14 พฤศจิกายน 2565 นายสุรเชษ ปวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เดินทางมายื่นศาลปกครองตรวจสอบทุจริตรถไฟสายสีส้ม หยุดค่าโกง 68,000 ล้านบาท ให้สัมปทานรถไฟฟ้าสายสี ส้ม โดยเรื่องนี้ถือเป็นเมกะดิวในตำนาน “ประยุทธ์ 2” ตามที่เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 64 กระบวนการ 3 ป. กับปัญหาค่ารถไฟฟ้าแพง
นายสุรเชษ กล่าวว่า จากกระบวนการปั้นตัวเลขมาปั่นโครงการ และในวันนี้จะปันผลประโยชน์สำเร็จแล้ว หากศาลปกครองไม่ออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเรื่องนี้จะถึง ครม.ในเร็วๆนี้ และครม.อาจจะอนุมัติเมกะดิวนี้อย่างน่ากังขา ซึ่งจะทำให้พวกเราเสียเงินภาษีมากเกินจำเป็นถึง 68,000 ล้านบาท จึงขอยื่นฟ้อง
1.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
2.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
3.คณะกรรมคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่ง พ.ร.บ.การร่วมทุน
4.กระทรวงคมนาคม
เพื่อให้ศาลปกครองกลางพิจารณาคำขอใน 4 ประเด็น ได้แก่
1.ยกเลิกการประมูลที่มีปัญหาจัดการประมูลใหม่ให้มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม โดยอย่างน้อย BTS และ BEM ต้องเข้าได้
2.รฟม. ต้องเข้าชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการ โดยไม่ปฏิเสธอำนาจนิติบัญญัติอย่างที่ได้เบี้ยวมา 2 ครั้ง
3.เปลี่ยนคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ของ พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ เพื่อให้มีความโปร่งใส เนื่องจากเรื่องนี้เป็นคดีใหญ่ มูลค่าสูง และมีรายละเอียดมาก
4.คาดว่าศาลคงต้องใช้เวลาพิจารณามากพอสมควร จึงได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษา และขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เซ็นสัญญาก่อน เพราะหากปล่อยไป รัฐบาลหน้าจะตามไปแก้ไขอะไรได้ยากและอาจทำให้เกิดค่าโง่ก้อนใหม่
นายสุรเชษ กล่าวอีกว่า ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ โครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เคยให้โอกาส รฟม. มาชี้แจงเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มแล้ว ถึง 2 ครั้ง แต่ รฟม.ไม่มาชี้แจงซึ่งอนุกรรมาธิการพบความผิดปกติคือ
1.การเปลี่ยนเกณฑ์การประมูลกลางอากาศ การยกเลิกการประมูลครั้งก่อนโดยที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่า ‘การยกเลิกการประมูลดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย’
2.การกีดกัน BTS ไม่ให้มีสิทธิ์เข้าประมูลรอบใหม่คุณสมบัติต้องห้ามของผู้ผ่านการพิจารณาข้อเสนอด้านคุณสมบัติการคิดราคากลาง
3.คาดส่วนแบ่งรายได้ในอนาคตเป็นศูนย์ เพราะไม่มีความพยายามของคณะกรรมการคัดเลือกในการรักษาผลประโยชน์ให้กับรัฐ
4.ที่สำคัญส่วนต่าง 68,000 ล้านมีอยู่จริง ต้องไปพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าทำไมการประมูลรอบแรก หาก BTS ชนะรัฐจะอุดหนุนเพียง 9,675 ล้านบาท แต่ในการประมูลรอบสอง ซึ่ง BEM ชนะ รัฐต้องอุดหนุนมากถึง 78,288 ล้านบาท ทั้งที่ในทางเทคนิคก็คือสร้างสิ่งเดียวกัน คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม แบบการก่อสร้างก็ไม่ได้เปลี่ยน ยาวเท่าเดิม สถานีเท่าเดิม
“สุดท้ายฝากไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ ต้องออกมาชี้แจงแบบไม่ต้องมอบหมายให้คนอื่นไปชี้แจงแทน ให้ได้ว่าส่วนต่าง 68,000 ล้าน หายไปไหน? ทำไม BTS โดนกีดกันทั้งๆ ที่ก็รู้กันอยู่ว่าในทางปฏิบัติมันมีแค่ 2 เจ้า เรื่องนี้ยอมไม่ได้ เพราะหากปล่อยไป คนอนุมัติรวย นายทุนยิ้ม ประชาชนจ่ายส่วนต่าง 68,000” “นายสุรเชษฐ์ กล่าว"