9 สิงหาคม 2566 เวลา 16.30 น. น.ส.ประวีณมัย บ่ายคล้อย ผู้ประกาศข่าวช่อง 3 เดินทางไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.มงคล ชัยศิลป์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดูดเงิน เสียหายกว่า 1 ล้านบาท
น.ส.ประวีณมัย เล่าว่า ขณะตนทำงานอยู่บ้าน เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามา อ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ระบุจะให้อัพเดทข้อมูลที่ดินในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงของการเสียภาษีที่ดิน และจากการตรวจสอบเว็บไซต์ของกรมที่ดิน พบว่าชื่อที่แอบอ้าง คือ เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ประจำ จ.ภูเก็ต จึงเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงๆ และได้เพิ่มเพื่อนในแอพลิเคชั่น “ไลน์” หรือ แอดไลน์
เมื่อแอดไลน์แล้ว มีการทักทาย อ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ฝ่ายทะเบียนออนไลน์ ทักเข้าถามว่าสะดวกคุยมั้ย เราก็ตอบกลับไปว่าสะดวก จากนั้น เขาจึงโทรกลับมาพูดแล้วให้เราติดตั้งแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ โดยออกอุบายว่าต้องให้ทำการอัพเดทผ่านโทรศัพท์มือถือที่เป็น iOS หรือ แอนดรอยด์ เท่านั้น
เมื่อติดตั้งแล้ว ปลายสายแนะนำให้ทำตามขั้นตอนการลงทะเบียน ในระบบแอพพลิเคชั่น ยืนยันรหัสโอทีพี และการสแกนใบหน้า 2-3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่สำเร็จจนเวลาล่วงเลยไปกว่า 1 ชั่วโมง ตลอดการพูดคุย มีการประวิงเวลาเพื่อไม่ให้ตนวางสายและออกจากแอพพลิเคชั่น
ตนเริ่มสงสัยและไม่ขอทำธุรกรรมด้วย จึงออกจากระบบ เมื่อตรวจสอบภายหลังพบว่า มีการทำธุรกรรมจากโมบายแบงกิ้งที่ผูกบัญชีบัตรเครดิต มีเงินเข้า 2 ยอด คือ 500,000 บาท และ 120,000 บาท ที่ถอนจากบัตรเครดิต บวกกับเงินที่มีอยู่ในบัญชีอีก 55,000 บาท ทั้งหมดถูกโอนออกจากบัญชีไปยังบัญชีบุคคลอื่น เป็นเงิน 675,000 บาท
เมื่อไปตรวจสอบบัญชีธนาคารอื่นอีก 1 บัญชี พบว่า เงินฝากกว่า 100,000 บาทถูกกดออกไป และอีก 1 บัญชีพบว่า มีการถอนเงินจากบัตรเครดิต 200,000 บาท รวม 3 บัญชี ซึ่งทุกบัญชีจะถูกโอนไปยังบัญชีชื่อ นายภานุพันธ์ จิรเมฆ แต่ไม่ซ้ำธนาคาร คาดว่า เป็นบัญชีม้า พบมูลค่าความเสียหายกว่า 1,000,000 บาท จึงรีบติดต่อไปยังธนาคารเพื่อขออายัดบัญชีปลายทาง แต่ธนาคารแจ้งว่าต้องมาแจ้งความก่อนเพื่อขอรหัส จึงจะสามารถอายัดบัญชีปลายทางได้
น.ส.ประวีณมัย กล่าวว่า ที่หลงเชื่อเนื่องจากมิจฉาชีพมีข้อมูลที่ตรงกับผู้เสียภาษี และเป็นช่วงที่ต้องเสียภาษี รวมถึงไลน์ที่ติดต่อและแอพพลิเคชั่นมีโลโก้จริงของกรมที่ดิน และยังสามารถบอกรายละเอียดหน้าจอขณะดาวน์โหลด รวมถึงเลขข้อมูลโฉนดที่ดินได้อย่างถูกต้อง ซึ่งตนยอมรับว่า พลาดที่ไม่ทันระวังตัว เนื่องจากขณะนั้นเธอทำงานอื่นไปด้วย จึงไม่ทันสังเกตุ
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำ น.ส.ประวีณมัย ในฐานะผู้เสียหาย เพื่อเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้ฝ่ายสืบสวนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป