แม่ร่ำไห้ เล่านาทีชีวิต สูญเสียลูกในกองเพลิง "ไม่มีหนู แม่จะอยู่อย่างไร"
แม่ร่ำไห้ เล่านาทีชีวิต ลูกสาวถูกไฟคลอกเสียชีวิต ระบุ ได้ยินเสียงเรียกครั้งสุดท้าย “ช่วยด้วย หนูออกไม่ได้”
11 พฤศจิกายน 2565 จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักให้เช่า ภายในซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 6 (ซอยพิชัย1) แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาธร กรุงเทพมหานคร ภายหลังเพลิงสงบพบผู้เสียชีวิตเป็นเด็กหญิงชาวไทย อายุ 13 ปี 1 ราย เสียชีวิตอยู่บริเวณห้องชั้นล่าง เบื้องต้นนำศพส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตร.เพื่อผ่าพิสูจน์อย่างละเอียด
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ พบสถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านพัก 2 ชั้น กึ่งปูนกึ่งไม้ ถูกเพลิงไหม้เกือบทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้มีการกั้นไลน์พื้นที่ไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน
จากการสอบถามนายไพรบูลย์ สาไพรวรรณ ตาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผู้เสียชีวิต คือ ด.ญ.นาตาชา นันทรัตน์ อายุ 12 ปี หรือน้องญาญ่า กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.1 พักอยู่ห้องเช่าด้วยกัน 5 คน คือ ตน ภรรยา ลูกสาว ซึ่ง ผู้ตายเป็นหลานคนโต และหลานชายคนเล็ก อายุ 5 ขวบ
ช่วงเกิดเหตุ ภรรยา ตะโกนหวีดร้อง ตอนนั้นตกใจวิ่งมาดูพบว่า ไฟไหม้ จึงพากันตะโกนเรียกลูก เรียกหลาน ให้วิ่งออกนอกบ้าน ซึ่งลูกสาว ได้วิ่งไปอุ้มหลานชายคนเล็กออกไปจากบ้าน ส่วน ภรรยา ก็วิ่งไปตะโกนเรียกหลานสาว ที่นอนอยู่ชั้นล่างให้วิ่งออกมา และภรรยา ก็วิ่งเข้าไปที่ห้องชั้นล่าง เพื่อหยิบข้าวของที่พอจะหยิบจับออกมาได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เหตุการณ์มันเร็ว และ ชุลมุนมาก จึงคิดว่า หลานสาว ออกไปแล้ว จากนั้นภรรยา ก็วิ่งหนีตายออกมา ส่วนตนก็วิ่งตามออกมาเป็นคนสุดท้าย มารู้ตัวอีกที คือ ตอนที่ครอบครัวมารวมกันแล้วไม่เห็นหลานสาว ผม และภรรยา จึงเข้าไปที่จุดต้นเพลิง แต่ตอนนั้นเพลิงลุกไหม้รุนแรงไม่สามารถทำอะไรได้
"เสียใจที่ช่วยหลานออกมาไม่ได้ เพราะทุกคนเข้าใจว่า หลานออกมาแล้ว ส่วนตัวคิดว่า น่าจะหลับลึกหรือเปล่าถึงไม่ได้ยินที่ยายเรียก มารู้ตัวอีกทีก็สายไปแล้ว"
ด้าน น.ส.กุสุมา สาไพรวรรณ แม่ ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตา ตน ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว ลูกที่รักมาเสียชีวิตไป ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะทำอะไร อยากตายตามลูกไปเสียด้วยซ้ำ ลูกกำลังโตเป็นสาวสวย เป็นคนพูดน้อย แต่เป็นเด็กดี ตอนเกิดเหตุ พวกตน หนีออกมาแล้ว และมารู้ทีหลังว่า
ลูกยังไม่ออกมาตนได้ย้อนกลับ เพื่อที่จะช่วยลูกสาว ได้ยินเสียงลูกตะโกนบอกว่า ช่วยด้วย หนูออกไม่ได้ ซึ่ง ยาย พยายามวิ่งออกไปอีกทางเพื่อถีบผนังที่ติดกับห้องที่ลูกสาวอยู่ แต่ไม่เป็นผล จากนั้นเพลิงก็ลุกไหม้รุนแรง และไม่ได้ยินเสียงลูกอีกเลย
