4 ธันวาคม 2565 ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าว ขอชี้แจ้งการบิดเบือนข่าวกรณีนายตู้ห่าว
โดยนายนพดล กล่าวว่า ตามที่มีการตั้งข้อกล่าวหาต่อ “ตู้ห่าว” และพรรคพวกที่เกี่ยวข้องกับกระทำผิดกฎหมายในประเทศไทย อีกทั้งให้ข้อมูลว่ามีกลุ่มทุนต่างชาติกว้านซื้อบ้านในโครงการ SC ASSET ซึ่งมีความพยายามโยงเรื่องนี้มาบิดเบือนใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยและหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย บิดเบือนให้เสียหายนั้นพรรคขอใช้สิทธิชี้แจงดังต่อไปนี้
1.กรณีดังกล่าวข้างต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กำลังสืบสวนสอบสวนอยู่ในขณะนี้ พรรคเพื่อไทยเห็นว่าเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่มีอยู่ตามกฎหมายได้อยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทย การสืบสวนสอบสวนเพื่อทำความจริงให้ปรากฏพรรคเพื่อไทยไม่ได้เข้าไปขัดขวางหรือแทรกแซงกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่
2.ขอย้ำว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีความเกี่ยวข้องกับ “ตู้ห่าว” และการประกอบธุรกิจของกลุ่มทุนจีนไม่ว่าในทางใดทั้งสิ้น “ตู้ห่าว” ไม่เคยบริจาคเงินให้พรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยรับบริจาคจากนายตู้ห่าว
ดังนั้นข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น กลับการประกอบธุรกิจของเขา ก็เกิดขึ้นในหลายปีที่ผ่านมาซึ่งพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านไม่ได้เป็นรัฐบาล เป็นเวลาเกือบ 8 ปีแล้ว ดังนั้นหากจะมีการกระทำที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย ประกอบธุรกิจสีเทาก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าของรัฐที่จะเข้าไปสืบสวนสอบสวน และเป็นเรื่องของรัฐบาลที่พึงจะต้องใช้อำนาจของตัวเองไปดูว่าธุรกิจทำนองนี้การประกอบธุรกิจทำนองนี้ในประเทศไทยมีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น ขอเรียกร้องให้คนพยายามที่จะพูดพาดพิงพรรคเพื่อไทยให้ยุติอย่าเบี่ยงเบนประเด็น
3.กรณีที่พยายามเชื่อมโยงกับหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่าการกว้านซื้อบ้านในโครงการของบริษัทเอสซี แอสเสท และพาดพิง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ซึ่ง ไม่ได้รู้จักกับนายตู้ห่าว น.ส.แพทองธาร เป็นเพียงผู้ถือหุ้นในบริษัท ไม่ได้เป็นกรรมการ ซึ่งการขายบ้านให้กับใครนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับ น.ส.แพรทองธาร
ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าทีาผ่านมา SC ASSET ก็ได้มีการออกแถลงการณ์ในเรื่องดังกล่าวนี้แล้ว ว่าบริษัทประกอบธุรกิจด้วยความโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล โดยยึดหลักไม่กระทำผิดกฎหมาย บ้านทุกหลังขายให้คนไทยและนิติบุคคลไทยเท่านั้น และในการชำระค่าบ้านผู้ซื้อต้องชำระเงินผ่านธนาคาร ไม่ได้รับเป็นเงินสด ดังนั้น การซื้อทรัพย์สิน เช่น บ้าน รถยนต์ ของกลุ่มทุนจีนดังกล่าวกระจายไปทั่วไม่ใช่ซื้อเฉพาะของโครงการ SC ASSET
4.เวลานี้ประชาชนคาดหวังกับนักการเมืองและพรรคการเมือง ว่าเราควรนำเสนอนโยบายและทางออกให้กับประเทศ จึงเชิญชวนทุกพรรคการเมืองให้เสนอนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในช่วงเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง โดยเฉพาะนโยบายในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ตนขอเรียกร้องให้คนที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติไอโอ หรือการปฎิบัติการข้อมูลข่าวสารที่พยายามโยงให้พรรคเพื่อไทยเสียหาย ได้ยุติการดำเนินการเสีย ไม่เช่นนั้นเราจะต้องสงวนสิทธิ์ในการปกป้องเกียรติภูมิชื่อเสียงของพรรคในกรอบของกฎหมายต่อไป
นายนพดล กล่าวว่า ตนคิดว่าการบิดเบือนมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองค่อนข้างชัดเจนพรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมืองที่พร้อมที่จะต่อสู้ตามกฎกติกาและการนำเสนอนโยบายแข่งขันกัน ดังนั้นการที่มีการบิดเบือนบุคคลต่างๆ อินฟลูเอนเซอร์ในเว็บไซต์ก็พอจะดูออกว่ามีวัตถุประสงค์ทางการเมือง แต่พรรคเพื่อไทยสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็นไม่มีอะไรซ่อนไว้ และปกติ คนไทยทุกคนหากถูกใส่ร้ายป้ายสี หรือหมิ่นประมาทก็มีสิทธิ์ที่จะคุ้มครองสิทธิ์ของตนเองอยู่แล้ว
โดยหลักพรรคการเมืองหรือนักการเมืองไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับใครหากไม่จำเป็น แต่หากการกล่าวเท็จใส่ร้ายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเราก็เป็นบุคคลที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญก็สามารถใช้สิทธิ์ตามกฏหมายได้ แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้คิดหรือตัดสินใจที่จะดำเนินคดีใดๆ เป็นเพียงกรอบของกฎหมายที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งตนหวังว่าจะเห็นประโยชน์ของบ้านเมืองไม่ใส่ร้ายเราต่อ
“ตนได้มีการพูดคุยกับทาง น.ส.แพรทองธาร ซึ่งไม่ได้มีความกังวล เนื่องจากเห็นว่าเรื่องดังกล่าวนี้ไม่เป็นความจริง และเขาก็ไม่ได้กระทำการใดๆ ที่ผิดกฎหมายหรือกระทำการพิรุธไม่ชอบมาพากลแต่อย่างใด”
ส่วนเรื่องความพยายามพาดพิงเรื่องของนายตู้ห่าว กับพรรคเพื่อไทยจนส่งผลต่อการแลนด์สไลด์ ในการเลือกตั้งหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกัน พรรคเพื่อไทยจะเเลนส์สไลด์หรือไม่อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน
ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวเสริมว่า การสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนเพื่อทำให้พรรคเพื่อไทยไม่ได้รับคะแนนจากประชาชน ถือเป็นวิธีการฝั่งตรงข้ามที่ต้องการดิสเครดิตพรรคเพื่อไทย และขอให้ประชาชนจับตาการทำงานของทุกพรรคการเมือง ขณะที่หน้าที่การตรวจสอบผู้ที่กระทำผิดในประเทศไทยคือรัฐบาล ส่วนพรรคเพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล
ส่วนกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้อง ป.ป.ช. สอบของ นายศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 25 พ.ค.62 ว่าได้ยื่นบัญชีเงินลงทุนในบริษัท เอฟเวอร์ยูเนียน จำกัด ของนางนุดีพร เพชรพนมพร มูลค่า 7,500,000 บาท โดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ นั้น นายนพดล กล่าวว่า ให้เป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบของกฎหมายและเป็นสิทธิ์ของนายศราวุธที่จะชี้แจงข้อกล่าวหา และเรื่องนี้เป็นเรื่องรับผิดชอบส่วนบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับพรรค จึงไม่นำไปสู่กระบวนการยุบพรรคได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง