svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

“นอท กองสลากพลัส” ยันไม่หนี หลังลือหนักอยู่ริมชายแดน

31 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ความคืบหน้าธุรกิจ “นอท กองสลากพลัส” ซีอีโอ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ หลังเจอกระแสข่าวเตรียมหนีออกนอกประเทศ ล่าสุดเจ้าตัวไลฟ์อยู่บ้าน โชว์แมว ยันไม่หนี ขอสู้ปมถูกตรวจสอบเส้นทางเงิน

เกาะติดการดำเนินธุรกิจของ บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด ผู้ดูแลการจัดจำหน่ายลอตเตอรี่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ชื่อ กองสลากพลัส ซึ่งมีนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” เป็นซีอีโอบริษัท หลังมีกระแสข่าวออกมาว่า ซีอีโอนอท เตรียมหนีออกนอกประเทศ

หลังจากถูกหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าตรวจสอบการดำเนินธุรกิจจำหน่ายลอตเตอรี่ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมไปถึงเส้นทางการเงินต่าง ๆ ของบริษัท 

“นอท กองสลากพลัส” ยันไม่หนี หลังลือหนักอยู่ริมชายแดน

โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงินที่ถูกจับกุมและขยายผลไปก่อนหน้านี้ เพราะปรากฎหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีของ นายพันธ์ธวัช อย่างน้อย 39 เส้นทาง


ล่าสุดเมื่อช่วงสายวานนี้ (30 มกราคม 2566) นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” ได้ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบอกว่า ตอนนี้ยังอยู่ที่บ้าน อยู่กับแมว ไม่ได้อยู่ชายแดนเหมือนที่มีข่าวออกมาตอนนี้ว่า เตรียมจะหลบหนีออกนอกประเทศ 

พร้อมกันนี้ยังบอกอีกว่า ในเรื่องของการตรวจสอบนั้น ไม่ว่าผลออกมาจะเป็นอย่างไร ยังไงก็ยังอยู่ไม่ได้หนีไปไหน โดยจะขออยู่ต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธ์ของตัวเอง และยืนยันว่า ที่ผ่านมานั้นรู้ตัวดีว่าทำอะไรแล้วก็ยอมรับว่าอะไรที่เกิดขึ้นมาในชีวิตของตัวเองนั้นมันมีเหตุ และที่มาไลฟ์ครั้งนี่ก็เพื่อให้คำยืนยันว่า ยังอยู่ที่บ้าน ไม่ได้หนีไปไหน

“นอท กองสลากพลัส” ยันไม่หนี หลังลือหนักอยู่ริมชายแดน

 

ก่อนหน้านี้ นายพันธ์ธวัช ได้ออกมาชี้แจงเส้นทางเงิน 2 เส้นทาง รวม 53 ล้านบาท แบ่งเป็นยอด 42 ล้านบาท และยอด 11 ล้านบาท หลังนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้ออกมาเปิดหนึ่งในเส้นทางการเงินที่น่าสงสัย โดยระบุว่า มีแคชเชียร์เช็คโยงไปถึงนอท กองสลากพลัส รวม 53 ล้านบาท ซึ่งยืนยันว่า มีการโอนเงินจริง แต่เป็นเงินที่มาจากการขึ้นเงินรางวัล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน

ส่วนในด้านการตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดีเอสไอ ได้รับมอบข้อมูลหลักฐานจากทนายความของนอท กองสลากพลัส เกี่ยวกับเส้นทางการเงิน 39 รายการแล้ว พร้อมทั้งมีการเรียกผู้ที่เป็นพยาน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินทั้งหมดเข้ามาชี้แจงรายละเอียดข้อสงสัยต่าง ๆ

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ยังได้ประชุมกำหนดแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชน ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้ากรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ กองสลากพลัส ในความผิดฐานจำหน่ายสลากเกินกว่าราคาที่กฎหมายกำหนด และความผิดฐานประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดตรงโดยไม่จดทะเบียน ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธพนักงานสอบสวน คาดว่า จะสามารถสรุปสำนวนได้ในช่วงกลางเดือน กุมภาพันธ์ 2566 นี้


กระทรวงดิจิทัล ยื่นคำร้อง เตรียมปิด กองสลากพลัส

ความคืบหน้าในกรณี สำนักสลากกินแบ่งรัฐบาล แจ้งความร้องทุกข์เอาผิด กองสลากพลัส ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ และเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นบริษัทที่ทำการ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา 

ล่าสุด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียกประชุมกำหนดแนวทางประกอบธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชนมาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการมารับทราบการเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา

โดยมีการพบว่า มีการขายสลากเกินราคาจำนวน 70 ฉบับ พร้อมกับมีการดำเนินคดีข้อหาขายสลากเกินราคาจากที่กฎหมายกำหนด และความผิดการประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่จดทะเบียน แม้จะมีคำชี้แจงจากผู้บริหารของกองสลากภัตแต่คาดการณ์ว่าการสรุปสำนวนจะเสร็จสิ้นภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้

 

