svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นิวัติไชย"ยันไลน์หลุดส.ส.ปมรับเงินไม่ซ้ำรอยนาฬิกายืมเพื่อน

26 กรกฎาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"นิวัติไชย"ชี้ช่องปมไลน์หลุด ส.ส. พรรคเล็กรับเงินรายเดือน เป็นเพียงการกู้ยืมเงิน ไม่เข้าข่ายความผิด แต่หากมีมูลชัดทั้งผู้ให้-ผู้รับ โดนแน่ การันตีไร้ซ้ำรอยนาฬิกายืมเพื่อน ย้ำ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจยุบพรรคการเมือง เพราะเป็นหน้าที่ กกต.

26 กรกฎาคม 2565 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีข่าวไลน์หลุด โดยมีชื่อของนักการเมืองพรรคเล็กบางคน ได้รับเงินรายเดือนๆละ 100,000 บาท พร้อมมีการแฉสลิปโอนเงินนั้น ว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ฝ่ายการข่าวกิจการพิเศษ รวบรวมข้อมูลอยู่ ส่วนจะนำเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เมื่อไหร่นั้น ก็ต้องดูรายละเอียดของข้อมูล ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่

 

นอกจากนี้ ที่สำคัญอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. ด้วยหรือไม่ และหากมีบุคคลมาร้องเรียน ก็จะหยิบยกประเด็นดังกล่าวมารวมกัน แต่หากไม่มีผู้ร้องเรียนคณะกรรมการ ก็อาจยกเหตุเพื่อทำการไต่สวนต่อไปได้ 

 

ส่วนกระแสข่าวดังกล่าวที่ปรากฎพบเป็นการให้ยืมเงิน ซึ่งต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ายืมจริงหรือไม่ หากยืมจริงก็คงไม่มีความผิด เพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะยืมเงินได้ แต่หากไม่ใช่เรื่องของการกู้ยืม แต่เป็นการให้ก็จะเป็นอีกกรณีหนึ่ง แล้วให้นั้นให้สืบเนื่องจากอะไร  

"ถ้าให้เฉยๆไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ ก็อาจจะต้องไปดูกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรับทรัพย์สินเกินกว่า 3,000 บาท แต่หากเป็นการให้เพื่อจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ รับไว้เพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งในตำแหน่ง ก็อาจเข้าข่ายผิดตามประมาลกฎหมายอาญามาตรา 149 ได้ อีกทั้ง ยังมีกรณีพฤติการณ์กระทำความผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ต้องตรวจสอบตามขั้นตอนต่อไป โดยข้อเท็จจริงในขณะนี้ คือเพียงการยืมเงินเท่านั้น ส่วนสลิปการโอนเงินนั้น เป็นหลักฐานที่ใช้พิจารณาได้" นายนิวัติไชย กล่าว 

 

ส่วนที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตรวมถึงกังวลคดีดังกล่าวจะคล้ายกับคดีการยืมนาฬิกาเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นั้น ยืนยันไม่เหมือนกัน เพราะคดียืมนาฬิกาเพื่อน มีการวินิจฉัยที่ชัดเจนแล้ว ก่อนอธิบายการยืมมีแบบคงรูปและสิ้นเปลือง ถ้ายืมแล้วมีการชดใช้ ก็ไม่เข้าข่ายความผิด แต่หากเป็นการให้มีความแตกต่างกัน 

ถามต่อถึงความผิดทั้งผู้ให้และผู้รับหรือไม่ เลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุว่า ต้องดูข้อเท็จจริงว่าผู้ให้ ให้เพราะอะไร ถ้าเป็นการจูงใจผู้ให้ก็มีความผิด ความหมายคือการให้สินบนเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าข่ายให้แบบมีผลประโยชน์แอบแฝง แต่ความผิดจะแตกต่างกัน เพราะคนละมาตรา

 

ส่วนกรณีดังกล่าวหากมีความผิดจะเข้าข่ายถึงขั้นยุบพรรคการเมืองหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ขอก้าวล่วง เพราะการตัดสินยุบพรรค ไม่ใช่อำนาจของ ป.ป.ช. มีหน้าที่วินัจฉัยและส่งไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เรื่องนี้คงต้องเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 


 

logoline