svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ศาลสั่งส่งตัว “โทนี่ เตียว” เจ้าของ MBI กรุ๊ป เป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้ประเทศจีน

18 มกราคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลอาญาอนุญาตส่งตัว “โทนี่ เตียว” นักธุรกิจหมื่นล้าน เจ้าของ "MBI กรุ๊ป" เป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับไปดำเนินคดีแชร์ลูกโซ่ที่ประเทศจีน ด้านทางการมาเลเซียยื่นขอตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนเช่นกัน

18 มกราคม 65 ที่ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งในคดี ขอส่งผู้ร้ายข้ามเเดน ที่พนักงานอัยการยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน "นายเตียว ฮุยฮวด" หรือ "โทนี่ เตียว" เจ้าของอาณาจักร เอ็มบีไอ กรุ๊ป ซึ่งมีบริษัทในเครือประกอบธุรกิจโรงแรม สถานบันเทิง สวนสนุก ตลาด ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และเฟอร์นิเจอร์ โดยเป็นเจ้าของธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนต์ มูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาท 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

ตามคำร้องระบุสรุปว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 65  รัฐบาลจีนโดย สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้มีคำร้องขอให้รัฐบาลไทย ส่งตัว "นาย เตียว ฮุย ฮวด" บุคคลสัญชาติมาเลเซีย เป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ในความผิดฐานจัดตั้งองค์กร ที่ชักจูงและประกอบการขายตรง

โดยแอบอ้างเป็นธุรกิจการให้บริการ โดยให้ผู้เข้าร่วม ชำระเงินค่าบริการหรือซื้อสินค้าเพื่อเข้าเป็นสมาชิก ให้มีการจัดลำดับชั้น ที่มีลักษณะแชร์ลูกโซ่เพื่อขยาย ฐานผู้เข้าร่วมมากขึ้น เพื่อนำมาคิดคำนวณเป็นค่าตอบแทน มีพฤติกรรมชักชวน ข่มขู่ให้ผู้อื่นมาเข้าร่วม หลอกเอาทรัพย์สิน โดยส่งผลกระทบเศรษฐกิจและสังคม ตามประมวลกฎหมายอาญาสาธารณรัฐประชาชนจีน 
"นายเตียว ฮุยฮวด" หรือ "โทนี่ เตียว" เจ้าของอาณาจักร เอ็มบีไอ กรุ๊ป ถูกจับกุมได้ในประเทศไทย

จากการสืบสวนสอบสวน ของทางการจีนได้ความว่า เมื่อประมาณปี 2552 จำเลยกับพวกอีกหลายคน ได้ร่วมกันก่อตั้ง กลุ่มบริษัทบริหารสินทรัพย์ระหว่างประเทศ หรือ บริษัท MBI ซึ่งเป็นบริษัทจด ทะเบียนใน สหพันธรัฐมาเลเซีย โดยมีจำเลยดำรงตำแหน่งประธานบริษัท จากนั้นได้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม ทางการเงินที่เรียกชื่อย่อว่า “MFC” และ “MIT” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่ขยายธุรกิจเครือข่าย ผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ

มีการจัดงานสัมมนาชักชวน ให้บุคคลเข้ามาร่วมลงทุน โดยผู้ที่เข้าร่วมลงทุน จะต้องชำระเงินเป็นค่าสมาชิก ซึ่งจำเลยกับพวกดังกล่าว ได้ร่วมกันหลอกลวงว่า การลงทุนมีกำไรผลตอบแทนสูง ไม่มีขาดทุนเพื่อจูงใจให้บุคคลเข้าร่วมลงทุน ทำให้ยิ่งสามารถขยายธุรกิจระดับล่าง หรือดาวน์ไลน์มากจะยิ่ง ทำกำไรได้มาก

และชักชวนให้นักลงทุน ชักชวนบุคคลอื่นมาสมัครสมาชิก โดยจะต้องจ่ายค่าสมาชิกและลงทุน ซื้อสกุลเงินดิจิทัล โดยผู้ชักชวนจะได้รับคะแนนเงินรางวัล ค่าแนะนำและสิทธิมากมายเป็นการตอบแทน และ หลอกลวงอีกว่า บริษัท MBI ได้ร่วมลงทุนเป็นเงินจำนวน 1.5 พันล้านหยวน ในโครงการด้านการท่องเที่ยว กับรัฐบาลกุ้ยโจวในปี 2559

