svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ฮือฮา! หนุ่มใหญ่ “ขี่ควาย” กลางถนนเมืองตรัง

05 สิงหาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แชร์กระหึ่มโซเซียล! หนุ่มใหญ่ขี่ควายเข้าเมืองแทนรถ สะท้อนยุคราคาน้ำมันแพง ใจกลางเมืองตรัง ชาวบ้าน-นักท่องเที่ยวจอดถ่ายภาพเซลฟี่ตลอดทางจนสร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก

ในโลกโซเชียลฮือฮา แชร์คลิปวีดีโอมีชายรายหนึ่งขี่ควาย ติดไฟแดงบริเวณวงเวียนหอนาฬิกา ถ.พระราม 6 ต.ทับเที่ยง เขตเทศบาลนครตรัง ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองตรัง ก่อนนำควายไปผูกล่ามที่เกาะกลางถนนและเดินไปนั่งกินบะหมี่เย็นตาโฟชื่อดัง ร้านโกยวด ด้านข้างโรงแรมตรัง หลังจากที่คลิปเผยแพร่ออกไป ต่างสร้างความประหลาดใจ หลายคนคอมเมนท์และตื่นเต้นกับเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

โซเชียลแห่แชร์หนุ่มขี่ควายกลางเมืองตรัง

 

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางตามหาควายและคนขี่คนดังกล่าว ทราบว่าควายเป็นของนายการุณ ทองหนัน ส.อบจ. เขต 2 อ.นาโยง จ.ตรัง จึงเดินทางเข้าไปสอบถามก่อนพบ นายสมเกียรติ ขวัญหม้ง หรือหลวงเอ ฉายา “อ้ายคล้าว เมืองตรัง” อายุ 43 ปี กำลังดูแลควายคู่หูตัวดังกล่าวชื่อ ‘เจ้าใบเงิน’ อายุ 4 ปีเศษ เพศผู้ อย่างทะนุถนอม ด้วยความรัก ก่อนที่จะขี่ควายบนถนน และภายในนาข้าวโชว์ผู้สื่อข่าว พร้อมทั้งชาวบ้านที่ขับรถผ่านไปมาต่างแวะถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก ซึ่ง ‘เจ้าใบเงิน’ มีลักษณเด่น ตามอัตลักษณ์ควายไทยที่เรียกว่า “เบญจลักษณ์” ลักษณะมี 5 ประการ คือมีลักษณะตาแต้ม แก้มจ้ำ มีสร้อยคอหรืออ้องคอสองถึงสามเส้น มีกะพี้ที่ตา คิ้วสองด้าน แก้มสองด้าน ตรงกรามสองจุดฝั่งตรงข้ามกัน และมีจุดสีขาวด้านใต้ ปล้องขาดำ ตำแหน่งที่คั่นสีดำอยู่บริเวณรอยต่อข้อเท้ากับเท้า มีถุงเท้าขาว สูงใหญ่ กระดูกใหญ่หนังหนา ลำตัวยาว ส่วนหางกระดูกใหญ่และยาว ส่วนหาง

ขี่ควายกลางเมืองตรัง

นายสมเกียรติ หรือหลวงเอ เปิดเผยว่า ที่ตนขี่ควายไปหอนาฬิกาตรังนั้น ระยะทางจากบ้านไปในเมืองตรังไปกลับกว่า 40 กม. เพื่อตนอยากสร้างสีสันให้กับจังหวัดตรังและก็ลองคิดตามว่าถ้าฉากหลังเป็นหอนาฬิกาและมีคนขี่ควายมันจะสวยขนาดไหน ยังไม่เคยมีใครเคยทำ อีกอย่างตอนนั้นตนเองไม่มีรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซด์ แล้วเกิดอยากกินหมี่เย็นตาโฟด้วยเป็นร้านของเพื่อนตัวเอง ซึ่งตลอดเส้นทางมีคนขอถ่ายรูปเยอะ นอกจากนี้ตนยังขี่ไปเที่ยวที่ตลาดชินตา แต่กลับได้รับคำพูดที่ทิ่มแทงใจเมื่อมีคนเข้ามาทักว่าเจ้าใบเงินมีราคาหลายแสนและกล่าวหาตนว่าขโมยควายมา ตนตอบกลับไปว่าหากขโมยมาจริงจะขี่ควายเข้าเมืองทำไม เพราะมีกล้องวงจรปิดเต็มทั่วเมือง ขณะเดียวกันระหว่างที่ตนขี่ควายอยู่ผ่านห้างสรรพสินค้าโรบินสันตรังก็มีคนแวะถ่ายรูปและให้เงินมา 100 บาท เพื่อให้เป็นค่าอาหารควายอีกด้วย ซึ่งก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยว และผู้พบเห็น เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีทองกวาวในชีวิตจริงไม่ หลวงเอก็กล่าวแบบติดตลกมาว่าทองกวาวยังไม่เกิด

