svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"นักอาชญาวิทยา"อ่านพฤติกรรม "นิ่ม"แม่ของ"น้องต่อ" ยังมีพิรุธ

01 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"นักอาชญาวิทยา" อ่านพฤติกรรม"นิ่ม"แม่ของ"น้องต่อ"วัย 8 เดือน ปูมหลังปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ที่กดดันสะสม ส่งผ่านกลายเป็นพฤติกรรมโกหกเพื่อเอาตัวรอด ชี้เทียบเคส"ไอซ์ หีบเหล็ก"

1 มีนาคม 2566 จากคำสารภาพของ"นิ่ม"แม่ของ"น้องต่อ" เด็กชายวัย 8 เดือน ที่ยอมรับว่า ที่ผ่านมาโกหก แต่วันนี้พูดจริง นำลูกไปโยนทิ้งที่คลองท่อ ติดกับแม่น้ำท่าจีน ทว่าทั้งหมดเป็นเพียงคำกล่าวอ้างของแม่เด็กวัย 8 เดือนคนเดียว ขณะนี้ยังไม่มีพยานคนอื่น และยังไม่พบหลักฐานอะไรที่บ่งชี้ว่า เด็กเคยอยู่ตรงนั้น เช่น เสื้อผ้า คราบเลือด ทำให้นักอาชญาวิทยาอ่านพฤติกรรมและคำให้การของแม่ "เป็นไปได้ว่า คำให้การของเธอ อาจจะไม่จริง"

ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยา และพฤติกรรมอาชญากร อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า มีปัจจัยหลายอย่าง ที่ทำให้แม่โกหก และปูมหลังของแม่ อาจจะทำให้สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเธอ ตื่นตัวมากกว่าคนปกติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

"นักอาชญาวิทยา"อ่านพฤติกรรม "นิ่ม"แม่ของ"น้องต่อ" ยังมีพิรุธ

ผลการตรวจทางจิตเวชของแม่เด็ก 8 เดือนไม่มีความผิดปกติทางจิต อาจจะหมายถึงไม่มีความผิดปกติรุนแรง โรคจิตเภท หรือมีอาการไบโพลาร์ แต่อาจจะมีนิสัยโกหก เพราะมาจากการเลี้ยงดูที่เติบโตมา การโกหกอาจทำให้ไม่ถูกรังแก ไม่ถูกกลั่นแกล้งไม่ถูกลงโทษ ไม่ถูกทำร้ายร่างกาย

นักอาชญาวิทยา บอกว่า จากการให้สัมภาษณ์ชีวิตของแม่เด็ก 8 เดือนถูกบูลลี่กลั่นแกล้งมาตั้งแต่เด็ก ที่บ้านมีฐานะยากจน และทุกสิ่งอย่างจะเป็นปัจจัยที่ทำให้คนหนึ่งกลายเป็นคนที่ไม่พูดความจริง ไม่เป็นตัวเอง ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีคนที่ไว้ใจให้ปรึกษาเรื่องราวต่างๆ

แม้จะมีการตั้งข้อหากับแม่เด็กวัย 8 เดือน ประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต แต่ยังไม่พบประจักษ์พยาน อาจารย์ตฤณ จึงยังไม่อยากให้ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งกรณีที่เด็กยังมีชีวิตอยู่ หรือเสียชีวิต ทางคดี จำเป็นต้องรู้ช่วงเวลาที่เด็กเสียชีวิต เพื่อแจ้งข้อหาให้ชัดเจน

รวมทั้งข้อหาซ่อนเร้น ทำลายศพ ตำรวจต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า อำพรางศพด้วยวิธีใด และไม่สามารถอาศัยคำให้การของนิ่มเพียงคนเดียว ต้องสอบปากคำพยานแวดล้อม ควบคู่กับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ตฤณห์ โพธิ์รักษา
 

ขณะที่ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต  ระบุว่าว่า พบความผิดปกติและพิรุธจากการให้การของแม่เด็ก ตั้งแต่คำกล่าวอ้างเรื่องชายเสื้อเหลืองมาอุ้มเด็กไป และกลับคำให้การ จนถึงตอนนี้ที่ออกมารับสารภาพ แต่การค้นหาในจุดต่างๆ ยังไม่มีรอยหลักฐาน จึงยังไม่ชัดว่าเป็นคำสารภาพที่จริงหรือไม่

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ ระบุอีกว่า หากวิเคราะห์ถึงปูมหลังการกระทำผิดของแม่ จากที่มูลนิธิกระจกเงา และถูกนำเสนอในสื่อสะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันในครอบครัวที่เรียกว่ามาจากความรุนแรงในครอบครัว ที่ส่งผลให้เกิดกระทำต่อบุคคลอื่นและกลายเป็นอาชญากร เคสนี้คล้ายกับคดีของไอช์ หีบเหล็ก ที่มาจากความรุนแรงในครอบครัว

มองว่าเคสแม่เด็ก 8 เดือนเกิดจากความรุนแรงในครอบครัวที่สะสมมาตั้งแต่เด็ก ไม่มีความรัก ไม่มีสายใยจากครอบครัว ทำให้พฤติกรรมที่สะท้อนออกมาด้วยการโกหก เป็นสัญชาติการเอาตัวรอด

หากถามว่าแม่เด็ก 8 เดือนมีโอกาสเป็นคนดีหรือกลับมาใช้ชีวิตได้หรือไม่ ถ้าสังคมให้โอกาส นักอาชญาวิทยา บอกว่า ในแง่ของคดีต้องรอพยานหลักฐานและการพิสูจน์ว่าเป็นการเจตนาฆ่าหรือจงใจกระทำต่อลูกหรือไม่ ซึ่งยังต้องรอกระบวนการกฎหมาย แต่ในแง่ของสังคมการฟื้นฟูมีโปรแกรมที่ทำให้เยียวจาจิตใจได้ แต่ขึ้นกับผ้าขาวที่เปื้อนผืนนั้นว่าเปื้อนอะไรมาบ้าง

ทั้งนี้ มองว่าโอกาสฟื้นฟูจิตใจ และการยอมรับของสังคมทำได้ แต่ขึ้นกับผ้าขาวผืนนั้นว่าเปื้อนอะไรมา ถ้าเปื้อนแค่หมึกสีเทา ซักแล้วยังจาง แต่ถ้าเปื้อนหลายสิ่งจนซักไม่ออก คงกลับคืนเป็นผ้าขาวได้ยาก
กฤษณพงค์ พูตระกูล

logoline