วันนี้ (16 ก.ค.) นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ อดีตประธานอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงปัญหาราคามะพราวตกต่ำว่า ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนมะพร้าวใน อ.เมือง อ.ทับสะแก อ.บางสะพาน ซึ่งมีพื้นที่ปลูกมะพร้าวทับสะแกมากที่สุดในประเทศ กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังราคาขายผลผลิตหน้าสวนในราคาผลละ 7 บาท ขณะที่ชาวสวนบอกว่าราคามะพร้าวไม่ควรต่ำกว่าราคาผลละ 10 บาท เพื่อให้คุ้มกับต้นทุนการผลิต
นายประมวล กล่าวด้วยว่า ปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการลักลอบนำเข้ามะพร้าวเถื่อน หลังจากมีการจำกัดนำเข้าได้เพียงด่านศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ และด่านศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง แต่ปัญหาเกิดจากการบริโภคมะพร้าวภายในประเทศ ซึ่งเป็นช่วงที่ผลไม้หลายชนิดออกสู่ท้องตลาด มีมะพร้าวจากภาคใต้เข้ามาทุบราคามะพร้าวหัวขูดที่ประจวบฯ ทั้งยังมีปัญหาจากการนำเข้ากะทิสำเร็จรูป ขณะที่การส่งออกกะทิจากไทยก็ประสบปัญหาในบางประเทศ มีเงื่อนไขกีดกันทางการค้าอ้างว่า มีการนำลิงกังมาใช้เก็บผลผลิต เข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์ป่า
ด้าน นายธนิตย์ อังสวัสดิ์ เจ้าของล้ง “ยุ่นจี ค้ามะพร้าว” ต.แสงอรุณ อ.ทับสะแก เปิดเผยว่า รับซื้อมะพร้าวหน้าสวนคละขนาดผลละ 7 - 8 บาท หลังจากหักค่าสอย ค่าเก็บ เจ้าของสวนก็เหลือผลละไม่เกิน 4 บาท แต่ปีนี้ผลผลิตมาก เนื่องจากฝนดี ผลผลิตยังขายได้ปกติ โดยล้งรับซื้อไปส่งโรงงานผลิตเป็นมะพร้าวหัวขูด แต่คาดว่าอีก 2 เดือน ผลผลิตมะพร้าวจะลดลง ทำให้ราคาอาจจะสูงขึ้น แต่คงไปไม่ถึงผลละ 20 บาท สำหรับการเก็บมะพร้าวที่ อ.ทับสะแก จะใช้ไม้สอยมากกว่าการใช้ลิงกัง
สำหรับมะพร้าวทับสะแก เป็นมะพร้าวที่นิยมเอามาใช้ทำกะทิแกงมาก เพราะมีขนาดของผลใหญ่ให้เนื้อที่เยอะกว่ามะพร้าวทั่วไป และยังมีจุดเด่น คือ ความมัน ความหวาน เพราะในความมันจะมีความหวานติดอยู่ที่ปลายลิ้น จึงเป็นที่นิยมนำมาทำเป็นขนมไทย และอาหารที่ต้องใช้กระทิอีกหลายเมนู