ซัดกันแหลก ! โมโหเพื่อนบ้านจอดรถขวางทางเข้า คว้าจอบ – เสียมปะทะ เจ็บทั้งคู่

วันนี้ (24 ก.ค. 65) ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลว่าชาบ้าน ม.2 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ได้ทะเลาะกันรุนแรง จนต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บทั้ง 2ฝ่าย บ้างก็เย็บถึง 9 เข็ม บ้างก็หัวแตกบ้างก็ตาบวมจนตาปิดไปข้างหนึ่งและยังมีรอบฟกช้ำที่ขา ซึ่งได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้าต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายที่ สภ.หนองกรับ โดยทั้งหมด ต่างฝ่ายต่างไปแจ้งดำเนินคดีต่อกัน

น.ส.ณัฐกานต์ ทอนวงศ์ยา อายุ 30 ปี เป็นฝ่ายที่โดนเย็บที่แขน 9เข็มให้ข้อมูลว่าวันเกิดเหตุ 22/7/65 เวลา 19.30 น. ตนเอง จอดรถ ขวางทาง เข้า-ออกบ้าน ตนจึงออกมาดูและเรียกสามีรีบไปเอากุญแจมาย้ายรถ ในจังหวะที่สามีกำลังถอยรถ คู่กรณีหาว่าสามีตนเอง ถอยไปชนรถเขา จากนั้นคู่กรณีจึงลงรถแล้วคว้าเสียมมาตีเข้าที่ ขอบปะตูรถ 2 ครั้งจนยุบเป็นรอย ตนเองกลัวรถพังเสียหายจึงกระโดดเอาตัวไปขว้าง เลยโดนเสียมตีที่หัวไป 1ครั้ง จากตรงนี้เลยเกิดการตะลุมบอนกันขึ้น ซัดกันมั่วไปหมด ตนเองกับสามี 1 คู่ และคู่กรณี 1 คู่ รวมเป็นเหตุทะเลาะวิวาทตะลุมบอนกันรวม4 คน ซึ่งน.ส.ณัฐกานต์ ยังพาผู้สื่อข่าวไปดูรอยรถที่ถูกคู่กรณีเอาเสียมตีตรงขอบประตูรถด้วย ต่อมามีตำรวจเข้ามาที่เกิดตำรวจจึงได้เรียกกู้ชีพหนองบัวเข้ามาปฐมพยาบาลและนำไปรักษาเย็บแผลที่ รพ.บ้านค่าย

ด้านคู่กรณีมีนายประวิช พิศดาร อายุ 57 ปี ตาขวามีรอบบวมช้ำจนตาเกือบปิด และ นางสมควร อัฌาสัย อายุ 49 ปี ได้เดินทางมาถึง สภ.หนองกรับ จ.ระยอง เมื่อมาถึง ทั้ง 2 คนได้โชว์ รอบพกช้ำจากการ ตะลุมบอนกันให้ดู นายประวิช มีรอยบวมเขียวช้ำที่ตา จนตาขวาเกือบปิด นางสมควร มีรอยช้ำที่ต้นขา

ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามดูว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร นายประวิชและนางสมควรเล่าให้ฟังว่า วันเกิดเหตุได้มาตัดหญ้าทำความสะอาดที่บ้าน ซึ่งบ้านหลังนี้ให้คนเช่าอยู่ โดยหลังจากตัดหญ้าทำอะไรเสร็จ กำลังจะขับรถกลับบ้าน ในจังหวะที่กำลังขับรถออกจากที่เกิดเหตุ ปรากฎว่ารถ คู่กรณีที่อยู่บ้านตรงข้ามได้จอดยื่นมาขว้าง ทางเข้าออกทำให้รถตนเองเลี้ยวออกไม่ได้ ตนจึงบีบแตรเตือนไป จากนั้นคู่กรณีจึงออกมา และมีการมาขยับรถถอยมาชนที่รถตนเองจนเหล็กของกันชนหน้าหลุด จึงเกิดความโมโหจนได้เอาเสียม ไปฟาดที่ รถ 2ครั้ง จากนั้นคู่กรณีได้แย่งเสียมจากต้นไปและตนเองก็โดนฟาดจนขอบตาเขียวช้ำ ต่อจากนั้นก็ต่อสู้กันจนมีคนได้รับบาดเจ็บ

นายประวิช ยืนยันว่าวันนั้นไม่ได้มีมีด มีแต่เอาจอบ เหวี่ยงไปเหวี่ยงมา แต่ไม่รู้ไปโดนใครบ้าง นายประวิช ยังพาผู้สื่อข่าวไปดูที่หน้ารถตัวเองที่โดนชนด้วยและยังพาไปดู จอบที่ใช้เป็นอาวุธในคืนนั้น ส่วนเสียมตำรวจยึดมาเป็นหลักฐานแล้ว ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ลักษณะของรถที่จอดนั้น ฝ่ายหนึ่งจอดอยู่ริมถนน ฝ่ายหนึ่งจอดอยู่ในบ้าน ซึ่งจากการประเมินด้วยสายตา พบว่าประตูทางเข้า -ออกบ้าน ใหญ่พอสมควร

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับผู้เห็นเหตุการณ์ น.ส.แพรวิไล ช่วยไชัย อายุ 19 ปี ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ไม่น่าจะมีเรื่องรุนแรงกันเลย หากต่างฝ่าย พูดจากันดีดี ไม่มีการบีบแตรไล่กันมันก็คงจะไม่เกิดเรื่อง และที่ว่าจอดรถขวางนั้นจริงๆมันก็ไม่ได้ขวางถึงขนาดออกไม่ได้ ออกได้สบาย แต่เขาก็เลือกที่จะทะเลาะวิวาทกันจนมีการบาดเจ็บตามมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองกรับ จ.ระยอง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุก่อนทำการสอบสวนดำเนินการตามกฏหมายต่อไป