จากกรณีที่นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานนโยบายพรรคประชาธิปัตย์กับคณะเสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้รัฐสภาอันเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ได้รับทราบแนวทางการดําเนินงานของ ธปท. และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินและระบบสถาบันการเงินที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบหรือความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทาง ธปท. ขอชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว
1. การที่ ธปท. ไม่รายงานต่อสภา แสดงว่า ธปท. ไม่โปร่งใส จึงควรรายงานข้อมูลเศรษฐกิจการเงินและแนวนโยบายต่าง ๆ ต่อรัฐสภา เพื่อให้ สส. และประชาชนรับทราบข้อมูลโดยตรง รวมทั้งเปิดโอกาสให้รัฐสภาสามารถให้ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อการทำงานของ ธปท. ได้
ธปท. มีหน้าที่ความรับผิดชอบที่จะต้องรายงานข้อมูลสภาพเศรษฐกิจการเงินและแนวทางการดำเนินนโยบายที่หลากหลาย รวมทั้งหารือกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อรับฟังความเห็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเทียบกับธนาคารกลางอื่น ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการกำหนดให้รายงานสูงกว่าค่าเฉลี่ย
3) สำหรับประชาชน ธปท. มีหน้าที่ในการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจและแนวนโยบาย อย่างทันการณ์ ทั้งข้อมูลสภาวะเศรษฐกิจและการตัดสินนโยบายต่าง ๆ อย่างทันท่วงทีต่อสาธารณชน เช่น แถลงข่าวเศรษฐกิจรายเดือน แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน รวมถึงการสื่อสารทำความเข้าใจในประเด็นต่าง ๆ ในรายละเอียด เช่น ผลกระทบของโควิดต่อเศรษฐกิจ การมองภาพเงินเฟ้อ การช่วยเหลือลูกหนี้ รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านทั้งสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ และช่องทางของ ธปท. เอง นอกจากนี้ ยังมีการรับฟังทั้งความเห็นของภาคธุรกิจและประชาชน เพื่อนำมาปรับปรุงหรือวางแนวนโยบายต่างๆ
2. ธนาคารกลางชั้นนำในหลายประเทศก็ต้องรายงานต่อสภาฯ เช่นกัน
ธนาคารกลางมีหน้าที่ต้องรายงานต่อรัฐบาล หรือรัฐสภา เพื่อความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการดำเนินงาน ซึ่งการรายงานผลการดำเนินงานของธนาคารกลางส่วนใหญ่ กฎหมายมักจะกำหนดให้สัมพันธ์กับผู้มีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนผู้ว่าการหรือกรรมการ เช่น ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะรายงานต่อรัฐสภา ซึ่งเห็นชอบการแต่งตั้งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งแตกต่างจากธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารกลางที่กฎหมายกำหนดให้รายงานผลการดำเนินงานต่อรัฐสภาโดยตรงมีจำนวนน้อย โดยเพียงธนาคารกลางอินโดนีเซีย ที่กฎหมายระบุให้ชี้แจงต่อรัฐสภา ทุกไตรมาส เช่นเดียวกับที่จะแก้ พ.ร.บ. ธปท. ในครั้งนี้ ขณะที่กัวเตมาลา แอลบาเนีย อาร์มีเนีย ฮังการี และรัสเซีย กฎหมายกำหนดให้ธนาคารกลางไปชี้แจงต่อรัฐสภาปีละ 1 - 2 ครั้ง ธนาคารกลางอีกส่วนหนึ่ง กฎหมายจะกำหนดให้รายงานและชี้แจงต่อชั้นคณะกรรมาธิการ เช่นเดียวกับธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ประธานจะชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการสภาผู้แทน