แต่บริษัท MBI ของจำเลย ไม่ได้ร่วมลงทุนด้านการท่องเที่ยวกับรัฐบาลกุ้ยโจวแต่อย่างใด เงินรายได้ของบริษัท MBI จึงมาจากการหลอกลวง ให้สมาชิกรายใหม่ร่วมลงทุนในลักษะองค์กร รูปทรงพีระมิด หรือ แชร์ลูกโซ่ โดยไม่มีการนำเงินไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนจริง พฤติการณ์ของจำเลยกับ พวกดังกล่าวที่ได้ร่วมกันหลอกลวง ได้เงินมาอย่างมิชอบด้วยกฎหมาย เหตุเกิดเมื่อระหว่างปี 52 - 63 ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และ สหพันธรัฐมาเลเซีย เกี่ยวพันกัน 
"นายเตียว ฮุยฮวด" หรือ "โทนี่ เตียว" เจ้าของอาณาจักร เอ็มบีไอ กรุ๊ป ถูกจับกุมได้ในประเทศไทย

ทั้งนี้ ศาลอาญาพิจารณาแล้วเห็นว่า คำร้องขอของทางการจีนให้ส่ง "นายเตียว ฮุย ฮวด" จำเลย บุคคล สัญชาติมาเลเซีย เป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับไปดำเนินคดี ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นไปตามสนธิสัญญา ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับสาธารณรัฐประชาชนจีน

จึงมีคำสั่งขังผู้ถูกร้องขอไว้ เพื่อส่งตัวข้ามแดนไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป แต่มิให้ส่งตัวผู้ถูกร้องขอข้ามแดน ก่อนครบระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งขัง เพื่อส่งข้ามแดน และถ้ามิได้ส่งผู้ถูกร้องขอข้ามแดนภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งถึงที่สุดหรือภายใน กำหนดเวลาที่ศาลได้อนุญาตให้ขยายออกไป ให้ปล่อยตัวผู้ถูกร้องขอไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 66 ที่ผ่านมาทาง สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย ได้มีหนังสือถึง อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ ในฐานะผู้ประสานงานกลาง เกี่ยวกับคำร้องขอจับกุมชั่วคราวของรัฐบาล มาเลเซียต่อรัฐบาลไทยถึง นายเตียว ฉุยฮวด หรือ โทนี่ เตียว ผู้หลบหนีดังกล่าว

เป็นที่ต้องการตัว สำหรับการดำเนินคดี ในความผิดฐานฉ้อโกงและส่งมอบทรัพย์สินโดยไม่สุจริต ซึ่งเป็นความผิดภายใต้บทบัญญัติมาตรา 420 ของประมวลกฎหมายอาญามาเลเซีย โดยสถานเอกอัครราชทูตเน้นย้ำว่า คำขอจับกุมชั่วคราวเป็นไปตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้าย ข้ามแดน พ.ศ. 2535 (พระราชบัญญัติ 479] และสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างประเทศไทย และสหราชอาณาจักร พ.ศ. 2454 ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 4 มี.ค.54 และบังคับใช้กับ มาลายา (และต่อมาภายหลังคือ ประเทศมาเลเซีย) และราชอาณาจักรไทยโดยการแลกเปลี่ยน ทางการทูตลงวันที่ 27 ต.ค. 2502
"นายเตียว ฮุยฮวด" หรือ "โทนี่ เตียว" เจ้าของอาณาจักร เอ็มบีไอ กรุ๊ป ถูกจับกุมได้ในประเทศไทย  