หลวงเอ ฮือฮา! หนุ่มใหญ่ “ขี่ควาย” กลางถนนเมืองตรัง

ขณะที่ นายการุณ ทองหนัน ส.อบจ.ตรัง เจ้าของควาย กล่าวว่า ตนซื้อเจ้าใบเงินมาจากจังหวัดสงขลาในราคา 43,000 บาท เลี้ยงมาได้ 3 ปีกว่าแล้ว โดยมีแรงบันดาลใจเนื่องจากตนเห็นควายเผือกตอนไปทำงานในพื้นที่ตำบลนาโยงใต้แล้วเกิดชอบอยากได้ จนมีโอกาสไป จ.สงขลาก็เจอเจ้าใบเงิน จึงเกิดความรู้สึกรักและถูกชะตา จึงได้เจ้าเป็นเงินมา โดยทุกเช้าตนจะคุยกับนายเอให้ช่วยดูแลควายด้วยความรักและความเอ็นดู เวลาขี่เจ้าใบเงินบนถนนก็ให้ระมัดระวัง เกรงว่าจะได้รับอันตรายทั้งคนและควาย รวมถึงทรัพย์สินของคนอื่นเสียหาย ประชาชนที่เห็นก็สามารถเข้ามาถ่ายรูปทักทายพูดคุยหรือให้อาหารเจ้าใบเงินได้ เพื่อช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น และในอนาคตมีความคิดจะทำฟาร์มควาย เพราะมีควายอยู่จำนวนหลายตัว รวมทั้งควายเผือกด้วย และในเดือน ต.ค.นี้ จะนำควายทั้งหมดไปโชว์ภายในงานลากพระประจำปีอีกด้วย

นายการุณ ทองหนัน เจ้าของควาย

 

สำหรับ นายสมเกียรติ หรือหลวงเอ ยึดอาชีพรับจ้างทั่วไป และมีความสามารถพิเศษคือเป็นช่างพ่นสีรถยนต์ที่มีฝีมือและมีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง ซึ่งหลวงเอ จะขี่ควายไปในหลากหลายอำเภอใน จ.ตรัง ซึ่งจะเป็นที่พบเห็นของผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยหากนำควายขี่ออกไปแล้ว หากควายเหนื่อยจะไม่พยายามฝืนให้ควายเดินต่อไป จะหยุดนอนและให้ควายได้พักในจุดนั้นเลย

นายสมเกียรติ หรือหลวงเอ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า โพสต์ดังกล่าวมาจากเพจเฟชบุ๊กส่วนตัวชื่อ #เกษรีย์ ลูกหมี บุญตายิ่งนักเรื่องของเมื่อคืน 5555 มีชายคนหนึ่งขี่ควายมาจากนาโยง มากินหมี่ร้านโกยวดใต้โรงเเรมตรังควายคุ้นมาก...พอถึงร้านล้ำควายกับเสาร์ไฟฟ้าสว่างบนเกาะกลาง...เริ่ดจริงๆ ซึ่งหลังมีการแชร์โพสต์ออกไปกลายเป็นไวรัลที่ผู้คนต่างเข้ามาคอมเมนท์กันเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกเวลา 20.30 น.คืนวันที่ 29 ก.ค.65 ที่ผ่านมา.

ฮือฮา! หนุ่มใหญ่ “ขี่ควาย” กลางถนนเมืองตรัง

 

ภาพ/ข่าว : ถนอมศักดิ์  หนูนุ่ม สำนักข่าวเนชั่น จ.ตรัง
 

logoline