30 กรกฎาคม 2566 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือ เพื่อดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ อย่างจริงจัง และเด็ดขาด และหาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเข้มข้น
จากที่ผ่านมาได้มีการผลักดัน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562 เพิ่มอำนาจการยับยั้งธุรกรรม ที่อาจเป็นการหลอกลวงประชาชนได้ทันท่วงที ให้กับธนาคาร จากเดิมประชาชนที่โดนหลอกให้โอนเงิน ต้องไปแจ้งความกับตำรวจก่อน จึงแจ้งมายังธนาคารให้ดำเนินการอายัดบัญชี แต่ปัจจุบันกฎหมายดังกล่าวทำให้ธนาคารสามารถยับยั้งธุรกรรมได้ภายใน 72 ชั่วโมง สามารถลดการสูญเสียทรัพย์สินได้มาก
จากปัจจุบัน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือ ดีอีเอส พบสถิติการแจ้งความร้องเรียนอยู่ที่ 600 รายการต่อวัน ลดลงจากวันละ 800 รายการ นับตั้งแต่มีการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ สำหรับเรื่องร้องเรียนและคดีความเฉลี่ย 600 รายการต่อวันนั้น แบ่งเป็น 2 ประเภท
1.การหลอกให้โอนเงินในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์หลอกลวง ส่งข้อความฝังลิงก์สแกม หรือแฮกโทรศัพท์
2.การขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซที่ไม่ตรงปก
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ระบบการระงับธุรกรรมของธนาคารปัจจุบัน ยังใช้แบบ manual โดยประชาชนที่ถูกหลอกลวงแจ้งไปยังธนาคารต้นทาง และธนาคารต้นทางแจ้งต่อธนาคารที่รับโอนเป็นทอด ๆ กรณีมิจฉาชีพวางแผนมาอย่างดีเพียง 1 นาทีอาจโอนออกไปได้หลายบัญชีทำให้อาจระงับไม่ทันนั้น เรื่องนี้ สมาคมธนาคาร และธนาคารแห่งประเทศไทย กำลังพัฒนาแพลตฟอร์ม รองรับการทำธุรกรรมผ่านธนาคารที่มีความปลอดภัยสูง และป้องกันการหลอกลวงผ่านออนไลน์ ที่เรียกว่า central fraud registry
ซึ่งถ้าระบบดังกล่าวแล้วเสร็จ จะสามารถตรวจจับธุรกรรมผิดปกติได้ทั้งระบบ โดยไม่ต้องแจ้งเป็นทอด ๆ เช่น การโอนเงินต่อเนื่องหลายบัญชี โอนไปในบัญชีเสี่ยง บัญชีม้า เหล่านี้จะถูกตรวจสอบทั้งระบบโดยอัตโนมัติทำให้ยอดการแจ้งความร้องเรียนอาชญากรรมออนไลน์ลดลงได้อีก
“พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ในทุกมิติ ให้ครอบคลุมและล้ำหน้ามิจฉาชีพ ทั้งการป้องกัน ปราบปราม การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีองค์ความรู้ และพัฒนานวัตกรรมเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเดือดร้อนกับพี่น้องประชาชนให้ได้”น.ส.ทิพานัน กล่าว