ญาติคุณยายถูกรถ ส.ส.ชนเสียชีวิต ร่ำไห้วอนขอความเป็นธรรม

จากกรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา รถหรูของ ส.ส.คฑาเทพ หรือเจ้าพ่อเหล้กไหล ซิ่งชนยายข้ามถนนเสียชีวิต ก่อนที่เจ้าตัวและคนขับรถลงมาดูบอกเป็นอุบัติเหตุรีบไปสนามบิน

         ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของผู้เสียชีวิต เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางพา ทองดี อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นญาติของผู้ตาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดอุบัติเหตุคุณยายได้ถือถุงปุ๋ยเพื่อที่จะไปหวานปุ๋ยที่นา ซึ่งขณะที่คุณยายกำลังจะข้ามถนนนั่น คงจะมองไม่เห็นว่ากำลังมีรถวิ่งมาจึงได้ถูกรถชนเอา ส่วนรถวิ่งเร็วหรือไม่เร็วนั้นตนไม่รู้เพราะไม่อยู่ในเหตุการณ์ แต่จุดที่เกิดอุบัติเหตุนั่นอยู่ในเลนในก็ไม่รู้ว่าจะวิ่งเร็วไหม และปกติคุณยายจะเดินข้ามถนนเองทุกวันอยู่แล้ว ไม่ได้มีลูกหรือหลานมาคอยจูงข้ามถนนแต่อย่างใด เพราะสายตาของคุณยายก็ยังดี หลังจากเกิดเหตุคู่กรณีก็ได้ลงรถมาดูอยู่ ส่วนเรื่องจะมีการรับผิดชอบอย่างไรนั้นตนเองก็ยังไม่รู้เพราะยังไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด

นางทองใบ ทองดี อายุ 67 ปี น้องสาวของคุณยายเปิดเผยกับทีมข่าวทั้งน้ำตาว่า หลังจากทราบข่าวตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะในช่วงฤดูทำนา เวลาดำนาตนก็ไปหา ได้ของกินอะไรก็เอาไปให้กิน เพราะกลัวว่าพี่สาวจะล้มในที่นา เพราะอายุมากแล้ว ลูกหลานก็ไปทำงานที่อื่นกันหมด ส่วนคนที่อยู่ด้วยก็สติไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก่อนหน้านี้ตนและพี่สาวเคยทำงานอยู่ที่ รพ.สต.ด้วยกัน แต่เนื่องจากพี่สาวของตนป่วยเป็นคอพอกต้องผ่าตัด ก็เลยให้หยุดพัก ตนก็อยากร้องขอความเป็นธรรมให้คู่กรณีเข้ามาดูแลช่วยเหลือทุกอย่าง เพราะพี่สาวตนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว ลูกหลานที่อยู่ด้วยก็ไม่ค่อยสมประกอบเท่าไหร่ หลังจากเกิดเหตุคนขับรถก็ได้เดินทางมาดูคุณยายที่โรงพยาบาล ส่วน ส.ส.ก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเพราะรีบที่จะเดินทางขึ้นเครื่องไปกรุงเทพฯ  เห็นแต่เพียงแฟนของ ส.ส.ที่เข้ามาดำเนินเรื่องแทน ก็อยากให้ทางคู่กรณีเข้ามาดูแลรับผิดชอบ ส่วนเรื่องอื่นจะดำเนินการยังไงก็ขอให้เสร็จงานศพนี้ไปก่อน

