วันที่ 31 ตุลาคม 2565 พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รองผู้บังคับการปราบปราม(รอง ผบก.ป.) พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. พร้อมกำลัง บก.ปทส. และ บก.ทล. รวม 154 นาย ออกการกวาดล้างจับกุมกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และ เครือข่ายยาเสพติด โดยเปิดปฏิบัติการปราบปรามอิทธิพลตาปี กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 19 จุด ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช
โดยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 9 คน พร้อมของกลางอาวุธปืนขนาดต่างๆ 24 กระบอก เครื่องกระสุน 341 นัด เสื้อเกราะกันกระสุน 2 ตัว และ สิ่งผิดกฎหมายประเภทอื่นๆอีก 22 รายการ
จุดแรก บ้านพักของนายอุดม หนูรักษา อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่กำนันตำบลชัยบุรี อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี เป็นสถานที่ตรวจค้นเป้าหมายสำคัญ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนพฤติกรรมเข้าข่ายผู้มีอิทธิพล ข่มขู่ชาวบ้านในพื้นที่ หลังมีปัญหาขัดแย้งกับกลุ่มชาวบ้านเกี่ยวกับเรื่องที่ดินทำกิน หรือ การเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่สวนปาล์มต่างๆ
ผลตรวจค้นพบ แม็กกาซีน หรือ ซองบรรจุกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 3 ซอง และ เครื่องกระสุนขนาดต่างๆ อีกจำนวนมาก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา มีเครื่องกระสุนอาวุธปืนสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่ง สภ.ชัยบุรี ดำเนินการตามกฎหมาย
อีก 1 จุด ยังเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญ ขนำไม้หลังหนึ่ง ภายในป่าเขาลานสกา ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช หลังได้รับเบาะแสว่า กลุ่มผู้มีอิทธิพลเข้ามายึดครอง เรียกเก็บค่าคุ้มครอง รวมถึงเป็นที่ซ่องสุมและที่หลบซ่อนตัวของผู้กระทำผิด
หลังเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าไปตรวจค้น พบอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนขนาดต่างๆจำนวนมาก ซุกซ่อนอยู่ ทั้งนี้จากการสอบถามชาวบ้านที่พักอาศัยในละแวกดังกล่าว ทราบว่าขนำหลังนี้เป็นของนายประยงค์ จุลรัตน์ อายุ 60 ปี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกำโลน จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเชิญตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาที่ สภ.ลานสกา ในภายหลังต่อไป