ย้อนรอย “โทนี่ เตียว” แห่งอาณาจักรเอ็มบีไอ กรุ๊ป  

สำหรับ นายเตียว วุย ฮวด หรือ “โทนี่ เตียว” เริ่มปรากฎตัวในหน้าสื่อไทยครั้งแรก ช่วงเดือน มี.ค. 59 หลังจาก เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4, ดีเอสไอ (กรมสอบสวนคดีพิเศษ), พาณิชย์จังหวัด และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เข้าตรวจสอบ บริษัท เอ็มบีไอ กรุ๊ป เนื่องจากพบว่า เป็นบริษัทข้ามชาติ ที่เข้ามากว้านซื้อโรงแรมดังในพื้นที่ อ.สะเดา มูลค่าหลายพันล้านบาท แล้วนำไปรีโนเวท สร้างเป็นอาณาจักรสถานบันเทิง หรือ เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์

และยังพบว่า การถือหุ้นของคนไทย 2 คน ในบริษัทที่เปิดลงทุนทำธุรกิจนี้ เป็นการถือหุ้นที่ไม่ถูกต้อง เข้าข่ายเป็น “นอมินี” ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ รวมถึงข้อมูลทางสรรพากรยังพบว่า บริษัทเอ็มบีไอ กรุ๊ป ได้ซื้อและรับโอนหุ้นโรงแรม มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท จากเจ้าของรายเดิม โดยไม่แจ้งสรรพากร และไม่พบการเสียภาษี

และในปี 2560 นายเตียว วุย ฮวด เคยถูกกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกหมายจับ โดยในครั้งนั้น พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) ยืนยันว่า ทางการไทยมีหลักฐานชัดเจนว่า เครือข่ายของ นายเตียว วุย ฮวด มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นกลุ่มทุนฟอกเงิน ให้เครือข่ายยาเสพติด ทั้งเครือข่าย นายอุสมา สะแลแมง (นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ของภาคใต้ตอนล่าง มีฐานะที่มั่นอยู่ที่ จ.นราธิวาส และเคยถูก คสช.เรียกเข้ารายงานตัว แต่หลบหนี), เครือข่าย นายสีสุก ดาวเฮือง, นายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดชาวลาว ที่จนมุมในประเทศไทย รวมถึงเครือข่ายยาเสพติดในไต้หวัน มาเลเซีย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาด้วย

นอกจากนั้น นายเตียว วุย ฮวด ยังยังถูกกองบัญชาการตำรวจประเทศมาเลเซีย อายัดทรัพย์สินในประเทศมาเลเซียทั้งหมด เพื่อทำการตรวจสอบ ในข้อหาของการทำธุรกิจ ”แชร์ลูกโซ่” มีการขายหุ้นธุรกิจในเครือของ เอ็มบีไอ กรุ๊ป ให้กับประชาชนชาวมาเลเซีย และประเทศต่าง ๆ ที่เข้าข่ายความผิดในกฎหมาย "แชร์ลูกโซ่" 

ทำให้ นาย เตียว วุย ฮวด ไม่กล้าเดินทางกลับประเทศมาเลเซีย จึงย้ายฐานมาในประเทศไทย โดยเฉพาะที่ ต.สำนักขาม หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ด่านนอก สะเดา” จนถูกออกหมายจับในไทยโดย บช.ปส. แล้วข่าวก็เงียบไป โดยมีรายงานว่า “โทนี่ เตียว” หลุดคดี

จากการแกะรอยความเคลื่อนไหวของ นายเตียว วุย ฮวด พบว่า ปลายปี 62 เจ้าตัวพร้อมลูกน้องคนสนิท เข้าร่วมอุปสมบทที่ วัดนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งในการเข้าพิธีอุปสมบทของ นายเตียว วุย ฮวด พบว่ามีนักการเมืองคนดังในพื้นที่ จ.สงขลา ซึ่งปัจจุบันนี้ทำงานให้พรรคสีฟ้า และพรรคแกนนำรัฐบาลไปร่วมงานด้วย

นายเตียว วุย ฮวด ยังเป็นที่รู้จักในแวดวงข้าราชการ นายตำรวจ และนักธุรกิจในพื้นที่ จ.สงขลา ทั้งยังเป็นคนทุ่มทุน สร้างองค์พระพิฆเนศใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ในพื้นที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สัการะบูชา
ศาลสั่งส่งตัว “โทนี่ เตียว” เจ้าของ MBI กรุ๊ป เป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้ประเทศจีน

ขอบคุณข้อมูล สำนักข่าวอิศรา

 

logoline