เป็นเรื่องราวที่น่าตกตะลึงและหดหู่ใจ และเป็นไปตามที่ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายเป็นห่วง กรณีกัญชาแพร่ระบาดในหมู่เยาวชน รวมถึงเข้าไปในสถานศึกษา เมื่อวันนี้ (19 ก.ค.) ได้มีผู้ปกครองใน จ.ลำปาง รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ลูกของตนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.ห้างฉัตร จ.ลําปาง มีอาการอ่อนเพลีย สะลึมสะลือ นั่งหลับกันในช่วงเวลาเรียน ลักษณะเหมือนเสพกัญชา และพบว่ามีนักเรียนรายอื่น ๆ มีอาการในลักษณะเดียวกันด้วย จึงเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ซึ่งภายหลัง ทางผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวได้ออกมายอมรับว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนทราบว่า มีนักเรียนในโรงเรียนแอบลักลอบขายกัญชาแห้งให้นักเรียนจริง โดยเป็นนักเรียนมัธยมปลายซึ่งทางโรงเรียนได้มีการแจ้งให้ผู้ปกครองของเด็กทราบ พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้างฉัตร แล้ว โดยมีการบันทึกภาพและตรวจยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาทางโรงเรียน ได้มีการตรวจเข้มนักเรียนทั้งหมด จํานวน 500 กว่าคน โดยให้ครูเวรและครูประจําชั้น ตรวจกระเป๋ากางเกง และกระเป๋าหนังสือของนักเรียนทุกคนที่มาเข้าแถวเคารพธงชาติ ส่วนรถรับส่งนักเรียนให้จอดส่งและรับด้านนอกทุกคัน แต่ก็ยอมรับว่า ยังมีการนํากัญชามาขายให้นักเรียนอยู่ ซึ่งคนขายก็เป็นคนเดิม จึงได้ประชุมกับฝ่ายครูและผู้ปกครอง จนข่าวแพร่สะพัดออกไป ทําให้ปกครองติติงทางโรงเรียนว่าละเลยไม่เอาใจใส่
ด้าน ครูชํานาญการพิเศษ หน.กลุ่มงานบริหารบุคคล และกิจกรรมนักเรียน กล่าวว่า หลังจากพบว่า นักเรียนหญิง ชั้น ม.6 คนเดิม ยังแอบลักลอบขายกัญชาให้เพื่อน โดยนำกัญชาสกัดเป็นน้ำมาขายอีก จึงแจ้งให้ผู้ปกครองมารับทราบ ซึ่งทางผู้เป็นพ่อยอมรับว่า จะให้ลูกย้ายไปเรียนที่ใหม่เอง ทางโรงเรียนไม่ได้ไล่ออก เพราะยังให้โอกาสเด็กกลับใจ แต่ในที่สุดผู้ปกครองก็ยืนยันจะรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเอง เพื่อให้ครูผู้ ปกครองนักเรียนคนอื่น ๆ สบายใจ
ส่วนผู้ปกครอง คนที่ร้องเรียน กล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากให้ทางโรงเรียนมีมาตรการที่เข้มข้น ตรวจสอบทั้งบุคคลภายนอกและภายในที่เข้าออกโรงเรียน เพราะเชื่อว่า นักเรียนต้นเหตุอาจซุกซ่อนกัญชาเข้ามาทางใดทางหนึ่ง หากทางโรงเรียนไมมีมาตรการที่ดี ตนก็อาจจะย้ายลูกไปเรียนที่อื่น เพื่อปลอดภัยของชีวิตและสุขภาพของลูก