
5 เมษายน 2566 จากกรณีเมื่อวันที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จับกุม นายภีรพัฒน์ บุญมี อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาอ้างตัวเป็น"เซเลบเก๊" ตระเวนก่อเหตุนัดเดทกับผู้เสียหาย โดยตั้งโปรไฟล์ดี ผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ เมื่อเหยื่อยอมเจอตัว และ ร่วมหลับนอนด้วย ก็จะอาศัยโอกาสที่เหยื่อหลับ ขโมยรถไปให้ผู้ค้ารถเถื่อน และตำรวจได้ขยายผลผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลจับกุม "แก๊งมาม่าซัง" ซึ่งถือเป็นขบวนการชำแหละรถเถื่อนรายใหญ่ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน ในข้อหา "ร่วมกันรับของโจรอันเป็นการค้ากำไร" จับกุมได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 95 หมู่ 3 ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ประกอบด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นอกจากนี้ตำรวจได้นำหมายศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเปิดเป็นร้านนวดแผนโบราณ ชื่อ "นวพร" หลังสืบทราบว่า สถานที่แห่งนี้ถูกเปิดไว้ใช้บังหน้า ซึ่งมีเครื่องโต๊ะหมู่บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่ในร้าน ส่วนด้านหลังร้านจะมีรถที่ถูกขโมยมา นำมาจอดพักไว้
จากการตรวจค้นสามารถตรวจยึดของกลางเป็นรถยนต์จำนวนมาก ประกอบด้วย
สำหรับรถยนต์ ฮอนด้า ซิตี้ ติดแผ่นป้ายทะเบียน "กจ 9XXX เลย" เป็นรถที่มีผู้เสียหายแจ้งความรถหายไว้ที่ สน.โคกคราม เมื่อวันที่ 19 เมษายน ผู้เสียหายได้เดินทางมาดูรถ พร้อมยืนยันว่าเป็นรถของตนจริง มีรอยตำหนิที่บริเวณคอนโซลหน้ารถ แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการดัดแปลงเปลี่ยนป้ายทะเบียนเดิมออกไป ซึ่งผู้เสียหายดีใจมากที่ได้รถคืน และได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ติดตามรถมาให้
ด้านนางสมนึก เจ้าของร้าน ให้การอ้างว่า เปิดร้านนวดมาแล้ว 3 ปี และ ไม่ทราบว่ารถที่จอดหลังร้านเป็นรถที่ขโมยมา หรือป้ายทะเบียนที่ตำรวจยึดได้นั้น เจ้าตัวให้การอ้างว่าลูกนำมาฝากไว้ และไม่ทราบว่าลูกสาว และ ลูกเขยทำงานเกี่ยวกับการชำแหละรถเถื่อนแต่อย่างใด
ต่อมาเป็นการเข้าค้นในจุดที่สอง บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่โกดังสำหรับชำแหละรถ โดยตำรวจสามารถตรวจยึดของกลางเป็นซากกล่องหัวฉีด แท่นตอกระบุตัวอักษร "ขส" ป้ายทะเบียนรถ - แผ่นวงกลมอีกจำนวนมาก เล่มทะเบียนรถ สมุดบัญชีซื้อขายรถ และที่ด้านหลังเจ้าหน้าที่ยังพบรถยนต์อีก 5 คัน ประกอบด้วย
ด้านนายรุ้ง หนึ่งในผู้ต้องหา ระบุว่า เปิดอู่รับซื้อรถแห่งนี้มานานกว่า 2 ปี โดยรถของผู้เสียหายนี้ มีทางนายภีรพัฒน์ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ได้ติดต่อผ่านทางแชทเข้ามาเสนอขายรถ เมื่อไปดูในครั้งแรกช่วงค่ำ พบว่าเอกสารไม่ครบถ้วน ตนจึงไม่ซื้อ แต่ในเช้าวันถัดมา นายภีรพัฒน์ ได้ติดต่อมาอีกครั้งผ่านแฟนสาวว่าเอกสารครบแล้ว จึงได้ซื้อรถคันนี้มา
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า แก๊งนี้ ถือว่าเป็นขบวนการชำแหละรถเถื่อนรายใหญ่ ส่วนใหญ่จะส่งขายในพื้นที่ จ.นนทบุรี และจากการสอบสวนทราบว่า คนร้านกลุ่มนี้จะไม่เน้นรถยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง หลังจากที่คนร้ายรับซื้อรถมาแล้ว ก็จะยกตัวเครื่องขึ้นและเจียร์ตัวเลขออก
จากนั้นก็จะตอกตัวเลขเข้าไปใหม่ ทั้งในส่วนของเลขเครื่อง และ เลขคัสซี ส่วนทะเบียนเล่มรถนั้น ก็จะหาเล่มทะเบียนจริงมาใช้ โดยหาซื้อมาจากอินเทอร์เน็ต จากนั้นก็ตอกเลขให้ตรงกับทะเบียนเล่ม และส่งขาย ได้เงินมาในหลักแสนบาท ซึ่งเส้นทางการเงินหลังจากนี้ตำรวจจะตรวจสอบต่อไป
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชน ตรวจสอบหมายเลขตัวถังรถที่ถูกยึดไว้ครั้งนี้ หากพบว่าตกเป็นผู้เสียหาย สามารถแจ้งได้ที่ บก.สส.บช.น. หรือทางเฟซบุ๊ก สืบสวนนครบาล IDMB และฝากเตือนไปถึงกลุ่มผู้ซื้อขายรถเถื่อน ขอให้เลิกพฤติกรรมในลักษณะนี้ไม่เช่นนั้นจะถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน