
11 กันยายน 2566 ที่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จ.สมุทรสงคราม พนักงานสอบสวน สภ.นครปฐม ได้ยื่นคำร้องขอหมายขัง และนำตัว พ.ต.ต.กียรติศักดิ์ สมสุข, ร.ต.ท.ประสาร รอดผล, ร.ต.ท.นิมิตร สลิดกุล, ร.ต.ต.สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์, ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ แตงอำไพ, ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร ผู้ต้องหาที่ 1-6 ซึ่งถูกจับตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม
ในฐานความผิด "เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงาน ผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญากระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคล ใดมิให้ต้องโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง เพื่อจะช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง
ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด, ร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็น ผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม"
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ได้ไต่สวนคำร้องฯและพิจารณาหลักฐานของ ผู้ร้องแล้วเห็นว่า ผู้ร้องมีพยานหลักฐานตามสมควรว่าผู้ต้องหาทั้งหก เป็นผู้ซึ่งศาลได้ออกหมายจับได้อยู่ก่อนแล้ว โดยผู้ต้องหาทั้งหกน่าจะได้กระทำความผิดอาญาตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี จึงอนุญาตให้ ฝากขังผู้ต้องหาทั้งหก ตามคำร้องมีกำหนด 12 วัน นับแต่วันนี้ (11-22 กันยายนนี้ ) ต่อมาผู้ต้องหาทั้งหก ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เชื่อว่าหากผู้ต้องหาทั้งหกได้รับการปล่อยชั่วคราวแล้วอาจจะหลบหนี หรือ จะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งหก ในระหว่างสอบสวน ให้ยกคำร้อง