จากกรณีที่ นายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ หนึ่งในผู้ต้องหา 5 คน บนเรือสปีดโบ๊ท คดี น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวชื่อดังพลัดตกเรือจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต ได้เดินทางไปพร้อมตัวแทนบริษัทเจ้าของเรือเพื่อยื่นเรื่องขอคืนเรือลำเกิดเหตุ ที่ถูกอายัดเป็นของกลางในคดี ต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 โดยมี น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี ยื่นเอกสารคัดค้านการขอคืนเรือดังกล่าวตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าว)
โดยศาลจังหวัดนนทบุรี พิเคราะห์พยานหลักฐานของผู้ร้องและผู้คัดค้านแล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนเรือของกลางหรือไม่ ผู้ร้องมีนายพิทยา เพชรพลอย เป็นผู้รับมอบอำนาจผู้ร้อง นายปภิณวิช รอดบางยาง และนายตนุภัทร หรือปอ เลิศทวีวิทย์ เป็นพยาน เบิกความในทำนองเดียวกันว่า เดิมเรือสปีดโบ๊ทของกลาง ซึ่งเป็นเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ชื่อเรือโคบอล 25 เลขทะเบียน 646700327 ขนาด 5.21 ตันกรอส ประเภทการใช้เป็นเรือสำราญและกีฬา (เรือเร็ว) เป็นของนายปภิณวิช โดยกรมเจ้าท่าออกใบอนุญาตให้นายปภิณวิชใช้เรือตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 ต่อมานายปภิณวิชขายเรือลำดังกล่าวให้แก่ผู้ร้องเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 ซึ่งขณะนั้นนายตนุภัทรเป็นกรรมการของบริษัทผู้ร้อง ในราคา 3,500,000 บาท และผู้ร้องได้ชำระราคาให้แก่นายปภิณวิช ครบถ้วนแล้ว
ส่วนผู้คัดค้านมี นายอำนาจ สอนหมวก เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานนทบุรี เป็นพยานเบิกความว่า เรือของกลางในคดีนี้เป็นเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต เรือใช้สำราญและกีฬาเล็ก เรือเร็ว หรือสปีดโบ๊ท ตัวเรือเป็นไฟเบอร์กลาสมีขนาด 5.21 ตันกรอส การจดทะเบียนเมืองท่าที่พัทยา เจ้าของชื่อ นายปภิณวิช รอดบางยาง การขายเรือเป็นการซื้อขายสังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ ต้องกระทำต่อหน้าหน้าที่หรือนายอำเภอ และต้องนำเอกสารดังกล่าวมาจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมเจ้าท่า มีกำหนดแบบจดทะเบียนโอนเรือด้วยตามระเบียบกรมเจ้าท่า ว่าด้วยหลักเกณฑ์วิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับทะเบียนเรือไทยและใบอนุญาตใช้เรือ ตามเอกสารผู้คัดค้าน สัญญา(ซื้อขาย)นั้นเป็นสัญญาระหว่างเอกชนด้วยกันทำขึ้น ไม่ใช่สัญญาที่มีกฎหมายกำหนดไว้ ปัจจุบันยังไม่มีการโอนเปลี่ยนแปลงทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในเรือของกลาง
เห็นว่า ตามคำร้องของผู้ร้องบรรยายว่า ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เรือของกลาง ซึ่งเป็นเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขตชื่อเรือโคบอล 25 เลขทะเบียน 646700327 ขนาด 5.21ตันกรอส ประเภทการใช้เป็นเรือสำราญและกีฬา (เรือเร็ว) ที่เป็นของกลาง โดยมีพยานผู้ร้องทั้งสามปากนำสืบประกอบสัญญาซื้อเรือว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในเรือของกลาง แต่ยังไม่มีการจดทะเบียนเรือของกลางต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จากนั้นผู้ร้องจึงมายื่นคำร้องในคดีนี้ แต่เรือของกลางยังไม่ได้จดทะเบียนกับกรมเจ้าท่า ดังนี้เมื่อการซื้อขายเรือของกลางเป็นการซื้อขายสังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ การกระทำซื้อขายต้องกระทำต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่หรือนายอำเภอ และต้องนำเอกสารดังกล่าวมาจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมเจ้าท่า สัญญาซื้อขายเรือของกลางดังกล่าวจึงตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา456 วรรคแรก ถือเสมือนว่ามิได้มีนิติกรรมการซื้อขายเรือของกลางเกิดขึ้นเลย เมื่อสัญญาซื้อขายเรือของกลางนี้เป็นโมฆะแล้ว ผู้ร้องย่อมจะอ้างกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเรือของกลางไม่ได้ ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอคืนเรือของกลางในคดีนี้ จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง