จี้ ปคบ. เอาผิดบ.ทัวร์ เก็บเงินแล้วเบี้ยวไม่พาไปเที่ยว สูญนับ 10 ล้าน

29 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ ศูนย์รับแจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หรือ ทนายรณรงค์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้เสียหายกว่า 10 ราย เข้าพบ พงส.บก.ปคบ. ยื่นหนังสือถึงพล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. ถูกบริษัททัวร์โกง

ทั้งนี้ ผู้เสียหาย ซื้อทัวร์เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างประเทศจากเพจ “พาเที่ยวเลย” แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาเดินทาง ไม่ได้รับการติดต่อแต่อย่างใดกลับโดนทิ้งไว้ที่สนามบิน ความเสียหายหลายล้านบาท

นายรณรงค์ กล่าวถึงทัวร์ทิพย์ ว่า ผู้เสียหายถูกบริษัททัวร์ชื่อดังแห่งนึ่ง ใน จ.ปราจีนบุรี หลอกลวงขายตั๋วว่าสามารถพาเที่ยวในต่างประเทศได้ แต่เมื่อจ่ายค่าตั๋วไปแล้ว พอถึงวันเดินทางกลับไม่ได้ไปอย่างที่โฆษณาไว้ ทำให้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อเกือบ 100 ราย มูลค่าเสียหายนับ 10 ล้านบาท จึงรวมตัวมาขอความช่วยเหลือในด้านคดี ซึ่งบริษัททัวร์แห่งนี้ ยังเปิดดำเนินกิจการอยู่

วันนี้จึงพามาแจ้งความ ปคบ.ให้ดำเนินคดีฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและการทำผิดนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์” บางคนก็โดนไปหลายแสนบาท นอกจากนี้ยังมีคณะครูโรงเรียนดัง ซื้อทัวร์ไป 60 กว่าคน คาดว่าจะไม่ได้บินเหมือนกัน และจะให้ผู้เสียหายไปยื่นเรื่องร้องต่อ ททท. ด้วย เพื่อให้สั่งเพิกถอนใบอนุญาตด้วย

นางสมหญิง (นามสมุติ) หนึ่งในผู้เสียหาย อายุ 41 ปี เล่าว่า ตนกับเพื่อนๆ อีก 6 คน ได้ไปซื้อตั๋วทัวร์เพื่อเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น โตเกียว-ฟูจิคาว่า เพื่อดูหิมะและชมซากุระบาน โดยจองทัวร์เดินทาง 15-19 มี.ค. 66 ในราคาหัวละ 35,888 บาท และได้จ่ายเงินมัดจำให้กับบริษัททัวร์ดังกล่าว จำนวน 84,000 บาท และต่อมาจ่ายอีก 95,328 รวมทั้งหมด 179,328 บาท

การจ่ายเงินโอนเข้าบัญชีเจ้าของบริษัท แต่พอถึงวันเดินทางกลับไม่สามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้ เมื่อสอบถามบริษัททัวร์ ก็ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา สุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อได้ เบื้องต้นแจ้งความแล้ว แต่มา ปคบ.วันนี้เพื่อต้องการให้เขารับผิดชอบ

ขณะที่ นายสมชาย (นามสมมุต) ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนพร้อมเพื่อนๆ 18 คน ได้จองคณะทัวร์เพื่อไปเที่ยวหลวงพระบาง สปป.ลาว ในราคาหัวละ 10,000 บาท และโอนเงินให้กับบริษัททัวร์แห่งนี้ไปแล้ว 123,000 บาท โดยจะออกเดินทางในวันที่ 5-7 เม.ย. เมื่อเช็กที่พักและสายการบินแล้ว ปรากฏว่าไม่มีการจองแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าถูกหลอก

ส่วนเพจเฟซบุ๊กของบริษัททัวร์ดังกล่าว ก็ยังเปิดให้จองท่องเที่ยวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทนายรณณรงค์เข้ามาช่วยเหลือ เพราะไม่อยากให้ทางบริษัทแห่งนี้ไปเที่ยวหลอกลวงคนอื่นอีก