สอบสวนกลาง รวบ "บอย ตีนเมรุ" หลบหนีหมายศาล คดีพยายามฆ่าและอุ้มเรียกค่าไถ่

16 มีนาคม 2566 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิญโย รอง ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์ รอง ผกก.6 บก.ป. และ พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ทศพล กิติลาภ สว.กก.6 บก.ป. และ ร.ต.อ.อนุวัฒน์ ณ ปัตตานี รอง สว. กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป.

ร่วมกันจับกุม นายเดชา หรือหลวงบอย (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ได้ที่ถ.แสงศรี ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 โดยนายเดชา เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 295/2565 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2565 หลบหนีระหว่างพิจารณาคดีในความผิดต่อชีวิต และความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ และหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 352/2565 ลงวันที่ 22 เมษายน 2565 ซึ่งหลบหนีในระหว่างพิจารณาคดีในความผิดต่อร่างกาย, ความผิดต่อเสรีภาพ และความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. เร่งดำเนินการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังคงหลบหนีการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. จึงได้ดำเนินการสืบสวนติดตามตัว นายเดชาฯ หรือ บอย ตีนเมรุ ผู้ต้องหาซึ่งหลบหนีหมายศาลในระหว่างพิจารณาคดีจำนวน 2 หมายจับ ทั้งในคดีพยายามฆ่าผู้อื่น เมื่อปี พ.ศ.2552 และคดีร่วมกันอุ้มเรียกค่าไถ่ในคดียาเสพติด เมื่อปี พ.ศ.2564

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาเพิ่มเติม โดยพบว่านายเดชาฯ ได้เคยก่อเหตุกระทำความผิดในความผิดอื่นอีกหลายคดี ได้เเก่ คดีลักทรัพย์หรือรับของโจร คดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. จึงเร่งดำเนินการติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้ โดยจากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวันที่ 13 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหา หลังจากนั้นจึงนำตัวส่งศาลจังหวัดสงขลาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป