
“กัน จอมพลัง” หรือ กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ได้พา นายอนุชา ชาติรักษา พ่อของนายแชมป์ อายุ 22 ปี ที่ถูกกลุ่มเพื่อนทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้าติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.มักกะสัน
โดย นายอนุชา เล่าว่า เหตุการเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมาแล้วได้มาแจ้งความในวันที่ 29 กรกฎาคม แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า เพื่อนที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายมีด้วยกัน 3 คน คือ นายเต้ อายุ 18 ปี นางสาวนิว อายุ 15 ปี และนายบิว นักมวยอีกคนที่ถูกชักชวนมาร่วมก่อเหตุ โดยจุดเริ่มต้นมาจากวันที่เกิดเหตุ นายแชมป์ นายเต้ และนางสาวนิว มานั่งเล่นกันที่บ้านพักอยู่เป็นประจำ
แต่ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. ทราบว่า ลูกถูกรุมทำร้ายร่างกายจนมีบาดแผลฉกรรจ์ ทั้งใบหน้าและตามร่างกาย โดยมีใช้มีดกรีดที่บริเวณขาด้วย ซึ่งขณะที่ถูกกระทำ กลุ่มเพื่อนได้บันทึกคลิปวิดีโอ ก่อนนำไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ เป็นภาพที่ค่อนข้างน่ากลัว
นายอนุชา ระบุ อาการของลูกชาย ขณะนี้ปอดฉีก 2 ข้าง หายใจเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลรามาธิบดี โดยสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายได้นำรถจักรยานยนต์ของ นางสาวนิว ไปขี่แล้วเกิดล้ม ทำให้รถได้รับความเสียหาย ทางเจ้าของ จยย.จึงเรียกค่าเสียหาย 1 หมื่นบาท แต่ไม่มีเงิน
จากนั้น ในกลุ่มคู่กรณีได้ชวน นายบิวที่เป็นนักมวยมาร่วมก่อเหตุก่อนจะหลบหนีไป เมื่อเพื่อนบ้านมาเห็นลูกชาย ก็ได้นำส่งโรงพยาบาล ส่วนตัวพ่อของผู้บาดเจ็บ ตอนเกิดเหตุอยู่ต่างจังหวัด และก็เชื่อว่าอาจจะมีสาเหตุมากกว่านี้ ที่ทำให้กลุ่มเพื่อนลงมือก่อเหตุ
นายอนุชา ระบุอีกว่า ลูกชายมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า อยู่ระหว่างการรักษาและดื่มน้ำกระท่อม รวมทั้งเสพกัญชากับกลุ่มเพื่อนซึ่งรู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก และได้ชวนกันมานั่งเล่นที่บ้านเป็นประจำ โดยที่ผ่านมาก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน
ขณะที่ พ.ต.ท.ปฏิพล สรรพพันธุ์ สารวัตร (สอบสวน) สน.มักกะสัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ไปขอศาลออกหมายจับได้แล้ว 1 คน คือ นายเต้ ในข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่า และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” ซึ่งฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างกำลังติดตามตัวมาดำเนินคดี
ด้าน กัน จอมพลัง เผยว่า เหตการณ์ที่เกิดชึ้นถือเป็นเรื่องอุกอาจมาก หนึ่งในผู้ก่อเหตุยังเป็นเยาวชน แต่กับแสดงออกอาการเหมือนกับว่าสนุกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น มีการถ่ายคลิป และโพสต์ลงโซเชียล คล้ายเป็นการตอกย้ำผู้บาดเจ็บซึ่งอาการหนักมาก นอกจากนั้นยังมีการเข้าไปทำร้ายร่างกายซ้ำอีก ซึ่งตำรวจขอเวลาทำงาน 1 สัปดาห์ ตนก็จะคอยติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เพราะคดีแบบนี้ควรต้องดำเนินการจับกุมให้เร็วที่สุด