มีการเปิดเผยถึงการตรวจสอบรายชื่อผู้ซื้อสลาก จากกองสลากภัตในงวดวันที่ 16 มี.ค. และ 1 เม.ย. ปี 2565 ว่ามีการโอนซื้อสลากกว่า 1.6 แสนราย การขายสลากเกินราคา 4,214 ราย  และมีการขายสลากให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 20 ราย

 

จึงได้มีการสั่งการให้เร่งรวบรวมข้อมูลการขายสลากเกินราคา ที่มีผู้ซื้อจำนวนมากถือว่าเป็นการทำผิดซ้ำซาก รวมทั้งมีการขายสลากให้กับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ถือว่าเป็นการมอมเมาเยาวชน

จึงได้มีการส่งข้อมูลให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อทำการยื่นร้องต่อศาล เพื่อให้มีคำสั่งในการปิด แพลตฟอร์ม กองสลากพลัส 

“นอท กองสลากพลัส” ยันไม่หนี หลังลือหนักอยู่ริมชายแดน

ซึ่งมีรายงานว่าขณะนี้ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินการยื่นฟ้องศาลให้มีการคุ้มครองชั่วคราว โดยระงับการเผยแพร่แล้ว 

ในด้านของ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีการพบรายงานพยานหลักฐาน เชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด ในคดีพนันออนไลน์และยาเสพติด หลายล้านบาทซึ่งอยู่ในการดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ปปง. และกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พิจารณาว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนัน 

ส่วนเรื่องภาษี กรมสรรพากร อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ และเรียก นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ผู้บริหารกองสลากพลัส เข้ามาชี้แจงข้อมูลเรื่องรายได้ของการจำหน่ายสลาก

ก่อนหน้านี้ มีความเคลื่อนไหวของ "นายพันธ์ธวัช" ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก "นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์" ชี้แจงเส้นทางเงิน 53 ล้านบาท ซึ่งเป็น 2 เส้นแรก แบ่งเป็นยอด 42 ล้านบาท และยอด 11 ล้านบาท โดยระบุว่า

 

ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 ต้องการเงินทุนจำนวนหนึ่ง หลังจากที่ขายฝากบ้าน คอนโด และรถไปจนหมดแล้ว โดยได้รู้จักนายหน้าเงินกู้หลายคน นายหน้าเงินกู้คนนึงได้พาไปหานายทุนกลุ่มหนึ่ง นายทุนทำท่าว่าจะสนใจลงทุน โดยมีข้อแม้ว่าจะขอดูขั้นตอนต่าง ๆ ในการทำงานทั้งหมด รวมถึงการขึ้นเงินรางวัล

 

ทางฝั่งนายทุนได้ส่งนาย อ. (อรรถกานต์) มาเป็นตัวแทนในการขึ้นเงินรางวัล ในวันที่ 3-6 สิงหาคม 2564 จึงได้ทำสัญญามอบอำนาจ และมอบสลากถูกรางวัลจำนวน 11,481 ใบ ให้นาย อ. ไปขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยให้เลขาพาไป และให้เลขาพานาย อ. ไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับซื้อรางวัลของ สนง.สลาก ให้ถูกต้องตามขั้นตอนด้วย


หลังจากนาย อ. นำสลากขึ้นเงินรางวัลเรียบร้อย นาย อ. ได้เช็คจาก สนง.สลากมา 2 ยอด คือ 1. ยอด 42,381,030 บาท และ 2. ยอด 11,207,690 บาท หลังจากนาย อ. ได้เช็คจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว นาย อ. ได้นำเช็คทั้งสองใบมาที่ธนาคารกรุงไทย สาขา สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล

 

จากนั้น นาย อ. ได้เปลี่ยนเช็คจากชื่อของตัวเอง เป็นเช็คสั่งจ่ายในชื่อนายพันธ์ธวัช 2 ยอด ซึ่งเท่ากันกับที่สำนักงานสลากฯ จ่ายให้นาย อ. คือ ยอด 42 ล้านบาท และ 11 ล้านบาท แต่นาย อ. ไม่สามารถเอาเงินเข้าเช็คให้ตัวเองได้ เพราะบัญชีธนาคารของตนเป็นบัญชี ธนาคารกสิกรไทย เนื่องจากติดวันเสาร์-อาทิตย์ 

 

นาย อ.จึงจำเป็นต้องเอาเช็คเข้าให้ตนเองในวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ช่วงบ่าย สุดท้ายกว่าเช็คจะเคลียร์ริ่งให้ข้ามวัน ทำให้เงินทั้ง 2 ยอดเข้าบัญชีในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 

 

หลังจากที่ทดลองระบบแล้วเราไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากนายทุนมองว่าความเสี่ยงมันสูงเกินไป ดีลนี้จึงจบแค่นี้ จึงขอยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน 

 

สำหรับคำถามที่ว่าทำไมผมถึงไว้ใจให้นาย อ. เอาเงินไปขึ้นคำตอบคือ ต้องการเงินทุนมากเพราะต้องการซื้อลอตเตอรี่มาขาย เลยจำเป็นต้องยอม และเลขาผมอยู่ด้วยตลอดเวลาจนเปลี่ยนเช็คเป็นชื่อตนเอง



หลังจาก นายพันธ์ธวัช ได้โพสต์ข้อความชี้แจงเรื่องดังกล่าวไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก 

logoline