จากการพูดคุยกับป้านุช (นามสมมุติ) ชาวบ้านในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนพักอยู่ห้องพักที่ติดกับจุดที่เกิดไฟไหม้ ตอนช่วงเกิดเหตุประมาณ 01.00น. ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย เสียงดัง จึงวิ่งออกมาดูด้านหลังบ้าน ซึ่งอยู่ติดกับจุดที่เพลิงไหม้ พบไฟกำลังลุกโหม บริเวณทางขึ้นบ้านเช่า ขณะที่เพื่อนบ้านกำลังพยายามใช้ถังดับเพลิงดับไฟ แต่ไฟกับยิ่งลุกโหมอย่างหนัก ประกอบกับลมแรงทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
ป้านุช บอกว่า คนที่พักอยู่บนบ้านพักพากันวิ่งอกมา บางคนก็กระโดดหนีตายลงมาชุลมุน ส่วนน้องที่เสียชีวิต ติดอยู่ข้างในออกมาไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะว่า ไฟไหม้ตรงช่วงที่เป็นทางเข้าออก จนถูกไฟคลอกเสียชีวิต ซึ่งสาเหตุคาดว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากจุดที่เป็นต้นเพลิงมีสายไฟเกาะเกี่ยวพันกันเต็มไปหมด และในช่วงเวลาเกิดเหตุก็ไม่มีใครทำอะไรอยู่ในบริเวณดังกล่าวด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตสาธร, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย, สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ เพื่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือในเบื้องต้น ทั้งการตรวจสุขภาพกาย สุขภาพจิต ข้าวสารอาหารแห้ง และเครื่องนุ่งห่ม พร้อมทั้งเปิดรับลงทะเบียนผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งตอนนี้มีผู้มาลงทะเบียนแล้ว 58 ราย หรือ 28 หลังคาเรือน ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบจะต้องไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ยานาวาก่อน
หลังจากนั้นนำเอกสารที่ลงบันทึกประจำวัน มายื่นกับศูนย์ที่ตั้งขึ้น เพื่อรับการช่วยเหลือ ดดยจะออกเอกสารหลักฐานรับรอง หลังจากนั้นสามารถนำเอกสารไปดำเนินการรับการเยียวยา จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เงินชดเชย ที่พักรวม 2 เดือน และค่าชดเชยครอบครัวผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้สำหรับใครที่ยังหาที่พักไม่ได้ สำนักการโยธา เขตสาทร ได้สร้างที่พักชั่วคราว และห้องน้ำไว้รองรับไม่เกิน 30 คน เพราะ ผู้ที่ได้รับผลกระทบบางส่วน ประสงค์จะไปเช่าที่พักเอง ทั้งนี้หากใครที่ยังไม่สามารถหาที่พักได้ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตฯ เพื่อช่วยหาที่พักต่อไป
สำหรับน้องญาญ่า ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว แม่ ผู้เสียชีวิตได้โพสต์ไว้อาลัย ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ด้วยความเสียใจต่อลูกสาวว่า “หนูอยู่ตรงไหนลูก เห็นแม่ไหม แต่งตัวไปโรงเรียนนะลูกน๊า โอ้ยย ไม่มีหนู แล้วแม่จะอยู่อย่างไร เวรกรรมอะไรลูก ทำไมแม่ช่วยหนูออกมาไม่ได้”
นอกจากนี้ยังมียังโพสต์ ขอความช่วยเหลือให้กับลูกชายคนเล็ก หากใครมีรองเท้า หรือเสื้อผ้าเด็กผู้ชายวัย 5 ขวบ สามารถติดต่อคุณแม่ได้ ส่วนเพื่อนๆที่อยากช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย ก็ได้โพสต์ขอรับบริจาค ด้วยเช่นเดียวกัน
เบื้องต้นร่างของน้องญาญ่า อยู่ระหว่างการผ่าพิสูจน์อย่างละเอียด ที่ นิติเวช รพ.ตำรวจ โดยทางญาติได้มีการเตรียมรับศพ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดดอน แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม.
