. เข้าร่วมด้วย เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

เปิดผังผู้เกี่ยวข้องคดีบุกค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" หลังทนายขู่ฟ้องชุดปฏิบัติการ

"บิ๊กโจ๊ก" เผย เช่าบ้านเฮียแต๋ม นักธุรกิจรายใหญ่ที่ จ.อุดรธานี

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงประเด็นที่ปรากฏชื่อ ผู้ถือกรรมสิทธิ์บ้านทั้ง 5 หลัง คือ เฮียแต๋ม นักธุรกิจรายใหญ่ที่ จ.อุดรธานี และพบว่า มีการโอนเงินมาจ่ายค่าส่วนกลางบ้านปีละ 142,000 บาท ว่า ตนกับเฮียแต๋มและครอบครัวรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยตนเป็นสารวัตร เป็นความสัมพันธ์แบบญาติผู้ใหญ่ แต่ก่อนตนอยู่แฟลตตำรวจ จนมาเป็นผู้การ 191 ดูแล้วไม่ไหว งานเยอะ ลูกน้องเยอะขึ้น เลยจะออกมาอยู่บ้านแทน แต่บ้านยังสร้างไม่เสร็จ

จากนั้นเฮียแต๋มได้บอกว่า มีบ้านอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งตนเห็นว่าอยู่ใกล้แฟลตวิภาวดี จึงขอเช่า แต่เฮียแต๋ม ก็ให้อยู่เลย ซึ่งตนเกรงใจ จึงขอเช่าในราคา 50,000 บาท จำนวน 2 หลัง ส่วนค่าน้ำค่าไฟจ่ายเอง ส่วนอีกสามหลังที่เหลือแบ่งเป็น 2 หลังไว้เก็บของ (ไม่มีใครนอน) ลักษณะคล้ายว่า ตนเฝ้าบ้านให้เฮียแต๋ม อีกหลังว่างไว้ พอพ่อป่วยหนัก เลยบอกให้พ่อมาอยู่ที่นี่แทน และตนก็จ้างพยาบาลมาดูแล พอพ่อเสียบ้านนั้นเลยว่างพอดี สรุปตนใช้แค่ 2 หลังเท่านั้น

บ้านที่ตนอาศัยอยู่นี้ ได้เคยให้การกับ ป.ป.ช. ไว้นานแล้ว และตนบริสุทธิ์ใจ เฮียแต๋มก็ไม่ใช่คนที่ทำผิดกฎหมาย ตนเป็นคนสงขลา จึงมาหาเช่าบ้านอยู่ เพื่อความสะดวก

ทนายอนันต์ชัย ลุยฟ้องทีมค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก"

27 กันยายน 2566 ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ให้สัมภาษณ์รับว่าความให้ "บิ๊กโจ๊ก" เตรียมไล่เช็กบิลทีมบุกค้นบ้าน ส่วนเรื่องของผู้ใต้บังคับบัญชาที่โดนออกหมายจับ 8 คน ซึ่งจะต้องมาดูกันว่าส่วนไหนมีข้อพิรุธ แต่ถ้าหากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิด ก็ว่าไปตามผิด จะไม่ปกป้องคนทำผิดอย่างเเน่นอน

ไม่เชื่อว่าตำรวจที่ไปค้นบ้าน จะไม่รู้ว่าเป็นบ้านของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ดังนั้นการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการกลั่นเเกล้ง ดิสเครดิตอย่างเเน่นอน หน้าที่ของตนคือจะต้องทำความจริงให้ปรากฏ ในส่วนเรื่องเก่าของบิ๊กโจ๊กตนเองไม่เกี่ยว แต่เรื่องนี้ท่านถูกรังแก จึงต้องทำความจริงให้ปรากฏ ถ้าอึมครึมอยู่แบบนี้ ชื่อเสียงเกียรติยศจะป่นปี้หมด และในฐานะที่เป็นทนายความ ถือเป็นเหรียญสองด้าน ทั้งโจทย์และจำเลย หน้าที่ของทนายความคือทำความจริงให้ปรากฏต่อศาลและต่อสาธารณชน

เปิดผังผู้เกี่ยวข้องคดีบุกค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" หลังทนายขู่ฟ้องชุดปฏิบัติการ

ฝากถึงชุดพนักงานสอบสวน สอท. ว่าให้ระวังตัวไว้ ตนเองจะเช็กบิลย้อนหลังแน่นอน งานนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดู ขณะเดียวกันยังขอฝากไปถึงบุคคลบางคน ที่เอาข้อมูลส่วนบุคคลรวมไปถึงข้อมูลทางราชการไปเผยแพร่ขอให้ระวังตัวไว้ ผมเอาตายเเน่ การกระทำใด ๆ ขอให้ระมัดระวัง ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าทำในสิ่งที่ถูกใจ "เมื่อมาสู้กับผมแล้วจะรู้ว่านรกมีจริง"

"พ.ต.อ.ภาคภูมิ" ยอมรับรู้จักมินนี่ แต่ไม่เกี่ยวข้องเว็บพนัน

พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ซึ่งมีภาพถ่ายแนบชิดกับมินนี่ เจ้าแม่เว็บพนัน ให้สัมภาษณ์ยอมรับรู้จักกันจริงเมื่อปี 2563 เป็นเวลา 2 เดือน และมาเจอกันอีกครั้งตอนต้นปี 2566 และตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้เจอกันไม่กี่ครั้ง รูปถ่ายที่ปรากฏเป็นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา บางครั้งตนมีชื่อเสียงมีคนขอถ่ายรูปก็ปกติ แต่กับมินนี่ตนเองก็ไม่ได้ปฏิเสธเพราะรู้จักกันจริง

ยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน ไม่ได้สั่งการเว็บพนัน มียอดเงินมาแค่นี้จะเป็นเจ้าของได้อย่างไร และไม่เคยมีชื่อตนเองไปเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ทั้งชีวิตมีบัญชีแค่บัญชีเดียวคือบัญชีเงืนเดือน ไม่เคยมีบัญชีอื่น

เปิดผังผู้เกี่ยวข้องคดีบุกค้นบ้าน "บิ๊กโจ๊ก" หลังทนายขู่ฟ้องชุดปฏิบัติการ

ส่วนแชตไลน์ที่ปรากฏภาพว่า มีการส่งรูปภาพสมุดบัญชีม้า และยอดเงิน 500,000 บาท นั้น เป็นรายละเอียดที่อยู่ในคดี ตนเองได้มอบให้ทนายหมดแล้ว และมีพยานหลักฐานที่จะชี้แจงได้ แต่ขอให้อยู่ในสำนวนการสอบสวน

ทุกคนเขาเดือดร้อนเพราะผม เงินผมไปเข้าอีกคนจ่ายไปให้อีกคน ก็จะต้องให้ได้มีการพิสูจน์ ทั้งนี้ก็อยากจะกราบขอโทษพี่โจ๊กด้วย