svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ชูวิทย์" ขู่ ผบ.ตร. ไม่รีบเปลี่ยนตัว น.1 ขาเก้าอี้สั่นแน่!

"ชูวิทย์" แฉสำนวนคดี 'จินหลิง" เป็นการสมคบคิด มีช่องว่างให้จำเลยสู้คดี เหตุปล่อยเวลายักย้ายหลักฐาน ซ้ำวันเข้าตรวจไม่ลงบันทึกเข้าระบบ เตือน "บิ๊กเด่น" หากไม่เปลี่ยนตัว ผบช.น. เก้าอี้ ผบ.ตร.จะถูกเขย่าสั่นไหว เชื่อ "ตู้ห่าว" หลุดคดีเหมือน "หลงจู๊ สมชาย"

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งสืบสวนสอบสวนคดี "ทุนจีนสีเทา" ภายหลังจับกุมนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ "ตู้ห่าว" จนถึงขณะนี้มีการยึดทรัพย์ เครือข่ายตู้ห่าว รวมมูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท แต่สังคมยังเคลือบแคลงสงสัยการทำงานของตำรวจ ว่าการไม่ตั้งข้อหาฟอกเงิน เป็นการแจ้งข้อหาเบาไปหรือไม่ และเกรงว่าผู้นายตู้ห่าว จะหลุดคดี

25 ธันวาคม 2565 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เปิดเผยประเด็นน่าสงสัยว่า ตำรวจตั้งใจทำสำนวนคดี "ตู้ห่าว" ให้อ่อน และขอให้พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปลี่ยนตัวผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบ.น.) โดยด่วน มิฉะนั้นจะถูกเขย่าขาเก้าอี้ เนื่องจากสำนวนในคดีนี้มันเน่า แม้จะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดดูแลแล้ว แต่เมื่อกระบวนการเละเทะตั้งแต่วันแรก ก็อาจทำให้คดีนี้มีจุดจบแบบคดี "หลงจู๊ สมชาย" ที่ศาลยกฟ้อง

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

นายชูวิทย์ ระบุประเด็นที่น่าสงสัยว่า คดีนี้ตำรวจแบ่งการเข้าตรวจค้นออกเป็น 2 วัน คือวันที่ 26 ตุลาคม เข้าตรวจผับจินหลิง และอาคารลีลา พบยาเสพติด 4-5 กิโลกรัม แต่วันนั้นกลับไม่มีการเข้าค้นร้านวิบวับคาร์วอช ทั้งที่อยู่ภายในรั้วเดียวกัน แต่กลับมาค้นอีกครั้งวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง เท่านั้น และพบยาเสพติดเพียง 950 กรัม
"ชูวิทย์" ขู่ ผบ.ตร. ไม่รีบเปลี่ยนตัว น.1 ขาเก้าอี้สั่นแน่!
หากใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง เหตุใดจึงไม่ค้นไปพร้อมกับผับจินหลิง และระหว่าง 5 วัน ที่เว้นไปนั้น เป็นการประวิงเวลาให้มีการเคลื่อนย้ายถ่ายเทพยานหลักฐานหรือไม่ เพราะเชื่อว่า วิบวับคาร์วอช เป็นโกดังเก็บยาเสพติด ส่วนผับจินหลิง เป็นเพียงร้านค้าขายปลีกเท่านั้น

การที่ตำรวจแยกการเข้าตรวจค้น 2 วันนี้ออก เป็นคนละสำนวน เป็นการเจตนาแยกสำนวนเพื่อลดจำนวนยาเสพติดที่พบหรือไม่ แม้ทางตำรวจจะบอกว่ามีการปิดกั้นพื้นที่ ไม่สามารถโยกย้ายทรัพย์สินได้ แต่นายชูวิทย์บอกว่าความจริงคือมีเพียงตำรวจยศ สิบตำรวจโท 2 นายเท่านั้น ที่เฝ้าสถานที่ และระหว่างนั้นก็ยังมีการนำรถที่ควรจะเป็นของกลางในคดีออกนอกพื้นที่ได้อยู่ดี

  "ชูวิทย์" ขู่ ผบ.ตร. ไม่รีบเปลี่ยนตัว น.1 ขาเก้าอี้สั่นแน่!

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบในระบบ CRIME ซึ่งเป็น Big Data ของตำรวจ ก็ไม่พบบันทึกการตรวจค้นผับจินหลิง มีเพียงรายงานการตรวจค้นวิบวับคาร์วอช ซึ่งยอดจับกุมน้อยกว่า หนำซ้ำยังมีการระบุวันที่เข้าค้น เป็นวันที่ 2 พฤศจิกายน ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง และผิดปกติ เข้าข่ายความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบมาตรา 157

อีกทั้ง ในรายงานยังระบุว่าไม่ปรากฎผู้กระทำความผิด ทั้งที่พบภาพในนายเหมา หยาง ในภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งนายชูวิทย์ บอกว่า มีความพยายามจ่ายเงินเพื่อไม่ให้นายเหมา หยาง ปรากฎชื่อในรายงานการจับกุม
"ชูวิทย์" ขู่ ผบ.ตร. ไม่รีบเปลี่ยนตัว น.1 ขาเก้าอี้สั่นแน่!
นายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า จนถึงขณะนี้นายตู้ห่าว ก็ยังไม่ถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน โดนเพียงแค่คดียาเสพติด ซึ่งพยานหลักฐานในคดียาเสพติดก็ไม่แน่นหนา พยานบุคคลซึ่งเป็นคนจีน 2 คน แม้จะให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพนักงานสอบสวน แต่ในชั้นศาลเชื่อว่าน่าจะกลับคำให้การ ไม่มีทางซัดทอดชาวจีนด้วยกัน

แน่นอน ส่วนพยานที่เหลือ บางส่วนที่ถูกปล่อยตัวก็ได้บินออกนอกประเทศไปอยู่กัมพูชาหมดแล้ว เหลือเพียงพยานหลักฐานว่านายตู้ห่าวออกเช็คจ่ายค่าน้ำค่าไฟ และเป็นผู้เช่าสถานที่ ซึ่งก็ไม่ได้ยางชี้ว่านายตู้ห่าวเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งถ้านายตู้ห่าวหลุดคดียาเสพติด ก็เท่ากับหลุดคดีทั้งหมด

ส่วนกรณีของนางพัชรินทร์ หนึ่งในผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินที่ถูกจับกุมไปแล้วนั้น ก่อนหน้านี้ดีเอสไอก็ออกมาเปิดเผยว่า นางพัชรินทร์ มีการรับโอนเงินกลับไปมากับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เสมือนเป็นตัวแทนของนายตู้ห่าว และปลายทางของเงินไปหยุดที่บริษัทแห่งหนึ่ง เหตุใดตำรวจจึงไม่ทราบ ทั้งที่มีการเรียกสอบปากคำนางพัชรินทร์ หลายต่อหลายครั้ง

เพราะฉะนั้นจึงตั้งข้อสงสัยว่า ดีเอสไอที่มาสืบสวนคดีทีหลังถึงได้รู้ แต่ทำไมตำรวจที่สืบสวนมานานกลับเพิ่งมาออกหมายจับหลังผ่านมา 2 เดือน