4 สิงหาคม 2565 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ายื่นหนังสือผ่าน นายพิศิษฐ์ พัฒนกิจจำรูญ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เพื่อให้สอบสวนนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม (หรือ ส.ส.เอ๋ พระบาท) กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ว่ากระทำผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่
ทั้งนี้ จากกรณีที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นางสิรินลักษณ์รายา คณานุรักษ์ ว่า นายพีระวิทย์ กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติมาตรฐานทางจริยธรรม ที่ถือว่ามีลักษณะร้ายแรง โดยข้อเท็จจริงดังนี้
1.เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2553 นางสิรินลักษณ์รายา ได้โอนเงินค่าหน่วยกิตนักศึกษาโครงการหลักสูตรปริญญานิติศาสตรบัณฑิตภาคพิเศษ วิทยาเขตบางนา รุ่นที่ 2 จำนวน 21,500 บาท เข้าบัญชีนายพีระวิทย์ เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาโครงการหลักสูตรปริญญานิติศาสตรบัณฑิตภาคพิเศษ วิทยาเขตบางนา (เรียนวันเสาร์-อาทิตย์) รุ่นที่ 2 ชื่อ นายนราวิชญ์ ชะยะ หรือปัจจุบัน นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ลำดับที่ 92 เพื่อให้นำไปชำระค่าการศึกษา แต่ไม่ดำเนินการ และจนถึงปี 2562 เมื่อนายพีระวิทย์ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 แล้วก็ยังไม่คืนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับนางสิรินลักษณ์รายา แต่อย่างใด
2.นางสิรินลักษณ์รายา ได้ฟ้องนายพีระวิทย์ ต่อศาลแพ่งพระโขนงเรื่องละเมิดเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายตามจำนวนเงินที่เสียไปจำนวน 21,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียม
3.ศาลแพ่งพระโขนงมีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ม 226/2563 คดีหมายเลขแดงที่ ม 226/2564 ลงวันที่ 30 พ.ย.63 ให้นายพีระวิทย์ ชำระเงินจำนวน 21,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมแก่นางสิรินลักษณ์รายา ณ วันพิพากษานายพีระวิทย์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม
4.ศาลแพ่งพระโขนงมีคำบังคับคดีหมายเลขดำที่ ม 226/2563 คดีหมายเลขแดงที่ ม 226/2564 ลงวันที่ 30 พ.ย. 2564 บังคับให้นายพีระวิทย์ ปฏิบัติตามคำพิพากษา หรือคำสั่งที่กล่าวแล้วภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำบังคับนี้ ดังนั้น จากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานดังกล่าวปรากฏอย่างชัดแจ้งว่า การกระทำของนายพีระวิทย์ ไม่เคารพกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่ประชาชน เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 หรือไม่ ดังนี้
ข้อ 6 ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย บูรณภาพ แห่งอาณาเขตและเขตที่ประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ข้อ 12 ยึดมั่นหลักนิติธรรม และประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน
ข้อ 17 ไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง
ข้อ 21 ปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกําลังความสามารถ และยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรม โปร่งใสและตรวจสอบได้ และปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการ โดยคํานึงถึงผลประโยชน์ของชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม
ดังนั้น จึงขอให้ป.ป.ช.พิจารณาตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัดต่อไปโดยเร็วที่สุด