จากกรณี จ.ส.ต.ชุติพนธ์ นาคแก้ว หรือจ่าเบิร์ด ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านหนองเอื้อง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ปฎิบัติหน้าที่ช่วยราชการชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (S.W.A.T) ภ.จว.ตรัง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงใส่ นายจิตกร คงจันทร์ หรือขาว อายุ 32 ปี เป็นคนสนิทนักการเมืองท้องถิ่น เสียชีวิต กระสุนยังไปถูกนายเอกพจน์ เพ็ชรรัตน์ หรือต้อม อายุ 34 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต บาดเจ็บอีก 1 ราย และยังไปถูกนักเที่ยวถูกลูกหลงเจ็บอีก 1 ราย หลังเกิดเขม่นไม่พอใจกัน เหตุเกิดภายในสถานบันเทิง ‘คันทรี่โฮม’ ตามที่ได้เสนอข่าวมาแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นองเลือด “ตำรวจหน่วยสวาท” เมาหนัก รัวยิงสนั่นกลางผับดัง นักเที่ยวดับ 1 เจ็บ 2
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ปิดเมืองล่า “จ่าเบิร์ด” ตร.ปืนโหด รัวยิงสนั่นกลางผับดัง หนีพร้อมอาวุธ
ล่าสุด (25 ต.ค.65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ติดตามตัว “จ่าเบิร์ด” ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรบ้านหนองเอื้อง จังหวัดตรัง ปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการ ชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง มาดำเนินคดี
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นพบว่า มาจากเรื่องส่วนตัว ประกอบกับความมึนเมา ที่ผู้ก่อเหตุได้เข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิง และมีเรื่องกระทบกระทั่งกับกลุ่มนักท่องเที่ยวจนก่อเหตุขึ้น
“สั่งการให้ตรวจสอบว่า เหตุใดตำรวจคนดังกล่าว จึงนำปืนของราชการไปใช้ในการก่อเหตุ เนื่องจาก ส่วนงานของผู้ก่อเหตุไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธปืน รวมถึงในช่วงเวลาเกิดเหตุเป็นช่วงเวลานอกราชการ หากพบว่า มีความบกพร่องของผู้บังคับบัญชาร่วมด้วย ก็จะต้องลงโทษทางวินัยตามสายบังคับบัญชา”
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ยอมรับว่า เหตุความวุ่นวายที่มีตำรวจเป็นผู้ก่อเหตุ ทั้งที่จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดตรัง ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะกำชับทุกหน่วยในการป้องกันเหตุอีกครั้ง พร้อมจะนำมาเป็นบทเรียน เพื่อไม่ให้มีข้าราชการตำรวจก่อเหตุขึ้นอีก โดยขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะทำงานอย่างตรงไปตรงมา
ด้าน พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้แบ่งชุดกระจายกำลังออกติดตามตัวอย่างเร่งด่วนในทันที เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน ส่วนฝ่ายของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทางตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้น ตอนนี้ได้ให้ฝ่ายสภ.เมืองตรัง เร่งตรวจสอบตามหลักฐานที่เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ขอให้ทางผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บไม่ต้องกังวล
ทางตำรวจจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ ไม่ต้องห่วงกังวลว่าผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจแล้วทางตำรวจจะมีความลำเอียง ขอให้มั่นใจ ขอยืนยันว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมายและยุติธรรม ส่วนของคนก่อเหตุขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับมา แต่ทางตำรวจก็ได้จัดแบ่งกำลังชุดติดตามไล่ล่า โดยชุดหนึ่งได้เดินทางไปที่บ้านเกิดที่ อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช และเชิญตัวแม่ และภรรยาของผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ รวมทั้งได้สั่งการให้สภ.ในสังกัดทุกแห่งในจ.ตรังร่วมติดตาม และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดตรัง ร่วมกันติดตามไปทุกจุดที่คาดว่าผู้ก่อเหตุจะหลบหนีไปซ่อนตัว
ส่วนเพื่อนของผู้ก่อเหตุซึ่งอยู่ในชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง(S.W.A.T) ตำรวจภูธรจ.ตรัง เช่นเดียวกัน และได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงด้วยกันและอยู่ในเหตุการณ์ขณะผู้ก่อเหตุลงมือด้วยนั้น ไม่ได้หลบหนีไปกับผู้ก่อเหตุ โดยหลังเกิดเหตุก็ออกมาจากจุดเกิดเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุหลบหนีไป ส่วนเพื่อนนั้นเดินทางมาพบผู้บังคับบัญชาและรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และร่วมติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุร่วมกับตำรวจชุดอื่นๆ ด้วยตลอดเวลา ไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยยืนยันที่ผ่านมาได้กวดขันและตรวจสอบเรื่องอาวุธปืนตามนโยบายผู้บังคับบัญชาอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยในเรื่องนี้จะเร่งติดตามผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็วที่สุด