svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"จุรินทร์"คิกออฟกิจกรรม"ฟัง-คิด-ทำ" ย้ำ 3 จุุดยืนประชาธิปัตย์

22 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ปชป. จัดงาน “ฟัง-คิด-ทำ” คิกออฟ รับฟังความเห็นประชาชน ชูเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า "จุรินทร์" ย้ำ ถึงเวลาเปลี่ยน ยึดมั่นอุดมการณ์ ซื่อสัตย์เพื่อส่วนรวม  ขณะที่ "มาดามเดียร์" ย้ำ ปชป. เป็นสถานบันการเมือง เติบโตพร้อมประชาธิปไตย

22 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์ จัดงาน “ฟัง-คิด-ทำ” นวัตกรรมเปลี่ยนกรุงเทพฯ เพื่อ รับฟังความคิดเห็นประชาชนและนำไปเป็นนโยบาย กทม. ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคประชาธิปัตย์  นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค , นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค , นาย นิพนธ์ บุญญามณี  รองหัวพรรค ในฐานะ ผอ.เลือกตั้ง , นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคฯ กทม. นางสาววทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง , นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. 

 

"จุรินทร์"คิกออฟกิจกรรม"ฟัง-คิด-ทำ" ย้ำ 3 จุุดยืนประชาธิปัตย์


นายสุชัชวีร์  กล่าว ขอบคุณชาว กทม. ที่ไม่เคยลืมตนเอง ไม่เคยลืมประชาธิปัตย์ถึงแม้ว่าตรจะไม่ได้เป็นผู้ว่า กทม.แต่ไม่เคยลืม และยังคงยึดมั่น อุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์  ซึ่งมั่นใจว่าต่อจากนี้ไป จะเป็นโอกาสของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะเป็นตัวแทนของประชาชน พร้อมยอมรับว่า หลังจจากนี้ไปเป็นงานที่ยากและท้าทาย เพราะโลกเปลี่ยน สังคมเปลี่ยนเศรษฐกิจเปลี่ยนความคิดของคนก็เปลี่ยน

 

การฟัง คิด ทำ เป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำมาอย่างต่อเนื่อง และต่อจากนี้จะเป็นการเดินทางของตนและพรรค อีกครั้งหนึ่งเพื่อลงพื้นที่รับ ฟังประชาชน นำมากลั่นกรองเป็นนโยบาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคแห่งคำถามและมถกจะถามอยู่เสมอว่านโยบายสามารถทำได้จริงหรือไม่


ดังนั้น จากนี้จะการระดมความคิดมันสมองที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับกรุงเทพและปริมนฑล พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนคนกรุงเทพร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฟัง คิด ทำ เพื่อเปลี่ยนกรุงเทพไปด้วยกัน

ด้าน น.ส. วทันยา กล่าวว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช้เรื่องง่ายตั้งแต่ลาออกจาก การเป็น ส.ส.ในสภา ฯ และตัดสินใจมาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์  แม้ที้ผ่านประชาธิปัตย์ จะมีคำถามเรื่องความนิยม และมักถูกมองว่าเป็นพรรคอนุรักษ์นิยม แต่สิ่งที่ตนสัมผัสได้ คือความเป็นสถาบันการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะพูดเอง แต่เป็นเพราะ พรรคประชาธิปัตย์ เติบโตขึ้นมาพร้อมกับระบอบประชาธิปไตย ของประเทศไทย ผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านคลื่นลมทางการเมือง ก็เหมือนชีวิตของคนที่มีขึ้นมีลงเป็นเรื่องธรรมดา และ 76 ปี ของพรรคประชาธิปัตย์ บ่งบอกว่าความเป็นสถาบันของพรรคการเมืองย่อมอยู่เหนือตัวบุคคล  และเหตุผลของการมาสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์นั้น เพราะต้องการใช้เวลาลงไปรับฟัง พุดคุยกับประชาชนอย่างจริงจังว่าเขาต้องการอะไร ก่อนที่จะนำมาผลักดันเป็นนโยบาย เนื่องจากที่ผ่านมาจะเห็นแต่นักการเมืองบอกว่า “อยากทำอะไร” แต่แทบไม่มีใครถามว่า “ประชาชนอยากได้อะไร” ด้วยการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมแสดงความเห็น สะท้อนปัญหา หรือบอกความต้องการ


น.ส.วทันยา กล่าวต่อว่า ข้อมูล Social Listen พบว่าประชาชนกำลังเผชิญกับปัญหาปากท้องและต้องการให้มีการแก้ไขเป็นอับดับแรก และยังมีปัญหาน้ำท่วม การจราจร การพนัน และยาเสพติด ที่อยู่คู่คนกรุงเทพฯมาช้านาน จนต้องหาทางปรับตัวเพื่อเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง เพราะปัญหามันไม่เคยถูกรับฟังจากคนในพื้นที่และมีการแก้ไขอย่างตรงจุด และยิ่งไปกว่านี้ เมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวคุณหมอที่ยังหนุ่มใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะ แต่กำลังจะเสียชีวิตจากมะเร็งปอด เพราะมลพิษที่เราทุกคนกำลังสูดกันอยู่ หลายประเทศเขาประกาศเลยว่า อากาศสะอาดคือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน แต่วันนี้นอกจากเราจะไม่มีสิทธินี้แล้ว เรายังได้โรคร้าย จากสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษมาแทนอีกด้วย

 

วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง

น.ส.วทันยา ยังกล่าวถึงกรณีที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ออกมาชุมนุมเรียกร้อง เพราะต้องการให้เสียงของพวกเขาดังมากพอที่จะมีใครได้ยิน ที่ผ่านมาพรรคการเมือง และนักการเมืองมักจะมีนโยบายที่เสนอให้กับประชาชน แต่กลับไม่เคยถามว่าประชาชนต้องการอะไร ซึ่งนี่เป็นที่มาของนโยบาย ฟัง คิด ทำ เพื่อ การรับฝาก เสียงจากเจ้าของปัญหาเพื่อนำมาเป็นนโยบายแก้ไขอย่างตรงจุด เนื่องจากการฟังจะช่วยลดความขัดแย้งในสังคม ลดความขัดแย้งระหว่างช่วงวัย เพราะทุกความเห็นต่างจะนำมาสู่ทางการเปลี่ยนแปลงและทางออกใหม่ๆ แต่ไม่ใช่ความเห็นต่างที่ไม่มีผู้ฟังและทำให้ประเทศเสียโอกาส


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่อยากให้มองเพียงพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ 76 ปี แต่อยากให้ประชาชนมองพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่เป็นความหวังของประชาชน ซึ่งจากที่ตนเป็นเลขาธิการพรรคฯ เมื่อปี 2554 กับปัจจุบัน พรรคฯ มีการเปลี่ยนแปลง เป็นที่พึ่งให้ประชาชนได้ พร้อมเล่าถึงการพูดคุยกับเด็กรุ่นใหม่ ที่ไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ว่า ขอให้ฟังสิ่งที่ประชาธิปัตย์เป็น กับสิ่งที่คิด ประชาธิปัตย์ ต้องกล้าเปลี่ยนแปลง จึงจะกลับมาเป็นวสถาบันการเมืองที่ภาคภูมิ ไม่ใช่นำความเก่าแก่มาเป็นตัวตั้ง และสื่อให้ประชาชน ให้โอกาสพรรคฯ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจะต้องคู่กับโอกาสของทุกคนในพรรคฯ และนอกพรรคฯ และประชาชน ต้องมีความคาดหวังกับพรรคประชาธิปัตย์ และวันนี้ สิ่งที่ยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ คือความซื่อสัตย์สุจริต ที่ไม่ว่าใครจะเข้ามาบริหารต้องยึดถือ แต่ถ้าพรคไม่กล้าเปลี่ยนแปลงไม่ว่าอีก 100 ปี ก็ไม่มีคุณค่า จึงขอโอกาสเด็กรุ่นใหม่ ให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ เปลี่ยนแปลง และขอให้มั่นใจพรรคประชาธิปัตย์คบหาได้ เดินไปด้วยกันโดยไม่ต้องกลัวโดนเสียบหลัง เพราะตนเป็นนักเลงพอ และตนพร้อมที่จะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่พรรคประชาธิปัตย์ ให้เป็นสถาบันทางการเมืองของประเทศ

 

เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์


ขณะที่ นายจุรินทร์ กล่าวย้ำว่า วันนี้ ถึงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องเปลี่ยน แต่เปลี่ยนอย่างวุฒิภาวะ อะไรดีพรรคประชาธิปัตย์ต้องรักษาไว้อะไรที่ไม่ดีต้องเปลี่ยน โดยเฉพาะอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ 3 ข้อจะต้องไม่เปลี่ยน คือ 
1. อุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2. อุดมการณ์ที่จะทำหน้าที่เพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศและส่วนรวมไม่ใช่ส่วนตัว
3. อุดมการณ์ แห่งความซื่อสัตย์สุจริตที่พรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีวันเปลี่ยน 

 

ซึ่งเป็นที่มาว่าทำไมวันนี้พรรคประชาธิปัตย์จึงต้องเป็นอุดมการณ์ ประชาธิปัตย์ทันสมัยเพราะประชาธิปัตย์ต้องการให้ทันโลก และความคิดความเห็นของประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องเดินหน้าต่อไป 


วันนี้ถือเป็นตัวอย่างอีกหนึ่งตัวอย่างอีกก้าวที่เดินไปสู่ความทันสมัย ในการจัดงาน ฟัง คิด ทำ โดยคนรุ่นใหม่ ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนโยบายทุกยุคทุกสมัยของพรรคประชาธิปัตย์เกิด จากการฟังคิดและนำไปทำจึงอยู่ยืนยงมา 76 ปี หากคิดทำไม่เป็นจะอยู่มาได้อย่างไรถึงทุกวันนี้ แต่ หัวใจสำคัญที่สุดก็คือการ ฟังคิดทำเท่านี้ไม่เพียงพอแต่วันนี้ต้องคิดเพิ่มคิดเพิ่มและทำเพิ่มต่อไป 


นายจุรินทร์ กล่าวย้ำ ว่า วันนี้โลกเปลี่ยนปัญหาเปลี่ยนและความท้าทายเปลี่ยน หาก พรรคประชาธิปัตย์ไม่เปลี่ยนไม่มีวันตามโลกทัน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งมิติทางการเมืองสังคมเศรษฐกิจและมิติด้านการสื่อสาร  และความขัดแย้งถือเป็นความสำคัญ ที่ท้าทาย ข้อแรกที่ผู้ที่จะมาเป็นผู้บริหารประเทศ ต้องเผชิญและแก้ปัญหา

 

ดังนั้นการฟัง คิด ทำ ประชาธิปัตย์ยุคใหม่ จึงเกิดขึ้น เพื่อเตรียมการไว้สำหรับรองรับสถานการณ์ท้าทายสำหรับประเทศในอนาคต พร้อมมั่นใจว่า พรรคประชาธิปัตย์อยู่มาแล้ว 76 ปี  วันนี้ จะนำพรรคประชาธิปัตย์ ไปสู่ความเป็นสถาบันที่ยั่งยืน เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติต่อไป

 

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์


 

logoline