19 กันยายน 2566 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ "กัน จอมพลัง" และ พ.ต.ท.ประทีป คำมี สวป.สน.บางเขน และ เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ร่วมให้การช่วยเหลือ เด็กหญิงการ์ตูน(นามสมมุติ) อายุ 4 ขวบ จากบ้านพักภายในซอยพหลโยธิน 48 แยก 22-11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้องการ์ตูน เคยได้รับความช่วยเหลือจาก "กัน จอมพลัง" เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังถูกพ่อเลี้ยงที่ติดยาเสพติด ติดพนันออนไลน์ ทำร้ายร่างกาย แต่แม่แท้ๆ กลับนิ่งเฉย ไม่ยอมพาไปรักษา ซ้ำยังพา ด.ญ.การ์ตูน หนีไปบ้านของญาติ ย่าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ในครั้งนั้น มีการแจ้งความไว้กับ พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.บางเขน คดีอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน ไม่มีความคืบหน้า หลังผ่านมาแล้วกว่า 7 เดือน
ขณะที่ "กัน จอมพลัง" เผยการช่วยเหลือครั้งนี้ เพราะพลเมืองดีแจ้งให้ทราบว่า ด.ญ.การ์ตูน ที่เคยช่วยเหลือครั้งก่อน กลับมาอยู่กับแม่แท้ๆ - พ่อเลี้ยงเช่นเดิมที่บ้านพักซอยพหลโยธิน 48 มีการถ่ายภาพร่องรอยตามตัวของ ด.ญ.การ์ตูน ที่ระบุว่าเป็นบาดแผลจากการโดนหม้อหุงข้าว แต่ตนไม่ปักใจเชื่อ วันนี้จึงเดินทางเข้าช่วยเหลืออีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ “กัน จอมพลัง” พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปถึงห้องเช่าในซอยพหลโยธิน 48 แยก 22-11 พบพ่อเลี้ยง(สงวนชื่อ นามสกุล) อายุ 26 ปี และแม่เลี้ยง(สงวนชื่อ นามสกุล) อายุ 31 ปี ของ ด.ญ.การ์ตูน เปิดประตูออกมา ก่อนมีการเชิญตัวออกมาที่ด้านนอก
ด้านพ่อเลี้ยง ระบุว่า ตนไม่ได้พักอาศัยอยู่กับแม่ของเด็กบ่อยนัก เพราะบางครั้งต้องออกไปทำงาน ยืนยันว่าไม่ได้ลงมือทำร้าย ด.ญ.การ์ตูน แต่ยอมรับเรื่องก่อนหน้านี้ มีการใช้ไม้แขวนเสื้อตีจนเกิดรอยฟกช้ำตามร่างกาย เคยถูกตำรวจเรียกไปสอบปากคำ แต่ไม่ได้ถูกดำเนินคดีในส่วนนี้ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเสพยาเสพติด มีการเสียค่าปรับในชั้นศาลแล้ว หลังจากนั้น แม่ของเด็กก็มักพาลูกสาวออกไปทำงานด้วย โดยจะไม่ให้อยู่กับตนเหมือนเช่นเคย
พ่อเลี้ยง กล่าวพยายามปฏิเสธการทำร้ายร่างกายเด็ก โดยระบุว่า ตั้งแต่ที่ลูกเลี้ยง(ด.ญ.การ์ตูน)กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ไม่เคยทุบตีหรือทำร้ายอีกเลย หากมีพยาน ตนก็ขอปฏิเสธ เพราะตนยืนยันว่าไม่เคยจริงๆ แค่ยังข้องเกี่ยวกับยาเสพติด เพิ่งเสพยาบ้าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านแม่แท้ๆ ของ ด.ญ.การ์ตูน กล่าวว่า ตนพาลูกสาวไปพักที่บ้านญาติ ย่านบางบัวทอง เพื่อไม่ให้เป็นคดีความ พร้อมยอมรับว่าเป็นคนตีลูกสาวในครั้งนั้น เพราะลูกสาวดื้อไม่ยอมฟังคำสั่ง ส่วนสามีก็เป็นคนตีเช่นกัน พอเป็นคดีความ มีการช่วยเหลือลูกสาวไปไม่ถึง 1 เดือน ทาง พ.ม. ก็โทรศัพท์ติดต่อมาที่แม่ของตน เพื่อจะส่ง ด.ญ.การ์ตูน คืน เหตุเพราะลูกสาวไม่สามารถที่จะอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ได้ มีการร้องไห้ตลอดเวลา ตนจึงรีบไปรับลูกสาวกลับมาอยู่ด้วย เป็นเวลา 2-3 เดือนแล้ว
ผู้เป็นแม่ ยังกล่าวอีกว่า หลังได้ลูกสาวคืนมา เวลาลูกสาวดื้อก็ไม่เคยตีลูกอีกเลย มีแค่การใช้เสียงดังในการสั่งสอนเท่านั้น ส่วนรอยฟกช้ำที่ปรากฎล่าสุด ยืนยัน ไม่ได้เกิดจากการทำร้ายร่างกาย แต่เกิดจากรอยของหม้อหุงข้าว ซึ่งปกติตนไม่ค่อยได้หุงข้าวอยู่แล้ว แต่วันเกิดเหตุ ตนได้ข้าวสารมาและอุ่นข้าวเอาไว้ แต่ลูกสาวซน วิ่งเข้าไปขนแล้วเอาแขนวางไว้บนหม้อจนเกิดบาดแผล
ส่วนรอยอื่นๆ เกิดจากการพาลูกสาวไปทำงาน(อาชีพแม่บ้าน)ด้วย ซึ่งเจ้าของบ้านเลี้ยงสุนัขตัวใหญ่ ลูกสาวและลูกของเจ้าของบ้านก็ไปเล่นกับสุนัข แต่ลูกสาวโดนสุนัขข่วนตามร่างกายเกิดบาดแผล ซึ่งเมื่อตนรู้เรื่องก็รีบพาไปหาหมอทันที เจ้าตัวยืนยันว่า นี่ไม่ใช่พูดปกป้องสามี แต่รอยแผลเกิดจากการที่ลูกสาวซุกซนตามประสาเด็กเท่านั้น มีชาวบ้านเป็นพยานได้
หาก พม.จะขอนำลูกสาวไปดูแล ตนก็ขอปรึกษากันก่อน เพราะอยากทำหน้าที่เลี้ยงดูลูกสาวเหมือนเดิม แต่ยอมรับว่า ตนกับสามีเสพยาเสพติดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา"
ขณะที่ น.ส ลิโด อายุ 28 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ระบุว่า เพื่อนที่พักอยู่ใกล้ห้องของ ด.ญ.การ์ตูน ได้ยินเสียงเด็กร้องบ่อยครั้ง ลักษณะเหมือนถูกทำร้ายร่างกาย ช่วงประมาณ 04.00 - 05.00 น. แต่พ่อเลี้ยงและแม่ของเด็ก อ้างว่าถูกสุนัขข่วน ชาวบ้านหลายคนก็ตั้งข้อสงสัยว่า พ่อเลี้ยงและแม่ ทำร้ายร่างกายและเป็นที่มาของการส่งข้อมูลขอความช่วยเหลือดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะพา ด.ญ.การ์ตูน ไปโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อตรวจสอบร่างกายและบาดแผลจากการถูกทำร้าย จากนั้นจะพาไปดูแลในเบื้องต้น เช่นเดียวกับพ่อเลี้ยงและแม่ ซึ่งหากผลการตรวจร่างกายพบสารเสพติด จะเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามขั้นตอนของกฎหมาย