18 สิงหาคม 2565 "เลขาฯ สมช." เผยความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังคนร้าย ป่วนภาคใต้ 17 จุด โดย พลเอกสุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. กล่าวประเด็นเกิดเหตุเกี่ยวข้องกับการอยู่ในช่วงท้ายรัฐบาลหรือเป็นการทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ ว่า เรื่องดังกล่าวได้มีการชี้แจงจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สมช.ได้ดูใน 4-5 มิติ
นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีการสั่งการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการประชุมของหน่วยข่าว ในพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อรับฟังปัญหาและ และมอบหมายแนวทางที่นายกรัฐมนตรี และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลด้านความมั่นคง ได้สั่งการ โดยสิ่งที่ต้องทำเป็นการเร่งด่วน คือการยกระดับมาตรการป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย และเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนสิ่งที่จะทำต่อไปคือการสืบสวนสอบสวน ให้ได้มาซึ่งผู้ก่อเหตุ ที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว ยุติธรรมและเป็นไปตามขั้นตอน นอกจากนี้ยังต้องมีการปรับระบบการทำงานที่สำคัญในเรื่องของความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ มาตรการในการรักษาความสงบ เดินหน้าทำความเข้าใจ และสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้สิ่งสำคัญอีกมิติคือการสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น และพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้ดีขึ้น
พลเอกสุพจน์ ยอมรับว่า มีงานข่าวในการก่อเหตุมาอยู่แล้ว แต่ในการก่อเหตุครั้งนี้มีการปรับเปลี่ยนผู้ดำเนินการ ซึ่งรายละเอียดต่างๆขอให้รอฟังผลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ซึ่งตนคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดิมที่เคยทำอยู่
ส่วนที่หลายฝ่ายมีความพยายามเชื่อมโยงกับการเมือง พลเอกสุพจน์ ระบุว่า ตนคิดว่ามีหลายมิติที่ต้องดู การแก้ไขปัญหาชายแดนภาคใต้ การเมืองก็คือบริบทที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะฉะนั้นก็จะดำเนินการคู่ขนานกับการใช้กำลังที่ก่อเหตุรุนแรงด้วยเหตุผลได้เหตุผลหนึ่ง ซึ่งมีหลายปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมกัน พร้อมเชื่อว่าครั้งนี้เป็นการดำเนินการกับกลุ่มเป้าหมายเปราะบางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งพื้นที่ก่อเหตุเป็นพื้นที่ที่ประชาชนใช้ในชีวิตประจำวันเช่นร้านสะดวกซื้อและปั๊มน้ำมัน รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างแน่นอน โดยรัฐบาลนั้นให้ความสำคัญและจะเร่งดำเนินการแก้ไข
สำหรับข้อถามว่า มีการประเมินสถานการณ์หรือไม่ เหตุใดจึงเกิดขึ้นในช่วงปลายปี พลเอกสุพจน์ กล่าวว่า เป็นจังหวะของเหตุการณ์เพราะหากติดตามการเจรจาพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้มีความคืบหน้า มีการพูดคุยกันบ่อยขึ้น และครอบคลุมในทุกมิติ แต่กลุ่มที่เข้ามามีส่วนร่วมของปัญหาก็จะมีความต้องการแตกต่างกันไป ซึ่งเป็นเทคนิคที่ต้องการตอบสนองของประเทศให้พื้นทึ่มีความสงบ เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้พหุสังคมวัฒนธรรม มีเศรษฐกิจที่ดี ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ต้องหาวิธีการผสมผสานและปรับวิธีการไปเรื่อยๆ ความต้องการของตัวเองเพื่อให้แต่ละฝ่ายนั้นบรรลุวัตถุประสงค์
เมื่อถามยามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับ ช่วงการพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณปี 66ด้วยหรือไม่นั้น พลเอกสุพจน์ มองว่า ไม่น่าจะ หากดูจากแผนงานโครงการที่เข้าไปทำพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือว่ารัฐบาลมีความตั้งใจอย่างมากที่จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีมีอาชีพ มีงานทำ และมีการพัฒนาเศรษฐกิจในทุกระดับ เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่อยู่ร่วมกันได้และมีความเจริญ
ทั้งนี้ พลเอกสุพจน์ ปฏิเสธการตอบคำถาม ถึงกรณีแง่ของความมั่นคงได้มีการเตรียมการ เรื่องวาระ 8 ปีของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้อง
ส่วนที่นักวิชาการออกมาระบุให้ฝ่ายความมั่นคงระวังเรื่องเหตุการณ์ความรุนแรงในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคนั้น พลเอกสุพจน์ กล่าวว่า ตนในฐานะที่วิเคราะห์ภัยคุกคามต้องดูในทุกมิติ ทั้งภัยที่เกิดขึ้นในประเทศและต่างประเทศ