23 สิงหาคม 2565 ความคืบหน้า ศาลภาษีอากรกลาง มีคำพิพากษาให้ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ชนะคดีกรมสรรพากร โดยศาลสั่งให้เพิกถอนการประเมินเก็บภาษีขายหุ้นชินคอร์ปฯ จำนวน 17,000 ล้านบาท เหตุดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม : "ทักษิณ" เฮชนะคดีสรรพากร ศาลสั่งเพิกถอนเก็บภาษีหุ้นชิน 1.7 หมื่นล้านบาท
ล่าสุด วันนี้ (23 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากครบกำหนดครบระยะเวลาในการยื่นอุทธรณ์ คดีประเมินการเก็บภาษีขายหุ้นชินคอร์ปฯ จำนวน 17,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา (อ่านคำพิพากษา18 ก.ค. กฎหมายกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ภายใน 1 เดือน) จากการตรวจสอบทราบว่า ก่อนครบกำหนดคู่ความทั้งสองได้ยื่นขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์คำพิพากษา
โดยศาลอนุญาตขยายอุทธรณ์ฝ่ายโจทก์ (ทักษิณ ชินวัตร) ถึงวันที่ 16 ก.ย.65 ส่วนฝ่ายอัยการ ซึ่งว่าความเเก้ต่างให้กรมสรรพากร ศาลอนุญาตขยายอุทธรณ์ถึงวันที่ 17 ก.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อครบกำหนดดังกล่าว คาดว่า ทั้งคู่ความอาจจะมีการขอขยายอุทธรณ์อีก เนื่องจากเป็นคดีใหญ่มีเอกสารเป็นจำนวนมาก
สำหรับคดีนี้ เป็นคดีหลังจากที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้พิพากษาคดีที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง "ทักษิณ ชินวัตร" คดีร่ำรวยผิดปกติ ขอให้ริบทรัพย์สิน 76,000,000,000 บาท พร้อมดอกผลที่ได้มาจากการขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ปฯ ตกเป็นของแผ่นดิน
องค์คณะฯพิจารณาแล้วพิพากษาว่า "ทักษิณ" ใช้อำนาจขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ ออกนโยบายเอื้อประโยชน์ บมจ.ชินคอร์ป ฯ ที่ครอบครัวถือหุ้นทำให้มีทรัพย์สินร่ำรวยผิดปกติ จึงให้ยึดทรัพย์สินในชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" และครอบครัว ที่ได้จากการขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ปฯ จำนวน 46,000,000,000 บาทเศษ พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน
ต่อมาช่วงปี 2549 - 2552 กรมสรรพากร ได้เรียก นายพานทองแท้ และเอม พินทองทา มาประเมินภาษีโอนหุ้นชินคอร์ปฯ แล้วไปเรียกเก็บภาษีจาก ทักษิณ นำมาสู่การฟ้องร้องคดีนี้