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่ร้านค้าที่ใกล้จุดเกิดเหตุ พบกับ นางคำภา อุทอามาศ อายุ 54 ปี เจ้าของร้านดังกล่าว เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ปกติผู้เสียชีวิตจะข้ามถนนวิ่งมาที่บริเวณหน้าร้านของตนอยู่เป็นประจำ เพื่อแวะซื้ออาหารก่อนที่จะไปนา แต่เมื่อเช้า คุณยายไม่ได้แวะซื้อและไปเดินข้ามถนนอีกที่หนึ่งซึ่งไม่ใช่หน้าร้านตนเองเหมือนเคย ช่วงเวลานั้นตนเองก็มัวจัดของเพื่อเตรียมขายอยู่ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งได้ยินเสียงรถเบรคดังมาก ก่อนที่จะมีเสียงตูมเกิดขึ้น ทีแรกตนก็นึกว่ารถชนหมา แต่พอวิ่งออกไปดูถึงรู้ว่าเป็นคุณยาย ตอนชนทีแรกยายยังไม่รู้สึกตัว พอสักพักยายรู้สึกตัวคุณยายก็บอกว่าเหนื่อยๆ ตนก็บอกคุณยายว่าเดี๋ยวไปหาหมอก็หายแล้ว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุก็ได้มีคนขับรถและอีกคนลงมาดู และก็ได้มีการโทรเรียกรถพยาบาลเพื่อมารับตัวคุณยาย แต่กว่ารถพยาบาลจะมาก็เกือบ 20 กว่านาที และได้บอกว่าตนเป็น ส.ส.พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างเองไม่ต้องห่วง

        ด้าน น.ส.สร้อยสุดา พันธ์ศรี อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้เห็นเหตุการ์เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนออกมาอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน คุณยายอาจจะดูเหมือนข้ามถนนแบบกระชั้นชิดก็จริง แต่ทางด้านรถที่ชน ก็น่าจะขับมาเร็วเหมือนกัน ส่วนตัวเองคิดว่าคุณยายก็คงจะไม่เห็นรถ เนื่องจากตอนในเป็นช่วงเช้ามืด ส่วนตัวคิดว่ารถน่าจะมาเร็วเพราะได้ยินเสียงเบรคมาแต่ไกล พอมาถึงจุดที่เกิดเหตุก็ชนเข้ากับยายเข้าพอดี เพราะทีแรกตอนที่ตนเห็นคุณยาย  คุณยายก็ดูเหมือนจะไม่ข้ามถนน แต่พอตนหันมาอีกทีคุณยายก็เดินข้ามถนนไปอย่างเร็ว และจุดที่เกิดเหตุก็อยู่ในช่วงกลางเลนในพอดี

       ขณะที่ทางด้าน ร.ต.ท.คำภา พันธุ์เพ็ง รอง สว.(สอบสวน) หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ ก็ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรถเก๋งคู่กรณีที่ 1.รถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ รุ่น E200 สีดำ ทะเบียน ฆฬ 1968 กรุงเทพมหานคร พบความเสียหาย ฝากระโปรงหน้ามีรอยบุบ และกระจกบังลมหน้าตรงกลางด้านล่างแตกร้าว ผู้ชับรถคือ ส.อ.วีระยุทธ ผาริวงค์ อายุ 32 ปี ที่อยู่ 52 หมู่ 3 ต.นาหมอม้า อ.เมือง จว.อำนาจเจริญไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ได้ขับรถชน นางพั่ว พลธานี อายุ 77 ปี ขณะข้ามถนน ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบพบว่า รถที่เกิดเหตุ เป็นรถเบนซ์ของส.ส คนหนึ่ง ขับมาด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้าเข้าจังหวัดอุบลราชธานี

ขณะที่ คุณยายกำลังข้ามถนน จึงพุ่งชนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตเวลาต่อมา ขณะที่เกิดเหตุ ส.ส คนดังกล่าวไม่ได้เป็นคนขับ แต่ลงมาจากรถ และ คนขับรถบอกกับเจ้าหน้าที่ ว่าต้องรีบขับรถไปส่ง ส.ส.ต่อเพื่อไปขึ้นเครื่องที่อุบลฯ และให้คนขับรถกลับมาให้การกับตำรวจ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายกับคนขับรถดังกล่าวแล้ว และจะได้มีการสรุปสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ/ข่าว:  จาตุรนต์ แสวงนาม  สำนักข่าวเนชั่น จ.อำนาจเจริญ