"จุรินทร์" ยันไม่ร่วมขบวนทำแท้งกม.ลูกเลือกตั้ง พร้อมทำตามมติสภาฯ

5 สิงหาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัติย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติเปิดตัว เปรียบเหมือนพรรคประชาธิปัตย์สาขา 2 ว่า เมื่อใกล้โหมดเลือกตั้งก็ถือเป็นเรื่องปกติที่จะมีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้น และเป็นเรื่องปกติที่จะย้ายพรรค ซึ่งเกิดขึ้นกับทุกพรรค ทุกยุคทุกสมัย สำหรับประชาธิปัตย์นั้น ตนก็มั่นใจเพราะได้มีการเตรียมการเดินทางเข้าสู่การเลือกตั้งมานานแล้ว และเตรียมการไว้อย่างครบถ้วน ทั้งตัวผู้สมัคร และยุทธศาสตร์ในการหาเสียงเลือกตั้ง พร้อมทั้งจะนำผลงานที่เคย เป็นพรรคร่วมรัฐบาลในระยะ 3-4 ปี ว่าประชาชนได้อะไรบ้างจากการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมีผลงานชัดเจนเป็นรูปธรรม เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม

“มีความพร้อมมากแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้  ยืนยันผู้สมัครที่เป็นส.ส.ปัจจุบัน ก็ยังมั่นคงอยู่กับพรรค ไม่มีสัญญาณเปลี่ยนแปลง และยังมีผู้สมัครเลือดใหม่ ที่ประชาธิปัตย์เตรียมไว้เกือบครบทั้งหมดแล้ว โดยวันที่ 14 สิงหาคมนี้ ตนจะเดินทางไปประชุมกับว่าที่ผู้สมัครเลือดใหม่ ประชาธิปัตย์ ที่จังหวัดสงขลา ซึ่งถือว่าเป็นการเปิดตัวผู้สมัคร 30 กว่าที่เพื่อหาผู้สมัครที่ดีที่สุดให้กับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงภาคอื่นๆ เช่น จังหวัดพิจิตร ที่ตนจะเดินทางไปเปิดตัวผู้สมัครในวันที่ 19 สิงหาคม นี้” หัวหน้าปชป.กล่าวและกล่าวต่อ

ส่วนที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคอื่นๆที่ประกาศจะตีหัวเมืองภาคใต้นั้น ทุกพรรคก็มีสิทธิ์ฝัน แต่ผู้ที่จะให้คำตอบคือประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีอะไรต้องหวั่นไหว เพราะคนที่ยังเหนียวแน่นอยู่กับพรรคก็มีมาก เลือดใหม่ก็มีมาก

ขณะที่จังหวัดภูเก็ตก็ได้เตรียมผู้สมัครไว้เรียบร้อยแล้ว และไม่ขอพูดถึง นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดภูเก็ต ที่ไปลงสมัครเลือกตั้งเขต 3 กับพรรคภูมิใจไทย

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ กล่าวถึง การประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณากฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ในวันที่ 10 สิงหาคม ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ยื้อเวลาเพื่อให้เลยกำหนด 180 วัน ว่า ประชาธิปัตย์ไม่ได้ร่วมกระบวนการด้วย และยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าประชุมตามปกติ และจะไม่ทำให้ที่ประชุมสภาฯล่ม เพื่อเดินหน้าตามกระบวนการรัฐสภาที่คิดว่าเหมาะสม ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็ขอให้เป็นไปตามมติสภาฯ เพราะ ประชาธิปัตย์เหมาะสมกับการเลือกตั้งทุกรูปแบบ  พร้อมปฏิเสธเรื่องการส่งสัญญานจากรัฐบาลให้กฎหมายฉบับนี้ถูกตีตก ว่า ตนไม่ทราบ เพราะประชาธิปัตย์ คือประชาธิปัตย์ ที่เดินตามวิถีทางของรัฐสภาอย่างมั่นคง