พล.ต.ต.ภาณพ วรธนัชชากุล ผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในซอยหทัยราษฎร์ 3 แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ หลังมีเบาะแสว่ามีการลักลอบผลิตเหล้าปลอม และจำหน่ายให้สถานบันเทิง ย่านมีนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงนั้น
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงสามารถจับกุมนายชาน อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย พร้อมของกลาง แสตมป์ Duty free มาเลเซีย จำนวน 4,000 ดวง สุราต่างประเทศ Walton จำนวน 8 ลัง เป็นจำนวน 96 ขวด สุราต่างประเทศ KingRobert จำนวน 20 ลัง เป็นจำนวน 240 ขวด สติกเกอร์สุราต่างประเทศ Double black Lebel จำนวน 190 แผ่น สติกเกอร์ไวน์ Penfolds bin 407 จำนวน 310 แผ่น
สติกเกอร์สุราต่างประเทศ Black Lebel จำนวน 100 แผ่นสติกเกอร์สุราต่างประเทศ Gold Lebel จำนวน 60 แผ่น ลังกระดาษเปล่า สุรายี่ห้อ Black Label จำนวน 20 แผ่น ลังใส่ขวดสุราเปล่า จำนวน 80 ลัง เป็นจำนวน 960 ขวด ลังใส่ขวดไวน์เปล่า Bin 2 จำนวน 30 ลัง เป็นจำนวน 360 ขวด และฝาไวน์ สุราต่างประเทศ จุกก็อกไม้ จำนวนมาก
สำหรับคดีนี้ ตำรวจ สายตรวจ 1 กองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้สืบทราบว่า มีชายชาวมาเลเซีย ลักลอบนำเข้าสุราต่างประเทศ ที่มิได้เสียภาษี และผลิตสุราต่างประเทศปลอม และได้ปลอมแปลงแสตมป์สุราต่างประเทศ พร้อมสติ๊กเกอร์ฉลากไวน์ ยี่ห้อต่างๆ จำหน่ายให้แก่สถานบริการต่างๆย่านมีนบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ในราคาถูกกว่าตลาด
สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การยอมรับว่าได้รับซื้อ ลังสุราต่างประเทศจากร้านรีไซเคิลขยะ และนำมากรอกน้ำสุราต่างประเทศ และติดอากรแสตมป์ใหม่ บรรจุสุราต่างประเทศกลับเข้าไปในลัง โดยจะทำตามยอดสั่งซื้อของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งใช้สุราต่างประเทศในราคาลังละ 3,200 บาท จากนั้นนำไปจำหน่ายให้แก่ลูกค้าลังละ 7,500 บาท มีรายได้เดือนละ 150,000 บาท ถึง 200,000 บาท ทำมาแล้วเป็นเวลา 1 ปี
นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบตัวผู้ต้องหารายนี้ เคยถูกตำรวจจับกุมแล้วเมื่อปี 2562 พร้อมของกลางหลายรายการ มูลค่ากว่า 600,000 บาท หลังจากนี้ตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการอีกครั้ง
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้า (สุรา) ที่ไม่ได้เสียภาษี ,มีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้า (สุรา) ที่ไม่ได้เสียภาษี ลักลอบ ผลิต ซุกซ่อน มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมหรือเลียน เครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ”ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป