svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

“นักบิน” แชร์ประสบการณ์ 12 ปี ชี้อุบัติเหตุบนเครื่อง ควรอพยพใน 90 วินาที

01 สิงหาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“นักบิน” โพสต์ให้ความรู้จากประสบการณ์ 12 ปี แจงละเอียดยิบหากเกิดอุบัติเหตุบนเครื่อง ทำไมควรอพยพใน 90 วินาที

จากเรื่องราวสุดระทึกกรณีเหตุการณ์เครื่องบินของสายการบิน Nok Air ทะเบียน HS-DBR ให้บริการในเที่ยวบินที่ DD108 จากท่าอากาศยานนานาชาติดินเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวงเชียงราย พร้อมผู้โดยสาร 163 คน และลูกเรือ 6 คน ขณะลงจอดท่าอากาศยานมีฝนตกหนัก หลังจากลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวงเชียงราย เครื่องบินได้ไถลออกนอกทางวิ่ง ซึ่งในเหตุการณ์ดังกล่าวมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความล่าช้าในการอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่อง ขณะที่ “สายการบินนกแอร์” ก็ได้ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยระบุว่าได้ปฏิบัติตามขั้นตอนตามที่ได้เสนอข่าวมาก่อนหน้านี้ (อ่านข่าว)

 

“นักบิน” แชร์ประสบการณ์ 12 ปี  ชี้อุบัติเหตุบนเครื่อง ควรอพยพใน 90 วินาที

สำหรับประเด็นนี้เฟซบุ๊กแฟนเพจ “I’m from Andromeda” ได้ออกมาโพสต์ให้ความรู้เรื่องการอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบินขณะเกิดเหตุว่า “ตัวเลข 90 วินาที เป็นเลขที่คุณต้องจดจำเอาไว้หากต้องพิจารณาขึ้นเครื่องบินหรือสายการบินลำใดลำหนึ่ง  มันคือตัวเลขที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ FAA ได้ทดลองเอาไว้ว่าเป็นเวลาที่ช้าที่สุดที่ผู้โดยสารทุกคนควรอพยพออกจากเครื่องบินหากเกิดเหตุฉุกเฉิน”

 

 

"90 วินาทีมาจากไหน? ในช่วงต้นทศวรรษ 1960 มีการวิจัยเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะเพลิงไหม้หลังจากเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ ในเดือนเมษายนและกันยายน ค.ศ.1964 FAA ได้ทำการทดสอบจำลองการชนและเพลิงไหม้ของเครื่องบินโดยใช้เครื่องบินดักลาส DC7 และล็อกฮีด L1649 โดยติดตั้งกล้องความเร็วสูงไว้ภายในเครื่องบินและรอบๆ พื้นที่ภายนอก เพื่อบันทึกผลกระทบของเครื่องบิน หุ่นนักบินจำลอง และผู้โดยสารจำลอง"

 

“นักบิน” แชร์ประสบการณ์ 12 ปี  ชี้อุบัติเหตุบนเครื่อง ควรอพยพใน 90 วินาที

 

"จากการวิจัยพบว่ามี “ไฟ” 2 แบบที่เกิดขึ้นและคร่าชีวิตคนบนเครื่องบินอย่างแรกคือ ไฟที่เกิดขึ้นบนวัสดุและอุปกรณ์บนเครื่องบิน มันจะค่อยๆ ลุกลามพร้อมควันมหาศาลและจะแผดเผาไปทั้งลำในที่สุด และอีกประเภทคือ “Flashover” ที่เชื้อเพลิงบนเครื่องบินเกิดการไหม้และทำให้เกิดเปลวไฟการลุกท่วมในชั่วพริบตา"

 

"จากการทดสอบครั้งนั้นระบุว่าแม้ว่าโครงสร้างในห้องโดยสารจะแข็งแรงขนาดไหน แต่หลังจาก 120 วินาทีคือระยะเวลาเฉลี่ยที่ผู้โดยสารจะสำลักควันไฟจนเสียชีวิตรวมไปถึงโดนไฟคลอกจนเสียชีวิตFAA จึงได้ปรับลดเวลาเหลือ 90 วินาทีเพื่อความปลอดภัย และใช้ตัวเลขนี้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา"

 

"จงจำไว้ว่า หากคุณรอดพ้นจากอุบัติเหตุเครื่องบินไม่ว่าจะชนิดใดรูปแบบใด อย่าคิดว่าตนเองปลอดภัยแล้วจนกว่าจะได้ออกจากเครื่องบิน เพราะสิ่งที่อันตรายที่สุดคือ “ไฟ” และ “ควันไฟ”

"ข้อมูลจาก FAA ระบุว่าในอดีตอุบัติเหตุส่วนใหญ่ที่เครื่องบินไม่ได้ชนรุนแรง ผู้โดยสารที่ยังรอดชีวิตกลับต้องมาเสียชีวิตอย่างไม่จำเป็น จากการสำลักควันไฟเพราะไม่สามารถอพยพออกจากเครื่องบินได้ทันในบันทึกยังระบุว่าอาจมีผู้รอดชีวิตเพิ่มขึ้นหากผู้โดยสารได้ฟังวิธีการขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือมีการกำกับการอพยพฉุกเฉินบนเครื่องบินอย่างเหมาะสม"

 

"ดังนั้นหากคุณสังเกตจากเหตุการณ์ในอดีต จากข่าว หรือแม้แต่มองเห็นการปฏิบัติของลูกเรือในสายการบินนั้นๆ แล้วคุณรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะออกได้ภายใน 90 วินาที เปลี่ยนสายการบินเถอะครับ เพราะคุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาอะไรได้อีกหากต้องอยู่บนฟ้า[opinion] ต่อไปแอดมินขอให้ความเห็นในฐานะที่เป็นนักบินมาเป็นเวลา 12 ปี"

 

“นักบิน” แชร์ประสบการณ์ 12 ปี  ชี้อุบัติเหตุบนเครื่อง ควรอพยพใน 90 วินาที

 

"หากเกิดเหตุการณ์เครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์ สิ่งที่เกิดขึ้นคือพื้นรันเวย์หรือพื้นดินจะกระทบกับสิ่งที่ไม่ควรกระทบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ หรือถังที่บรรจุเชื้อเพลิงเอาไว้ การครูดกันนี้ทำให้เกิดความร้อน ซึ่งความร้อนก็ก่อให้เกิดไฟ ไฟที่จะเกิดบนเครื่องบินจงจำไว้ว่า ไม่ว่าฝนจะตกหนัก หรือรันเวย์จะเปียกแค่ไหน มันไม่ได้ช่วยให้ไฟดับแต่อย่างใด"

 

"และแม้ว่าจะดับเครื่องยนต์ไปเรียบร้อยแล้ว นั่นไม่ได้รับประกันว่าไฟจะไม่ไหม้ สิ่งที่ควรทำเร็วที่สุดหากผมเป็นกัปตันในเที่ยวบินนั้น คือการสั่งให้ผู้โดยสารออกจากเครื่องบินให้เร็วที่สุด เพราะคุณไม่มีทางมั่นใจใดๆ ว่าเครื่องบินจะไม่เป็นอะไรอีกหลังจากนั้น"

 

"ถ้าหากไม่มั่นใจ ก็ควรสั่งอพยพ ไม่มีใครควรต้องมานั่งบนเครื่องบินที่เกิดอุบัติเหตุเป็นชั่วโมง จงคิดเอาไว้เสมอว่าการนั่งเครื่องบินคือการนั่งบนเชื้อเพลิงขนาดใหญ่หลายสิบตันพร้อมไฟฟ้าและความร้อนมหาศาล ดังนั้นหากสิ่งที่คุณนั่งทับอยู่มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่ไม่ควรอพยพออกจากมัน"

 

logoline