นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 200 บาทต่อคน เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยจะได้รับเงินในเดือนมกราคม 2566 คาดใช้งบประมาณจำนวน 2.6 พันล้านบาท
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่ถึง 3 หมื่นบาทต่อปี จะได้รับเงินเพิ่มในบัตรสวัสดิการส่วนค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากปกติ 300 บาทต่อเดือน เป็น 500 บาทต่อเดือน
ส่วนผู้ที่มีรายได้เกิน 3 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท จะได้รับเงินเพิ่มในบัตรสวัสดิการจาก 200 บาทต่อเดือน เป็น 400 บาทต่อเดือน
สำหรับผู้ถือบัตรที่ได้รับสิทธิจะมีจำนวนกว่า 13.2 ล้านคน โดยใช้งบจากกองทุนสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 5 หมื่นล้านบาท
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แม้ปัจจุบันสถานการณ์ความรุนแรงของโรคโควิด-19 ในหลายประเทศได้คลี่คลาย แต่สถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความผันผวน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ในระดับสูง
รวมทั้งราคาพลังงานที่ยังคงมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคสูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐลดลง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางด้านรายได้ ทรัพย์สินและหนี้สิน ถึงแม้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายที่เพิ่มสูง ซึ่งมาตรการช่วยเหลือพิเศษนี้เป็นของขวัญปีใหม่ 2566 จากรัฐบาล
ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้า ราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชน์กำหนด